จากกรณี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 เวลา 02.40 น. ร.ต.ท.จักรกฤช สุวรรณวงศ์ รองสว.สอบสวนสน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิต ในซอยลาดพร้าว 25 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
ที่เกิดเหตุภายในร้านสะดวกซื้อ ด้านหลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นายรัฐวิทย์ สันติคุปตพง อายุ 32 ปี พนักงานประจำร้านนอนหงายเสียชีวิต ต่อมา เวลา 03.30 น. คนร้ายบุกเข้าไปในโรงพยาบาลสนามที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ภายในสถาบันธัญญารักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี คนร้ายคือ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี หนีไปที่ จ.ระนอง ก่อนถูกตำรวจควบคุมตัวได้แล้วนั้น
โดยข้อมูลจากชุดสืบสวน ทราบว่าระหว่างหลบหนี ผู้ก่อเหตุได้แวะเติมน้ำมัน ที่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่คลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และไม่ได้จ่ายเงิน ก่อนจะขับมุ่งหน้าไปยัง จ.ระนอง
พฤติการณ์คนร้ายเปิดกระจกรถบอกให้เติมน้ำมันเต็มถัง เมื่อพนักงานบริการกำลังน้ำมันสังเกตคนร้ายก้มค้นหาสิ่งของภายในรถจากนั้นได้หยิบอาวุธปืนพกสั้นขึ้นมาขู่ พร้อมแจ้งว่าเพิ่งก่อเหตุยิงคนตายที่กรุงเทพฯมา ให้เติมเต็มถัง และไม่จ่ายค่าน้ำมัน
พร้อมท้าทายพนักงานปั๊มน้ำมันให้แจ้งตำรวจ ทำให้พนักงานปั๊มน้ำมันที่เห็นเหตุการณ์หลายคนวิ่งหนีแตกกระเจิง ส่วนผู้ก่อเหตุหลังจากรถกระบะเติมน้ำมันเต็มถังราคา 1,800 บาท ได้ขับรถหนีไปบนถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปภาคใต้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น นายกวินจอดแวะก่อเหตุที่ร้านขายของชำก่อนที่จะถึงบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำดังกล่าว บริเวณแยกปากทางหินช้าง-ท่าเรือ จ.ระนอง
นางสาวมณีรัตน์ ชูโลหะ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เปิดใจว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 09.00 น. เศษ มีรถกระบะสีขาวมาจอด นายกวินก็ได้ลงจากรถมาพูดเหมือนลูกค้าทั่วไป ขอซื้อบุหรี่ 1 ซอง เจ้าตัวก็พูดว่า "ผมไม่มีเงินจ่ายนะครับ" ด้วยที่เป็นของซื้อของขาย ตนเองจึงได้ดึงบุหรี่คืนมา เจ้าตัวจึงได้เปิดเสื้อฝั่งซ้ายขึ้นพบว่ามีอาวุธปืนเหน็บอยู่ 1 กระบอก
พูดขึ้นว่า "ผมชื่อนายกวิน แสงนิลกุล เพิ่งจะไปยิงคนตายมา 2 ศพ ศพแรกอยู่ที่ลาดพร้าว ศพที่ 2 อยู่ที่ จ.ปทุมธานี ผมไม่ต้องการยิงพี่เป็นศพที่ 3 ถ้าพี่ไม่เชื่อก็เปิดดูโทรทัศน์ตอนนี้ ข่าวผมกำลังออกอากาศ ผมกำลังจะไปมอบตัวที่บ้านย่าไม พี่แจ้งตำรวจได้เลย" หลังจากที่นายกวินพูด ตนเองก็นึกขึ้นได้ว่าเพิ่งมีเหตุการณ์ทหารยิงคนที่กรุงเทพฯ ตาย และนำมาเทียบเคียงกับบุคลิกชายที่มาในร้านก็พบว่าตรงกัน จึงยอมส่งบุหรี่ให้กับนายกวิน 1 ซอง เมื่อเจ้าตัวได้รับแล้วกำลังจะเดินออกจากร้าน แต่หันไปที่ตู้แช่ มีเบียร์อยู่ในตู้ นายกวินก็เดินตรงไปที่ตู้พูดว่า "ขอเบียร์ได้ไหม" ตนเองจึงตอบกลับไปว่า "อยากได้อะไรก็เอาไปให้หมด" นายกวินจึงเข้าไปหยิบเบียร์ออกจากร้าน 2-3 ขวด เดินกลับไปที่รถกระบะขับออกไป หันมาบอกว่า "ขอบคุณครับพี่"
ส่วนตัวในฐานะร้านขายของชำในพื้นที่รู้จักกับย่าไม และลูกพี่ลูกน้องของนายกวิน แต่ไม่รู้จักกับเจ้าตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเด็กในพื้นที่ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ตอนนั้นก็คิดเอะใจว่าทำไมแต่งกายดีไม่ได้เหมือนโจร เพราะใส่เสื้อลายพราง ชุดเดียวกันกับที่ก่อเหตุแล้วถูกแชร์อยู่ในโลกออนไลน์ เพียงแค่ไม่ได้สวมหมวกทหารสีแดง มีการพูดจาสื่อสารรู้เรื่อง ไม่ได้เหมือนคนป่วยจิตเวช และตอนนั้นก็ไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าตัวตัดสินใจมอบตัวตามที่พูดเอาไว้ ตนเองก็รู้สึกโล่งใจที่ในพื้นที่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงหรือเหตุสลดเกิดขึ้นอีก และนายกวินก็ทำตามที่บอกกับตัวเองเอาไว้ว่าจะมอบตัว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นค่าบุหรี่ 65 บาท หรือค่าเบียร์ขวดละ 60 บาท ตนเองก็ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ จะไม่มีการแจ้งจับหรือดำเนินการเอาผิด