จากกรณีรถเก๋งสปอร์ต บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น Z4 ทะเบียน 3กก7558 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และน.ส.เมย์ อายุ 18 ปี ที่นั่งมาด้วย เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนกับรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ ทะเบียน 1ขฐ9316 กรุงเทพมหานคร ที่วิ่งมาทางตรงมุ่งหน้าเข้าตัว จ.เพชรบูรณ์ ทำให้คนขับและคนที่นั่งข้างคนขับมาที่อยู่ในรถเก๋ง สวิฟต์ เสียชีวิตทันที 2 ราย คือ น.ส.กรกฏ หิรัญ อายุ 31 ปี คนขับ และน.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี และคนขับบีเอ็มดับเบิ้ลยู เสียชีวิตด้วยนั้น
วันที่ 18 มิ.ย. 64 ที่วัดบางรักษ์ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.กรกฎ หิรัญ หรือ น้ำฝน อายุ 31 ปี
เวลา 14.00 น. แม่ได้กลับมาที่วัด มีการเดินมาพูดคุยกับลูกข้างโลงศพ บอกลูกว่า "แม่มาหาแล้วนะลูก กินข้าวหรือยัง หิวข้าวไหมลูก" จากนั้นได้เดินมาที่ฉากรูปถ่ายของลูกสาว ใช้มือลูบใบหน้าลูกผ่านรูปถ่าย และร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา
นางนิตยา หิรัญ อายุ 61 ปี และนายภูวดล หิรัญ อายุ 63 ปี พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ถ้าหากว่าทางครอบครัวของนายสุรภักดิ์จะมีการขอเลขบัญชีตน เพื่อที่จะโอนมาช่วยเหลือตน ตนไม่ขอให้เลขบัญชี เพราะจะไม่ขอรับเงินสักบาทเดียว เป็นไปได้อยากจะได้ชีวิตลูกคืนกลับมาต่างหาก ซึ่งถ้าหากจะโอนเงินช่วยเหลือ ตนขอปล่อยให้ทางอาของน้ำฝนจัดการเองทุกอย่าง เพราะอาเป็นทนายความ ถ้าหากว่าทางครอบครัวของนายสุรภักดิ์จะเดินทางมาร่วมงานด้วยตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่ามาร่วมงานส่งลูกสาวตน
ส่วนเรื่องตุ๊กตาตัวโปรดของลูกสาว ตอนนี้น่าจะอยู่ที่บ้านของน้องอุ้ย จ.เพชรบูรณ์ ตนทราบมาว่าจะมีการส่งมาให้ แต่น่าจะไม่ทันวันเผาศพพรุ่งนี้ ซึ่งถ้าหากของได้ส่งมาถึงแล้ว ตนก็จะเผาตุ๊กตาส่งไปให้ลูกสาว เพื่อให้ลูกสาวนอนหลับได้สบาย ที่สำคัญเมื่อวานนี้ทางเพื่อนของน้องอุ้ยได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าเห็นภาพวิญญาณของทั้งคู่ เนื่องจากเพื่อนของน้องอุ้ยคนนี้เป็นคนที่มีสัมผัส โดยเห็นทั้งคู่เดินจับคู่เดินจับมือกันไป และบอกว่าไม่มีอะไรห่วง ไม่เจ็บ หลับสบายแล้ว แล้วทางน้ำฝนยังมีการพูดฝากมากับแม่ว่า "แม่ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว ไม่ต้องร้องไห้ ลูกไปสบายแล้วทุกอย่าง" สิ่งที่ลูกพูดฝากมาอาจจะเป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้ลูกไม่ได้มาเข้าฝันตนเลย ก็รู้สึกดีใจที่ลูกไม่เจ็บ ได้ไปสบายแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแชตที่ น.ส.กรกฎ พูดคุยกับแม่เรื่องทั่วไป อาหารการกิน ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ ที่แม่ทำได้เพียงเก็บไว้ดูยามคิดถึงลูกสาว
นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน หรือ ทนายบิน กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้มีหน้าที่ดูแลให้เรื่องของคดีทุกอย่างของคดีกล่าวนี้ ยืนยันว่าจะเดินหน้าเต็มที่ เพราะตนเป็นญาติของทางน้ำฝนด้วย แนวทางต่อไปจะทำตามไปทางเรื่องกฎหมาย ส่วนในเรื่องของการเรียกค่าเสียหายต่าง ๆ ต้องกูว่าทางครอบครัวจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไรได้บ้าง เพราะทางน้ำฝนเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว แต่ก็ต้องดูในเรื่องค่าเสียหายและองค์ประกอบต่าง ๆ ของทางชั้นศาลด้วย
ทางฝั่งคู่กรณีบอกว่าไม่ได้มีเงินทองอะไรมาก และทนายบางท่านบอกว่าให้ฟ้องทายาท ส่วนตัวก็คิดก็ต้องฟ้องทายาทอยู่แล้ว โดยทางผู้ก่อเหตุละเมิด คนขับรถ BMW ดังกล่าวมีทรัพย์สินอะไรทิ้งไว้บ้างกับทายาทของเขาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน หรือเงินสดในบัญชี หรืออะไรต่าง ๆ ที่เป็นทรัพย์สินตกทอด ในส่วนตรงนั้นสามารถที่จะฟ้องทายาทได้ ซึ่งทางพ่อกับแม่ของน้ำฝนไม่ได้มีการติดใจในเรื่องของเงินเลย แต่ถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็คือแน่นอนว่าคู่กรณีจะต้องช่วยเหลือครอบครัวทางน้ำฝนบ้าง ซึ่งไม่มากก็น้อยหรือตามพอใจ
ทั้งนี้ หลังจากเสร็จงานของน้ำฝนก็จะดำเนินการไกล่เกลี่ย ถ้าไกล่เกลี่ยอะไรไม่ได้ก็จะขึ้นสู่ในชั้นศาลต่อไป ในทางศาลฟ้องร้อง บังคับคดีกันต่อไป
ด้านนางพิมพ์พิชชา ทองสุข อายุ 53 ปี น้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสนิทสนมกับน้ำฝนมาตั้งแต่เล็ก ๆ เลี้ยงดูเหมือนกับลูกสาวอีกคน เมื่อก่อนไม่ว่าน้ำฝนอยากจะกินอะไร จะมาบอกตนเป็นคนแรกเสมอ กลายเป็นความผูกพันความสนิทสนมกันมาก พอมาทราบเรื่องตนยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ซึ่งตั้งแต่ที่มีการนำศพของหลานสาวมาประกอบพิธีตั้งแต่วันแรก ตนเป็นคนจัดหาจัดทำอาหารของโปรดของหลานเองทุกอย่าง จนมาถึงวันนี้เป็นวันสุดท้ายของบำเพ็ญกุศลศพหลานแล้ว ก็คงจะได้ทำอาหารในสิ่งที่หลานชอบได้เป็นวันสุดท้ายและครั้งสุดท้าย วันนี้ตนได้มีการทำหมูโค หรือหมูคั่วเกลือให้กับหลานสาว เพราะเป็นกับข้าวที่หลานชอบทานมากที่สุด หลังจากนี้ถ้าหากว่ามีความคิดถึงก็อาจจะทำกับข้าวในสิ่งที่หลานชอบไว้ทาน เพื่อความคิดถึงไว้ดูเป็นต่างหน้า
นางสาวแพรวณิศรา ไชยสุระธนภัทร์ เพื่อนสนิท กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์ตนเพิ่งจะมาเอะใจ เพราะเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น้ำฝนได้บอกกับตนว่าไปดูดวงกับเพื่อนอีกคน แต่หมอดูกลับทักน้ำฝนเป็นคนแรกว่าเป็นคนชีวิตสั้น ชะตาใกล้จะขาด ตอนนั้นยอมรับว่าไม่ได้เอะใจอะไรเลย คิดว่าแค่คำพูดหมอดูที่คล้ายกับหมอเดา เหมือนที่เขาพูดกัน เรื่องดังกล่าวนี้ตนรับรู้เพียงคนเดียว เพราะน้ำฝนไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ทราบ
ซึ่งสิ่งที่ตนมาเอะใจ มาจากเลข 13 ที่เกิดขึ้นหลายอย่าง คือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุวันที่ 13, อายุ 31 ปี, เลขป้ายทะเบียนรถที่มีเลข 1 และเลข 3 อยู่ด้วยกัน ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่ถ้ามองอีกมุมนึง บางคนมีคนกล่าวว่าชีวิตจะสั้น ชะตาจะขาด แต่สุดท้ายก็อยู่ใข้ชีวิตได้ยาวนาน ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นช่วงจังหวะของดวงมากกว่า
โดยเมื่อก่อนนี้ตนจะอยู่ด้วยกันกับน้ำฝนตลอด ตั้งแต่สมัยเรียน อยู่หอพักเดียวกัน น้ำฝนจะเป็นคนที่ติดตุ๊กตาหมอนที่มีหู ติดมาตั้งแต่เด็ก จนมาถึงช่วงทำงานก็ยังพกพาไปไหนมาไหนตลอด ช่วงวันที่เกิดเหตุยังก็ยังพกติดตัวไปบนรถ ซึ่งตอนนี้ยังหาตุ๊กตาตัวโปรดไม่เจอ ถ้าหากเจอก็จะทำการเผาส่งไปให้ เพื่อให้น้ำฝนหลับสบายไปพร้อมกับสิ่งที่รัก ที่สำคัญคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วสำหรับบำเพ็ญกุศลศพของน้ำฝน คืนนี้จะมีการทำอาหารของโปรดของน้ำฝน คือหมูโค คล้ายกับหมูคั่วเกลือ เป็นอาหารทางใต้ที่น้ำฝนชอบทานมาตั้งแต่เด็ก