บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT พร้อมกลับมาเปิดโรงงานจังหวัดตรังในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ หลังได้รับ
ไฟเขียวจากผู้ว่าราชการจังหวัด วาง 11 มาตรการเข้มป้องกัน COVID-19 ครอบคลุมพื้นที่ทุกส่วนภายในโรงงาน เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและตอกย้ำความมั่นใจแก่ผู้บริโภค และดำเนินการตามมาตรการเดียวกันในโรงงานทุกแห่ง
ส่วนโรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับมาเดินเครื่องจักรแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 มิถุนายน 2564 โรงงานผลิตถุงมือยางของบริษัทฯ ในจังหวัดตรัง ได้กลับมาเปิดโรงงานและเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าอีกครั้ง หลังจากได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นที่เรียบร้อย โดยโรงงานจังหวัดตรังมีกำลังการผลิตถุงมือยางชนิดมีแป้งประมาณ 25 ล้านชิ้นต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 28% ของกำลังการผลิตรวมทุกโรงงานที่ 90 ล้านชิ้นต่อวัน และได้หยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตรวจพบพนักงานติด COVID-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ทำการตรวจหาเชื้อให้กับพนักงานทั้งหมดก่อนเริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำความมั่นใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการเปิดโรงงานจังหวัดตรัง บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการคัดกรองและป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวด เพื่อให้ความปลอดภัยแก่พนักงานและสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางของศรีตรังโกลฟส์ โดยจัดทำมาตรการ 11 ข้อ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างสูงสุด ได้แก่
1.การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในพื้นที่สำนักงานทุกส่วนก่อนการเปิดโรงงานครั้งนี้
2.ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อระบบทำความความเย็นภายในพื้นที่ปฏิบัติงานทุกจุด
3.ติดตั้งระบบฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าพื้นที่โรงงาน
4.กระจายจุดรูดบัตรเพื่อลดความแออัดของพนักงาน
5.กระจายจุดวางล็อกเกอร์เพื่อลดความแออัด
6.จัดแบ่งเส้นทางเข้าปฏิบัติงานภายในโรงงานเพื่อลดความแออัด
7.เน้นย้ำพนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะอยู่ภายในพื้นที่โรงงานและสวมใส่ถุงมือทุกครั้งที่ต้องสัมผัสผลิตภัณฑ์
8.เน้นย้ำมาตรการล้างมือและฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อในพื้นที่ทำงานทุกคนและก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
9.ขยายพื้นที่ปฏิบัติงานชั่วคราวเพื่อลดความแออัดของพนักงานในแต่ละพื้นที่
10.ติดตั้งระบบฆ่าเชื้ออัตโนมัติในระบบทำความเย็น
11.เพิ่มความถี่การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้งานร่วมกัน เช่น โรงอาหาร ห้องประชุม ห้องน้ำ เป็นต้น และจัดเตรียมอุปกรณ์สเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ นอกจากนี้พนักงานทุกคนจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองก่อนเข้าภายในพื้นที่โรงงานและไลน์การผลิต เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิและฉีดพ่นแอลกอฮอล์, สวมใส่หน้ากากอนามัย, ล้างมือด้วยสบู่และแช่น้ำยาฆ่าเชื้อ, สวมเสื้อคลุมและหมวกคลุมผม เป็นต้น และในระหว่างการปฏิบัติงานจะมีการสเปรย์แอลกอฮอล์แก่พนักงานเป็นระยะๆ พร้อมทั้งได้ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวในโรงงานทุกแห่งของบริษัทฯ อีกด้วย
"ขอให้มั่นใจว่าบริษัทฯ มีมาตรการดูแลพนักงานและการฆ่าเชื้อภายในโรงงานเป็นอย่างดีเพื่อให้ความมั่นใจแก่ชุมชนโดยรอบและลูกค้าของเรา โดยในกระบวนการผลิตถุงมือยางจะใช้ระบบอัตโนมัติแบบต่อเนื่องและเป็นกระบวนการผลิตที่ผ่านความร้อนในระดับสูง รวมถึงมีระบบทำความสะอาดตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ดังนั้นจึงเชื่อมั่นเราได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดเชื้อแก่ผู้บริโภค โดยนอกจากการเปิดโรงงานจังหวัดตรังในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้กลับมาเปิดดำเนินการโรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งดำเนินการตามมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน" นางสาวจริญญา กล่าว