ญาติแจงสาวโดด BTS ตายไม่ติดโควิด-19 ไม่รู้ปมรับเชื้อจากผู้กอง เผยแชตสิ้นหวังสั่งลา (คลิป)

กรณี น.ส.นงนุช เกลื้อกูล ตัดสินใจกระโดดลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังอโศก เยื้องซอยสุขุมวิท 44/1 บนถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

ล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย.64 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางติดตามความคืบหน้าของคดี พบว่าเพื่อนผู้เสียชีวิตได้เข้ามานั่งรอรับศพ น.ส.นงนุช ด้วยความเศร้าโศกเศร้าเสียใจ ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศล และประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียน บอกว่า ผู้ตายเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ก่อนย้ายไปทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง ต่อมาช่วงปลายปี 2562 ได้ลาออกแล้วมาหางานทำในกรุงเทพฯ โดยทราบว่าเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นตนและผู้ตายขาดการติดต่อกันไป ก่อนจะมาทราบจากข่าวเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.64) ว่า เพื่อนกระโดดบีทีเอสเสียชีวิต ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางมาร่วมรับศพผู้เสียชีวิต

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบมูลเหตุการคิดสั้นมาจากเรื่องใด รวมถึงไม่รู้เรื่องนายตำรวจที่ถูกพูดถึงในจดหมายด้วย แต่ที่ผ่านมาตนจะเห็นว่าเพื่อนคนนี้มีนิสัยร่าเริ่ง พูดคุยสนุก ส่วนเรื่องครอบครัว ทราบว่าผู้ตายเคยมีครอบครัว แต่ตอนนี้หย่าร้างกับสามีเก่าไปแล้ว โดยมีลูก 1 คน ซึ่งอยู่ในความดูแลของแม่ผู้เสียชีวิต

ขณะเดียวกันทางด้านญาติผู้เสียชีวิต เดินทางเข้ามายังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ โดยได้เข้ามาจัดการตัดเตรียมเอกสารสำหรับรับศพน.ส.นงนุช เกลื้อกูล ผู้เสียชีวิต เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศล

นายสิงห์นาถ เกื้อกูล น้องชายผู้เสียชีวิต ระบุว่า ทางด้านครอบครัวไม่ติดใจเรื่องสาเหตุการตาย โดยทางด้านครอบครัวยืนยันว่า ผู้ตายได้เข้ารับการรักษาและหายป่วยจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ตนจึงอยากบอกกับผู้ที่เข้าช่วยเหลือว่า พี่สาวหายป่วยจากโควิด-19 แล้วไม่ต้องกลัวไม่ต้องกังวล

ส่วนปัญหาสาเหตุการตายนั้น เนื่องจากผู้ตายเครียดเรื่องที่ไม่มีงานทำให้ช่วงโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้าเคยได้พูดคุยกับพี่สาวว่าจะกลับไปยังจังหวัดสุรินทร์บ้านเกิด เนื่องจากไม่มีงานทำในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในวันเกิดเหตุนั้น ตนก็ทราบว่าพี่สาวกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่มาทราบภายหลังว่าเกิดเหตุการณ์เชนนี้ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับนายตำรวจ ที่ได้มีการอ้างถึงในจดหมายนั้น ตนไม่ทราบเรื่องและไม่รู้จักตำรวจรายดังกล่าว

โดยในวันนี้ทางญาติและเพื่อน กำลังปรึกษาเรื่องการเลือกสถานที่จัดงานศพ เนื่องจากยังไม่มีการเตรียมการตกลงกันมา ขณะนี้ยังพูดคุยและเตรียมสำหรับเลือกจัดงานระหว่าง ภูมิลำเนาบ้านเกิด จ.สุรินทร์ ต่อไป

น.ส.ดวงใจ บุญเติม อายุ 38 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต กล่าวยืนยันว่า ผูเสียชีคติดโควิด-19 จริง โดยผู้ตายเริ่มมีอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 และ ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา จนรักษาตัวหายดีแล้ว ซึ่งแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.64 ก่อนให้กลับมากักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุนี้ยังอยู่ในช่วงระหว่างการกักตัวดูอาการตามคำสั่งของแพทย์

ส่วนสาเหตุในการคิดสั้นตนเชื่อว่าเป็นเพราะความเครียดสะสม และเรื่องส่วนตัวหลาย ๆ อย่าง รวมถึงปัญหาเรื่องการตกงาน ที่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดไม่สามารถหางานทำได้ โดยในวันที่ 21 มิ.ย.64 เวลา 11.00 น. ตนได้มีได้พูดคุยกันเรื่องที่จะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ โดยผู้ตายระบุว่า “คิดอะไรไม่ออก ตอนนี้มืดไปหมดหนทาง” ตนจึงได้ให้คำแนะนำให้กลับบ้าน และผู้ตายยืนยันว่าจะเดินทางกลับบ้านเกิดในวันที่ 21 มิ.ย.64 แต่ปรากฏพบข่าวว่าเพื่อนคิดสั้นกระโดดบีทีเอสพระโขนงฆ่าตัวตายเสียชีวิต ในเวลา 13.00 น.

อย่างไรก็ตาม กรณีเรื่องผู้หมวด ตำรวจที่ถูกระบุไว้ในจดหมาย ตนไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ รู้เพียงว่าก่อนหน้านี้เพื่อนเคยมีครอบครัวมาก่อนแต่เลิกรากันไปนานแล้ว และพักอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจมากที่เสียเพื่อนรักไป ทั้งนี้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ตนอยากบอกกับเพื่อนว่าไม่อยากให้คิดสั้นแบบนี้ อยากให้ผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกัน