โควิดสายพันธุ์เดลตา ล่าสุดพบในไทย 496 คน คาด 3 เดือนลามแทนอัลฟา

16 มิ.ย. 64

โควิดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ล่าสุดพบในไทย 496 คน สธ.จับตา หากระบาดหนัก ไม่เกิน 3 เดือนลามเท่าอัลฟา(อังกฤษ) ขณะที่ล่าสุดพบสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) นอกตากใบ

วันนี้(16 มิ.ย.64) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบในประเทศไทย จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งเข้าไปยังกรมวิทยาศาสตร์ฯ ระหว่างวันที่ 7 เม.ย.-13 มิ.ย. จำนวน 5,055 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) 4,528 ราย คิดเป็น 89.6% สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) เพิ่มขึ้นจาก 359 ราย ที่รายงานไปก่อนหน้านี้ เป็น 496 คน หรือเพิ่มขึ้นอีก 137 ราย

โควิดสายพันธุ์เดลตา ล่าสุดพบในไทยแล้ว 348 คน ลาม 11 จังหวัด

พื้นที่ที่พบสายพันธุ์เดลตามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ สะสม 404 ราย โดยเป็นรายใหม่ 86 ราย และยังพบ 10 ราย ในโรงพยาบาลกลางกรุงเทพฯ 3-4 แห่ง อัตราการเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 9.8% นอกจากนี้ ยังพบที่ ปทุมธานี 28 ราย นครนายก 8 ราย สกลนคร 3 ราย พะเยา 2 ราย อุบลราชธานี 2 ราย เชียงราย เพชรบูรณ์ ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น อุดรธานี เลย และ บุรีรัมย์ จังหวัดละ 1 ราย  

ขณะที่สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ที่เริ่มพบที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เดิมพบ 26 ราย ขณะนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย นอกพื้นที่ อ.ตากใบ แต่ยังอยู่ใน จ.นราธิวาส ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบอีก 3 ราย ในสถานกักกันตัวของรัฐ จ.สมุทรปราการ ด้วย

img_9012(1)_1

“ความสามารถในการแพร่เชื้อของสายพันธุ์เดลตา มากกว่าสายอัลฟ่า 40% ซึ่งต้องมีการจับตาอย่างใกล้ชิดเป็นรายสัปดาห์ หากสถานการณ์ยังทรงๆ อาจจะไม่มีปัญหา แต่หากยังมีการแพร่ระบาดแบบก้าวกระโดด คาดว่าประมาณ 2-3 เดือน อาจจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากขึ้น สัดส่วนครึ่งต่อครึ่งกับสายพันธุ์อัลฟา(อังกฤษ) ส่วนในต่างจังหวัดที่พบเชื้อสายพันธุ์เดลตานั้น พบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ มาก่อน โดยเฉพาะแคมป์คนงานหลักสี่ ข้อมูลที่กรมวิทยาศาสตร์ฯ ออกมารายงานให้ทราบสม่ำเสมอนั้น ไม่ได้ต้องการทำให้ตกใจ แต่เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา การเฝ้าระวังเพื่อการควบคุมโรค” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ด้าน นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ขณะนี้มีการศึกษาวิจัยการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคหลังฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ใน 200 คน โดยนำเลือหรือซีรั่ม มาตรวจสอบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ พบว่า เมื่อตรวจพบเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม มีภูมิขึ้นสูง 100% สายพันธุ์อัลฟา ภูมิขึ้น ร้อยละ 50-60 จะมีตรวจเพิ่มเติมในผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้วเป็นเวลา 3 เดือน 6 เดือน อีกครั้ง และขณะนี้กำลังทดสอบในคนฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ 1 เข็ม รวมทั้งจะทำการทดสอบกับเชื้อเดลตา และเบตา เพื่อดูถึงประสิทธิภาพวัคซีนที่ได้รับขณะนี้

ขณะที่ นพ.อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า การตรวจสายพันธุ์ต่างๆ เป็นการสุ่มตรวจเพื่อเป็นแนวทางเฝ้าระวัง โดยจะสุ่มตัวอย่างจาก 1.กลุ่มที่มีอาการรุนแรง 2.กลุ่มที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ 3.พื้นที่ที่ไม่เคยระบากแต่มีการพบเชื้อ 4.ตามชายขอบชายแดน และ 5.กลุ่มที่ได้รับวัคซีนแล้วยังติดเชื้อ

โควิดสายพันธุ์อินเดีย ติดแล้ว 235 โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้รวม 26 ราย⁣

ยอดโควิด 16 มิ.ย. ป่วยใหม่ 2,331 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 40 ราย ฉีดวัคซีนไปแล้ว 6.7 ล้านโดส

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ