เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 มิ.ย. 64 เกิดเรื่องช็อกในวงการบันเทิง "ตุ้ย-วัชระ ชัยพันธ์" มือกีตาร์วง Playground เสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถกะป๊ออย่างแรง ทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
เวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา พ่อของนายตุ้ยพร้อมเพื่อนในวงการบันเทิงนับ 10 คน เดินทางมารับศพที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดนิมมานรดี บรรยากาศในช่วงนี้เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อน ๆ กอดคอร้องไห้
เวลาประมาณ 16.00 น. ร่างของนายตุ้ย ได้ถูกนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ ศาลาสุดจิตต์ ทองสิมา 2 วัดนิมมานรดี โดยมีกำหนดการรดน้ำศพในเวลา 17.00 น. และสวดอภิธรรมในเวลา 18.00 น. เพื่อน ๆ ทยอยเดินทางมาร่วมไว้อาลัย รวมถึงสมาชิกในวงเพลย์กราวด์ "ติ๊ก กฤษติกร พรสาธิต" นักร้องนำของวง และนายตุลย์ เหมือนสร้อย มือกีตาร์
ติ๊กและตุลย์ เปิดใจว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันมาก พวกตนทราบจากข่าวเช่นเดียวกับทางครอบครัวที่รู้พร้อมข่าว ลางสังหรณ์ก็ไม่มีเลย ทำให้เรื่องนี้ค่อนข้างกระทบจิตใจพวกตนพอสมควร เพราะไม่มีใครเตรียมใจไว้ก่อน ตอนแรกยังคิดว่าเป็นข่าวปลอม เนื่องจากพวกตนไม่อยากจะเชื่อ พวกตนเพิ่งแชตไลน์คุยกันเมื่อวานนี้กับงานคอนเสิร์ตครบรอบ 17 ปีของวงเพลย์กราวด์ เตรียมการกันตั้งแต่ก่อนมีสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เลื่อนมาเรื่อย ๆ จนว่าจะจัดภายในปีนี้ให้ได้ ซึ่งตุ้ยก็ตื่นเต้นมาก
ทั้งนี้ พวกตนเป็นเพื่อนกันมาก่อนจะทำวงด้วย รวมแล้วจึงรู้จักกันเกิน 20 ปี เพราะฉะนั้นความผูกพันมันก็มากกว่าเพื่อนร่วมวง เขาคือคนที่สนิทที่สุดในชีวิตของพวกตน สำหรับนิสัยใจคอของตุ้ยเป็นคนจิตใจดี ตรงข้ามกับหน้าตาเขาที่ค่อนข้างโหด จริง ๆ เขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนตลก ทำให้เขามีเพื่อนฝูงเยอะมาก ส่วนฝีมือการเล่นดนตรีของเขาก็ถือว่าเป็นคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกจากนี้ ทางวงมีการออกประกาศตามหาคลิปและพยานในที่เกิดเหตุ เพราะอาจจะมีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีนี้ได้ และจะได้ทราบต้นตอของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกตนได้ดูคลิปวงจรปิดในมุมหนึ่งแล้ว จะเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่เหมือนทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และไม่ได้รอพบตำรวจอยู่ในจุดเกิด พวกตนจึงอยากตามหาตัว เพื่อให้มารับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกตนเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ส่งผลต่อชีวิตหนึ่ง และคนอื่นอีกเยอะมาก พวกตนให้อภัยได้ เพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
นอกจากนี้พวกตนยืนยันเลยว่าตุ้ยไม่ได้มีนิสัยขับรถเร็วและประมาทหวาดเสียว รถมอเตอร์ไซค์คันที่เขาขี่อยู่ก็แค่ 125 cc เขาเป็นคนใช้ความเร็วต่ำมาก สุดท้ายแล้วพวกตนก็อยากจะบอกตุ้ยว่าดีใจที่ได้เกิดมาเจอกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมาด้วยกัน อยากให้ตุ้ยไม่ต้องห่วง พวกตนจะทำให้วงเราเป็นอมตะให้ได้ อย่าลืมรอดูอยู่บนฟ้านะ
นายณรงค์ ชัยพันธ์ อายุ 79 ปี พ่อของตุ้ย เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวก็ทำให้ตนตกใจมาก อีกไม่ถึง 3 กิโลเมตร เขาก็จะขับรถมาถึงบ้านแล้วก็ยิ่งใจหาย ตนได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิดแล้วเห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซค์อีก 2 คัน ขับมาทับร่างของลูกชาย ตนก็อยากให้ทั้ง 2 คนนี้เข้ามาขอขมาศพลูกชายของตนด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายตุ้ยดูแลและส่งเสียตนมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำงาน เขาทำหน้าที่ลูกได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ตนเลยอยากจะบอกเขาว่าไปดีเถอะนะ ไม่ต้องเป็นห่วง จากนี้ตนดูแลตัวเองได้
ทางด้านนางสาวแอน แฟนสาวของตุ้น เผยว่าปกติแล้วนายตุ้ยไม่ใช่เป็นคนขับรถเร็ว มอเตอร์ไซค์ที่เขาขับอยู่ก็เป็นรถเก่าคลาสสิก ขับได้ไม่เร็วอยู่แล้ว สำหรับ 9 ปีที่คบกันมา นายตุ้ยเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายมาก วันแรกดูแลเทคแคร์อย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ในส่วนของลางสังหรณ์ไม่มีเลย แต่หากเรื่องมีห่วงจริง ๆ ปีนี้นายตุ้ยบอกกับตนว่าจะมาขอแต่งงาน ซึ่งครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายก็รับรู้แล้ว
ด้าน "เบ๊น อาปาเช่" นายอัครเดช โยธาจันทร์ ยูทูเบอร์ชื่อดัง เปิดเผยว่า ตนสนิทสนมกันมานานกว่า 7 ปีแล้ว เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กันมาก เลยไปมาหาสู่กันบ่อย สำหรับนิสัยใจคอของเขาก็เป็นคนดี ไม่เคยนินทาว่าร้ายใคร เวลาฟังเรื่องใครก็เก็บความลับอยู่ ถึงแม้ว่าลุคจะดูโหด ๆ แต่เป็นคนที่โคตรน่ารัก แถมในวงการศิลปินเขาอยู่มานานก็ไม่ถือตัวด้วย ที่ตนอยู่ด้วยเป็นคนสุดท้าย เพราะเมื่อคืนนี้ตอน 3 ทุ่ม ตนและนายตุ้ย ต่างขับรถไปที่บ้านเพื่อนเพื่อนั่งดูบอลด้วยกัน พอบอลจบก็นั่งเล่นกีตาร์กัน แล้วก็คุยกันเรื่อย ๆ จนฟ้าสว่างประมาณ 7 โมงเช้า ก็แยกย้ายกันกลับ
ตนยืนยันว่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้มีการดื่มแอลกอฮอล์กัน แต่ที่ตนหวั่นใจมากก็คือกลัวว่าเขาอาจจะขับรถหลับใน เนื่องจากไม่ได้นอนกันเลยทั้งคืน แต่ตอนแยกกันตนก็ดูว่าเขายังสดชื่นอยู่ ตนก็ไม่ได้เป็นกังวล แถมเขาพูดอีกด้วยว่าแมตช์หน้าอังกฤษเตะเดี๋ยวเจอกัน
อย่างไรก็ตาม นายตุ้ยเคยมาเล่าให้ฟังเมื่อปีกว่า ๆ ว่ามีคนทักว่าจะอยู่ได้ไม่ถึง 5 ปี ซึ่งเขาก็เอามาเล่าขำๆ ไม่ได้ติดใจหรือซีเรียสอะไร
ที่ สน.เพชรเกษม นายสำราญ มุขจั่น อายุ 58 ปี โชเฟอร์รถกระป๊อ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าเป็นจังหวะที่ตนกำลังขับรถไปส่งผู้โดยสารประมาณ 7 คน จุดที่เกิดเหตุตนขับทางเลนซ้ายมาตลอดทาง แล้วมีผู้โดยสารคนหนึ่งเรียกรถ ตนเหยียบเบรกและจอดรถรับ จังหวะเดียวกันก็มีเสียงรถพุ่งชนบริเวณท้ายรถของตน หันไปมองกระจกหลังพบว่ามีผู้โดยสารลงจากรถ ตนเลยลงไปดูก็เห็นผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนถนนพร้อมมอเตอร์ไซค์ที่ขับมา ตนจึงได้ให้ผู้โดยสารโทรเรียกกู้ภัยและเข้าหน้าที่ตำรวจ
ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ขับรถเร็วหรือประมาท เพราะจุดที่ตนเองจอดรับผู้โดยสารเป็นป้ายรถเมล์ที่จอดรับ-ส่งกันปกติ ขณะที่ตนเองก็ขับมาช้า ประมาณ 40 กม./ชม. และขับชิดซ้ายมาตลอด ตอนนี้สังคมก็โจมตีว่าขับรถซิ่งหรือเร็ว ตนอยากจะชี้เเจงว่าไม่เป็นความจริง ตนขับมาเรื่อย ๆ ไม่ได้ขับเร็ว ส่วนเรื่องของคดีวันนี้ยังไม่ได้มีความคืบหน้าเป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้น เพราะยังต้องมีการเรียกคนในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์ 2 คันที่ปรากฏในคลิปด้วย
