หมอปลาหอบเณรปอบรักษา เผยประวัติสุดสงสารบ้านแตกทำเสียสติ อึ้งทักดวง “ลุง” คนดัง (คลิป)

จากกรณี นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ได้เดินทางมาพบนายเจริญทรัพย์ ศรีนวล อายุ 35 ปี ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หรือในอดีต คนรู้จักกันในชื่อ "เณรผีปอบ" ที่เคยทำพิธีควักไส้เป็ดกินสด ๆ ซึ่งหมอปลาจะรับตัวนายเจริญทรัพย์ไปดูแล พร้อมพาไปพบแพทย์ เนื่องจากคาดว่านายเจริญทรัพย์น่าจะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจจนสติผิดเพี้ยนไปหรือไม่นั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดชีวิตสุดเศร้าอดีตเณรปอบแม่ให้ 2 พันก่อนทิ้ง "ปลา" ช่วยพารักษา อึ้งดูดวงแม่น

วันที่ 15 มิ.ย. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมายัง หมู่ 5 ตำบลศรีมงคล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ชาวบ้านได้ดูแลนายเจริญทรัพย์ตลอดคืนที่ผ่านมา นางสาวกรกรตชกร ดาราวรรณ อายุ 37 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตนระแวงว่านายเจริญทรัพย์จะหนี ต่างคนต่างระแวงกัน ตนจึงได้พยายามชวนนายเจริญทรัพย์คุยเพื่อความเป็นกันเอง นายเจริญทรัพย์ก็ได้เล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง บอกว่าโตมาขาดความรัก ตอนนี้เหลือแม่เพียงคนเดียว แต่แม่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เจอกันนาน ติดต่อไม่ได้

เมื่อตนจะหลับ นายเจริญทรัพย์ก็จะชวนคุยใหม่ หากไม่ยอมคุยด้วยก็จะหงุดหงิด ตนจึงต้องชวนนายเจริญทรัพย์เต้น กว่าจะได้นอนก็เวลาประมาณ 03.00 น. ได้นอนเพียง 2 ชั่วโมงก็ตื่นแล้ว

โดยตนได้ทอดปลาให้นายเจริญทรัพย์กิน พร้อมนำชุดมาให้นายเจริญทรัพย์ใส่ เพราะอยากให้นายเจริญทรัพย์สดใส ซึ่งนายเจริญทรัพย์ก็ชอบ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่นายเจริญทรัพย์ใส่ชุดขาว เพราะนายเจริญทรัพย์คิดว่าคนจะรัก นายเจริญทรัพย์เป็นคนไม่มีพิษภัย เป็นคนตลกอารมณ์ดี ตนรู้สึกสงสารนายเจริญทรัพย์ที่ต้องกลายเป็นคนแบบนี้ แต่ตนรู้สึกดีใจที่หมอปลาจะมารับตัวนายเจริญทรัพย์ไปดูแล ตนอยากให้นายเจริญทรัพย์ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ นอกจากนี้ ยังมีคลิปที่นายเจริญทรัพย์เต้นบ่อยๆ เพราะเจ้าตัวอารมณ์ดี

จากนั้น เวลา 12.00 น. หมอปลาได้เดินทางมาถึง หมู่ 5 ตำบลศรีมงคล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อมารับตัวนายเจริญทรัพย์กลับจังหวัดเพชรบุรี หมอปลาสอบถามนายเจริญทรัพย์ว่าเคยตรวจเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งนายเจริญทรัพย์ก็ได้พูดติดตลกว่า "วุ่นวาย ไม่ไปก็ไม่ไป ไม่เอาจักรยานแล้วก็ได้" ซึ่งสุดท้ายแล้วนายเจริญทรัพย์ก็ได้บอกว่าเคยตรวจแล้ว ตอนที่ปั่นจักรยานเข้ามาในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะปั่นจักรยานผ่านด่านคัดกรอง จากนั้นหมอปลาก็ได้ชวนนายเจริญทรัพย์พูดคุย เพื่อให้นายเจริญทรัพย์เกิดความสบายใจ หมอปลาบอกให้นายเจริญทรัพย์ดูดวงให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 3 ช่อง ได้แก่ อมรินทร์ทีวี ไทยรัฐ และช่อง 8 ว่ามีดวงกลัวเมียหรือไม่

นายเจริญทรัพย์ บอกว่า "อยากให้ทุกคนพูดเพราะ ๆ ถ้าอยากรู้ ก็เอาจักรยานมาให้สิ" หมอปลาตอบกลับว่า "เดี๋ยวไปเอาที่บ้าน ที่บ้านจักรยานเยอะ" พร้อมบอกให้นายเจริญทรัพย์เลิกสุรา เนื่องจากมีชาวบ้านฟ้องว่านายเจริญทรัพย์มักจะขอสุราดื่มอยู่ตลอด นายเจริญทรัพย์ก็รับปาก "น้องจะตามใจพี่สักครั้ง ที่ดื่มเพราะชาวบ้านพาเสียคน" แล้วทั้งคู่ก็เกี่ยวก้อยสัญญากัน แต่นายเจริญทรัพย์มีข้อแม้ว่าอย่าห้ามให้กินมากนะ จากนั้นนายเจริญทรัพย์ก็เกิดอาการน้อยใจหมอปลาพูดว่า "เธอว่าฉันเป็นปอบ" โดยหมอปลาก็ได้บอกว่า "แม่ไม่เป็น ๆ ถ้าแม่เป็นปอบ แม่กินไส้ผมได้เลย" นายเจริญทรัพย์พูดต่อว่า "พระอาจารย์ไพรวัลย์ก็ว่าฉัน แต่จะว่าไปฉันก็อยากไปกราบพระอาจารย์พะยอม" ซึ่งหมอปลาก็รับปากว่าจะพาไป

จากนั้น หมอปลาก็ได้เกลี้ยกล่อมบอกให้นายเจริญทรัพย์เดินไปขึ้นรถ บอกว่า "จะให้แม่ไปดูดวงคนที่บ้าน ไปช่วยรักษาคนป่วย" ซึ่งนายเจริญทรัพย์ก็ได้ย้อนว่า "ดูดวงชีวิตคน ฉันเอาชีวิตฉันให้รอดก่อนดีไหม ถ้าจะให้รักษาคนป่วย ต้องใช้เพลงบำบัด"

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ถามนายเจริญทรัพย์ว่า "สรุปแล้ว ยอมไปกับหมอปลาเนอะ" นายเจริญทรัพย์บอกว่า "ยัง Test หมอปลาไม่จบ" ซึ่งนายเจริญทรัพย์ถามว่าจะเอาอย่างไรต่อกับบ้านเมือง หมอปลาไม่รู้จะตอบอะไร จึงตอบไปว่าเดี๋ยวพาไปทำเนียบฯ ซึ่งทีมข่าวก็ได้ช่วยพูดว่าพอไปถึงบ้านหมอปลาแล้ว จะได้จักรยานคันใหม่ จักรยานจะมาจอดรอที่บ้าน ทำให้นายเจริญทรัพย์ยอมเก็บของขึ้นรถไปกับหมอปลา

ขณะที่นายเจริญทรัพย์เก็บของเข้ากระเป๋า ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้สอบถามนายเจริญว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม นายเจริญทรัพย์บอกว่านอนไม่ค่อยหลับ เพราะระแวงชาวบ้าน กลัวจะถูกขโมยเงินและบัตรประชาชน

จากนั้นนายเจริญทรัพย์ก็ได้เดินไปยังรถจักรยาน แล้วแกะตัวล็อกโทรศัพท์ที่ติดอยู่กับจักรยานออกมา ทิ้งรถจักรยานไว้ที่บ้านของชาวบ้าน แล้วเดินขึ้นรถตู้ของหมอปลา โดยเมื่อนายเจริญทรัพย์เข้าไปนั่งในรถตู้ของหมอปลาแล้ว ทีมข่าวได้สอบถามนายเจริญทรัพย์และคุณน้ำฟ้า ภรรยาของหมอปลา เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของนายเจริญทรัพย์ต่อจากนี้

คุณน้ำฟ้า บอกว่า ขณะนี้พวกตนสนิทกันแล้ว นายเจริญทรัพย์บอกให้ตนเรียกว่า "แม่ย่า" ซึ่งนายเจริญทรัพย์บอกกับตนว่าจะขอไปช่วยคนที่บ้าน แล้วจะขอปลูกพริกที่บ้าน ด้านนายเจริญทรัพย์ บอกว่าวันนี้จะไปโปรดคนที่บ้านหมอปลา ขอให้ทุกคนมีความสุข ซึ่งน้ำฟ้าเป็นคนอารมณ์ร้อน ขณะนี้ยังไม่จบเกม เพิ่งเริ่มชีวิต

ทีมข่าวได้เดินทางมายังตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่อยู่เดิมของนายเจริญทรัพย์ เพื่อตามหาบ้านเก่าและคนที่รู้จักกับนายเจริญทรัพย์ พบบ้านเดิมของนายเจริญทรัพย์ เป็นบ้านปูน 2 ชั้น หลังคาสีฟ้า ภายในรั้วเดียวกันยังมีบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ 2 ชั้น อีก 1 หลัง โดยขณะนี้บ้านทั้ง 2 หลังถูกปล่อยเช่าและขายต่อเปลี่ยนไปหลายมือ

นางวิลัย ศรีบุรี อายุ 56 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า นายเจริญทรัพย์ หรือ เอ็ดดี้ เป็นเด็กที่อาจารย์วิเชียรเก็บมาเลี้ยง โดยอาจารย์วิเชียรแต่เดิมเป็นคุณครูประจำโรงเรียนหญิงล้วนในจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อปลดเกษียณก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน เมื่ออาจารย์วิเชียรทราบข่าวว่าแม่ของนายเจริญทรัพย์ตั้งครรภ์ในวัย 15 ปี ชั้น ม.3 โดยไม่ทราบว่าใครคือพ่อของเด็กในครรภ์ อาจารย์วิเชียรจึงรับอุปการะแม่ของนายเจริญทรัพย์ เพราะครอบครัวของฝั่งแม่ของนายเจริญทรัพย์มีฐานะไม่ดี มีอาชีพขายข้าวแกง จนแม่ของนายเจริญทรัพย์คลอดนายเจริญทรัพย์ออกมา

นายเจริญทรัพย์เป็นเด็กเรียบร้อย พูดเพราะ ชอบแต่งตัว มีนิสัยท่าทางคล้ายผู้หญิง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจารย์วิเชียร์ดูแลนายเจริญทรัพย์อย่างดีมาโดยตลอด อยากกินอะไรก็ได้กิน มีเงินใช้ไม่ขาด มีพี่เลี้ยงค่อยดูแล กระทั่งอาจารย์วิเชียรเสียชีวิตลง ยายเขียว เพื่อนของอาจารย์วิเชียรจึงเข้ามาช่วยดูแลนายจริญทรัพย์ต่อ เนื่องจากอาจารย์วิเชียรไม่มีครอบครัว กระทั่งยายเขียวย้ายไปอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้พานายเจริญทรัพย์ไปด้วย จากนั้นชาวบ้านก็ไม่เคยเห็นนายเจริญทรัพย์อีก จนปรากฏเป็นข่าวเณรผีปอบกินเป็ดสด

ตนรู้สึกเป็นห่วงนายเจริญทรัพย์ เพราะเป็นเด็กในชุมชนที่เห็นมาตั้งแต่เกิด ไม่รู้ว่าช่วงที่นายเจริญทรัพย์ออกไปจากชุมชน นายเจริญทรัพย์ไปเจอเรื่องอะไรมาบ้าง ตนกลัวว่าการปั่นจักรยานข้ามจังหวัด สักวันนายเจริญทรัพย์อาจประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งนายเจริญทรัพย์ยังเป็นโรคคล้ายโรคขาดสารอาหาร ผอมแห้ง ไม่ค่อยกินข้าวมาตั้งแต่เด็ก ส่วนตัวคาดว่าการเสียชีวิตของอาจารย์วิเชียรก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายเจริญทรัพย์ช็อก จนมีสภาพดั่งที่เห็นในปัจจุบัน

ล่าสุด เมื่อเวลา 20.30 น. หมอปลาพร้อมนายเจริญทรัพย์ได้เดินทางถึงบ้านของหมอปลา จ.เพชรบุรี โดยหมอปลาได้นำข้าวหมูกรอบมาให้นายเจริญทรัพย์กิน และได้นำรถจักรยานสีชมพู ราคา 2,000 บาท มาให้นายเจริญทรัพย์ ซึ่งนายเจริญทรัพย์ได้บอกว่าอร่อยมาก บอกว่าชอบรถจักรยานมาก แต่เสียดายที่รถจักรยานคันใหม่ไม่มีเกียร์ โดยนายเจริญทรัพย์ได้ยิ้มแล้วเดินเข้ามาดูจักรยานอย่างมีความสุข

จากนั้น นายเจริญทรัพย์ทำนายดวงชายปริศนาคนดังในข่าว ระบุว่า ตนติดตามข่าวลุงตลอด กรรมของเขามีเยอะ อีกทั้งยังมีมารรอบตัวจำนวนมาก โดยไม่มีใครสามารถช่วยอะไรได้ เขาต้องแก้ที่ตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะยิ่งต้องพบเจอเรื่องร้าย ๆ อีกทั้งไม่ควรสร้างพญานาค เพราะยิ่งทำให้ดวงแย่ลง แม้ไล่มารออกไปก็ไม่พ้นคดี แต่อย่างน้อยจะผ่อนหนักเป็นเบาได้