วันที่ 23 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สวยแซบแสบฮา (นู๋นุ๊ก) โพสต์ข้อความว่า ลูกชายอายุ 15 ปี เรียนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสคาโรงเรียนช่วงพักกลางวัน และตัวน้องได้ถูกส่งตัวเข้าทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ขณะนี้อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย
ซึ่งหลังจากโพสต์เฟซบุ๊กไปนั้นมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตั้งคำถามว่าทำไมทางโรงเรียนปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้กลางโรงเรียนได้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถาม นางอรสา สิงห์วี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.8 ต.วังอิทก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคือเรื่องจริง โดยลูกชายคือ น้องต้นน้ำ หรือ ด.ช.พิชชากร สิงห์วี อายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก โดยเมื่อวานนี้ได้ไปส่งน้องเรียนโรงเรียนตามปกติในช่วงเที่ยง มีครูได้โทรมาแจ้งว่าน้องต้นน้ำถูกแทงได้รับบาดเจ็บ
โดยครูได้พาตัวน้องส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแต่เนื่องด้วยมีอาการสาหัสจึงได้ทำการส่งตัวน้องไปเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตัวคุณแม่เองยังไม่ได้รับการอธิบายอะไรจากทางโรงเรียนที่ชัดเจนเลย นอกจากบอกเพียงว่าน้องต้นน้ำแกล้งเพื่อนคู่กรณีมาตั้งแต่ ม.1 จนถึงปัจจุบัน ม.3 คู่กรณีเก็บกดจึงเอามีดมาแทงน้องต้นน้ำเพียงเท่านั้น
ซึ่งคุณแม่ไม่เชื่อเพราะพฤติกรรมส่วนตัวน้องต้นน้ำเป็นเด็กเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เรื่องแกล้งเพื่อนไม่น่าเป็นไปได้หรือหากเด็กทะเลาะกันจริงต้องมีเรื่องมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว แต่นี่น้องต้นน้ำไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือชกต่อยอะไรกับใครเลยตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา
แต่จู่ๆมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเปิดเรียนได้เพียงไม่กี่วันและเป็นการเรียนแบบสลับวันด้วย ปกติคุณแม่จะอยู่กับน้องต้นน้ำตลอด เลี้ยงดูมาด้วยตัวเองรู้นิสัยของลูกดีว่าไม่ใช่คนอันธพาลแบบที่ถูกกล่าวหาแน่นอน
นางอรสา บอกต่ออีกว่าทันทีที่ตนทราบข่าวจากครู ก็รีบไปหาน้องที่โรงพยาบาลทันทีน้องมีบาดแผลที่คอที่ช่วงหน้าอกและข้างหลังและนอกจากนี้มีบาดแผลตามลำตัวเป็นรอยมีดบาดหลายแห่ง เมื่อคืนนี้คุณหมอบอกว่าจากการทำ CT SCAN พบเลือดออกทางช่องปอดและมีเลือดออกและน้ำบริเวณเยื่อหุ้มหัวใจซึ่งเป็นจุดที่อันตรายมากต้องเข้ารับการผ่าตัดเร่งด่วน
เมื่อคืนนี้จนถึงช่วงเวลาประมาณตี 2 อาการของน้องยังไม่พ้นขีดอันตราย ถึงแม้ตอนนี้น้องจะฟื้นแล้วแต่ยังให้ข้อมูลอะไรไม่ได้และต้องเฝ้าระวังเรื่องมีเลือดออกเพิ่มอีกหรือไม่และแผลจะติดเชื้อหรือไม่น้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ส่วนเรื่องของคู่กรณีเมื่อวานนี้ช่วงเย็นแม่และญาติของคู่กรณีได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลแล้วมาขอโทษและก็อยู่จนน้องต้นน้ำผ่าตัดเสร็จก่อนจะกลับไปช่วงประมาณตี 2
ด้านนายประชุม สันติพร้อมวงศ์ อายุ 48 ปี ลุงของน้องต้นน้ำได้ให้สัมภาษณ์ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องต้นน้ำ ทุกคนรู้สึกคาใจมากคือความจริงโรงเรียนดังในจังหวัดแบบนี้มีนักเรียนระดับหลายพันคน ครูควรจะต้องเข้มงวดให้มากกว่านี้ นี่คืออะไรเปิดเรียนได้ไม่กี่วันทำไมปล่อยให้เด็กนำอาวุธเข้ามาแทงกันได้ พอเกิดเหตุมาแล้วทางโรงเรียนกลับกลัวเสียชื่อโรงเรียนมาขอให้ผู้ปกครองอย่าเอาเรื่องกันเลย มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง สังคมไทยมันจะแย่ถ้าเป็นแบบนี้ อยากให้ทางโรงเรียนไปปรับปรุงตรงนี้ไม่เช่นนั้นผู้ปกครองจะเอาความเชื่อมั่นในโรงเรียนมาจากไหนได้
คือเหตุการณ์นี้ถ้าชกต่อยกันธรรมดา ไม่มีอาวุธทะเลาะวิวาทแบบนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองรับได้เพราะมันเป็นช่วงวัยของเด็ก แต่นี่เอามีดมาแทงกันอาการปางตายแบบนี้พ่อแม่ที่ไหนเขาก็รับไม่ได้หรอก อยากให้โรงเรียนเข้มงวดความปลอดภัยของเด็กๆ ด้วย และรับผิดชอบให้มากกว่านี้ ทางเราไม่ได้อยากได้เงินหรืออะไร แต่เราอยากให้หลานปลอดภัยพ้นขีดอันตราย ส่วนเรื่องคดีความทางแม่น้องต้นน้ำก็ได้ไปแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไปตอนนี้ภาวนาแค่ขอให้อาการหลานปลอดภัยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้น้องยังมีอนาคตอีกไกล
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนพร้อมคณะครูได้เดินทางเข้ามาพบครอบครัวน้องต้นน้ำ พร้อมมอบกระเช้าแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมจะช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน ตอนนี้ก็รอให้อาการน้องต้นน้ำปลอดภัยดีก่อน ส่วนเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป