กรณีกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายชายชราวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี ก่อนมีการด่าทอด้วยคำหยาบคาย ละท้าทาย และทำร้ายชายชรา ทั้งเตะเข้ายอดหน้า แม้จะมียกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่ก็ยังเข้าไปทำร้ายนั้น
กรณีที่เด็กวัยรุ่นออกมาพูดถึงสาเหตุที่ทำร้ายร่างกาย เกิดจากความไม่พอใจที่ผู้เสียหายไปท้าทายและพูดคำว่า “พ่อมึงก็เป็นลูกน้องกู” แต่ความจริงแล้วพูดว่า “พ่อของพวกมึงก็รุ่นน้องกู” หมายความว่าพ่อของเด็ก ๆ เป็นรุ่นน้องที่รู้จักนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วงจรปิดชัด! โจ๋ฉุนยกพวกทืบลุงช่างตัดผมน่วม แก๊งเพื่อนรับผิด สำนึกวอนหัวโจกมอบตัว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชายชราดังกล่าวชื่อนายไสว งามเนตร อายุ 51 ปี ช่างตัดผมร้านฝั่งตรงข้ามวัด ถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายเวลาประมาณ 01.30 น. ต่อมาเมื่อช่วงเช้า มีภาพจากกล้องวงจรปิดของวัดบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด มีการเผยแพร่จนเป็นที่วิจารณ์ในการโลกออนไลน์ แต่ต่อมาพ่อแม่ของวัยรุ่นที่ทำร้ายชายชราได้พาเข้าขอขมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 4 ราย
คือนายฟีม อายุ 16 ปี, นายเกมส์อายุ 17 ปี และด.ช.ฟลุก อายุ 13 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และนายนพพร หรือ อาร์ม อายุ 20 ปี แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์ นำส่งศาลเยาวชน และศาลจังหวัดนนทบุรี ขออำนาจศาลฝากขัง
วัยรุ่นชายในกลุ่ม เข้าขอโทษลุงผู้เสียหายที่บ้านแทนเพื่อนที่ก่อเหตุ พร้อมยืนยันว่าห้ามเพื่อนแล้วไม่ให้ก่อเหตุ จากนั้น วัยรุ่นทั้ง 4 ที่ก่อเหตุไปขอขมาลุงที่ สภ.เมืองนนทบุรี แล้วนั้น
นายชัย งามเนตร อายุ 53 ปี พี่ชายนายไสว เปิดเผยว่า ตอนนี้ร่างกายน้องชายก็หนักหน่วงตรงแขน ยังเคลื่อนไหวไม่ได้ ประกอบกับเมื่อเช้าไปสถานีตำรวจมาบ้านก็มีนักข่าวหลายช่องมาขอสัมภาษณ์ จึงเครียด ไปดื่มเหล้าจนเมา ตนเองจึงบังคับให้นอนพักผ่อนก่อน
สำหรับเรื่องคดีความมีผู้ปกครองของเด็กมาขอร้อง ซึ่งจริง ๆ ตนเองกับน้องชายก็ไม่ติดใจอะไร โดยเฉาะน้องชายก็ให้อภัยตั้งแต่เด็กหนุ่มมาขอโทษ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าทางกฎหมาย และสังคมไม่ยอม ตนเองก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวน อีกอย่างหากตนไปถอนแจ้งความก็จะถูกสังคมประณาม เด็ก ๆ ก็จะไม่จดจำอีกหน่อยสังคมก็จะพูดว่า "ถ้างั้นจู่ ๆ ไปเตะใครก็ได้ และไปกราบขอโทษ กูถูกยกโทษให้แล้ว" ดังนั้น เมื่อเด็กมันรุนแรงก็ต้องกดมันไว้บ้าง ไม่ให้เหิมเกริมหรือได้ใจ ถือว่าให้เป็นบทเรียน จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก
ส่วนน้องชายตนเองก็คงจะให้งดออกนอกบ้านสักพัก ถือว่าได้สังเกตอาการระหว่างรอผลโควิด-19 แต่ตนเองเชื่อว่าเรื่องโควิดไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคงไม่ติดกันง่าย ๆ ส่วนเรื่องแหวนของน้องชายไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุหรือไม่
จากนั้น มีคลิปวิดีโอเผยแพร่เหตุการณ์ที่นายเกมส์ คนที่ตีกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ถูกรุ่นพี่ตบสั่งสอน อัดคลิปขอโทษทางโซเชียลพร้อมยกมือไหว้ขอโทษที่ทำร้ายคนแก่นั้น ส่วนนายอาร์ม คนที่ทำร้ายร่างกายลุงยืนอยู่ข้าง ๆ นั้น
นายเกมส์ หนึ่งในคนที่ทำร้ายลุง เปิดเผยว่า แม่ไปประกันตัวตนเองออกมา จากนี้ก็จะบำเพ็ญประโยชน์ตามที่คุมประพฤตินัด ส่วนคดีเรื่องกล้องวงจรปิด เคลียร์กับทางวัดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ในตอนแรกแค่ไปเดิเล่นกัน ก็พบลุงและก็มีปากเสียงกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งใจความที่มีปากเสียงนั้นตนเองได้ยินคุณลุงพูดว่า "รุ่นน้อง" แต่ก็ยังงงทำไมรุ่นพี่ถึงได้ยินว่า "ลูกน้อง" แตนต่ก็ไม่กล้าพูดว่าได้ยินคำว่า "รุ่นน้อง" กลัวเพื่อนไม่เชื่อ จึงปล่อยและประสมโรงก่อเหตุต่อยลุงไป 1 ครั้ง เพราะโมโห
ทั้งนี้ ตนเองยังงงที่ถูกรุ่นพี่ของอาร์มตบหน้าเพียงคนเดียวทั้ง ที่ตนเองก่อเหตุต่อยลุงไปแค่หมัดเดียว แต่อาร์มกลับไม่โดนรุ่นพี่ทำอะไรเลย สำหรับเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนต่อตนเองมาก ขณะที่ไปขอโทษคุณลุงก็ตั้งใจไปจริง ๆ สำนึกผิดจริง ส่วนตัวก็ถูกแม่คาดโทษไม่ให้ออกจากบ้านก็โดนว่าโดนด่าสารพัด แต่ตนเองก็ฟังคำที่แม่บ่นแม่ด่า และหลังจากนี้ก็จะยอมอยู่บ้าน
นายเอ (นามสมมติ) วันรุ่นในพื้นที่นนทบุรี ที่เคยถูกกลุ่มนายอาร์มทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า ตนเองเคยขับรถอยู่บนถนน ขณะนั้นจอดรถอยู่ที่แยกไฟแดง กลุ่มของนายอาร์มและพวกก็ได้ขับรถมาจอดที่แยกไฟแดง มีอาการโวยวาย พร้อมกับเบิ้นเครื่องรถ ส่งเสียงดังลั่นพื้นที่ และพยายามหาเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ทำนองว่า "มองหน้าหาอะไร" ซึ่งนอกจากตนเองจะเจอกับตัวแล้ว รุ่นน้องของตนเองอีกหลายคนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีก็เจอเหตุการณ์คล้ายกัน แค่เพียงมองหน้าไม่พอใจก็ถูกหาเรื่องทำร้ายร่างกาย โดยเป็นพฤติกรรมที่คนในละแวกนี้มักจะคุ้นชินและเบื่อหน่าย
จนกระทั่งมีคลิปที่ปรากฏอยู่ในโลกออนไลน์ เป็นร้านตัดผมที่ตนเองรู้จักในพื้นที่ ลุงคนดังกล่าวหลังจากที่สูญเสียลูกชายก็ตกอยู่ในอาการโรคซึมเศร้า ประกอบกับมีอาการทางจิตเพราะเจ้าตัวเสียใจอย่างหนัก หลังจากที่ลูกชายตาย และเจ้าตัวก็จะมีแหวนคู่ใจหรือแหวนแทนใจอยู่ 1 วง เป็นแหวนของลูกชายที่ได้รับติดตัวเอาไว้ โดยในคลิปที่ปรากฏก็จะเห็นว่า กลุ่มของนายอาร์มได้ใช้กำลังบังคับเพื่อจะเอาแหวนไป จากนั้นก็ได้มีการทำร้ายร่างกายลุงทั้งที่ไม่มีทางสู้ ตนเองเห็นคลิปแล้วจึงอยากให้หน่วยงานและคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง หรือไม่อยากให้มีพฤติกรรมอันธพาลแบบนี้
นายธงชัย (นามสมมติ) พ่อของนายอาร์ม เปิดเผยว่า ตนเองยังไม่ประกันตัวลูกเพราะไม่มีเงิน แต่ต่อให้มีเงินก็จะไม่ประกันตัวลูก อยากให้ลูกได้บทเรียน อยากดัดนิสัย เพราะจากการกระทำครั้งนี้ เพราะสังคมยังไงก็ไม่ยอมรับ โดยเฉพาะรู้สึกเสียใจมากที่ลูกทำแบบนี้ ยืนยันว่าตอนเกิดเหตุก็ไม่รู้ว่าลูกทำ ไม่เช่นนั้นจะรีบพาไปมอบตัวกับตำรวจตั้งแต่วันแรก
สำหรับที่ผ่านเตือนลูกสอนลูกไม่เคยฟังเลย อีกอย่างลูกมีพฤติกรรมเล่นชอบเล่นยาหลายครั้ง เวลากินแล้วก็ไม่รู้ตัว และมีพฤติกรรมแบบนี้หลายรอบมาก ซึ่งการก่อเหตุก็มีผลมาจากยาชนิดนี้ด้วย ตนยืนยันว่าตักเตือนสอนลูกมาตลอด แต่ก็ไม่เคยฟังแม้แต่ครั้งเดียว ที่ผ่านมาเหนื่อยมากกับลูกคนนี้ ท้อมาก และเสียใจที่ลูกเป็นแบบนี้ ยิ่งคนเป็นแม่ท้อมาก ถึงขั้นชวนกันผูกคอตายอยากหนีไปไกล ๆ เพราะอายที่มีลูกแบบนี้ ไม่กล้าออกไปไหนเพราะอายมาก
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ตนเองตอนนี้ก็ลำบากทำงานคนเดียว ลูกไม่เคยช่วยเหลืออะไรเลย อีกทั้งยังทิ้งหลานชายวัย 5 ขวบไว้ให้เลี้ยงอีก ทุกข์ใจมาก หวังว่าลูกจะได้รับบทเรียนอย่างหนัก อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด