อดีตทหารคลั่งยิงคนไข้ใช้แผนลวงยาม ยิงเสร็จขำลั่นสะใจ รปภ.ผวามีปืนไม่กล้าจับ (คลิป)

จากกรณี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 เวลา 02.40 น. ร.ต.ท.จักรกฤช  สุวรรณวงศ์ รองสว.สอบสวนสน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิต ในซอยลาดพร้าว 25 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร​ กรุงเทพฯ

ที่เกิดเหตุภายในร้านสะดวกซื้อ ด้านหลังเคาน์เตอร์​เครื่องดื่ม พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นายรัฐวิทย์ สันติคุปตพง อายุ 32 ปี พนักงานประจำร้านนอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อยูนิฟอร์มร้าน กางเกงสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้านหลังทะลุหน้าอก 3 จุด พบปลอกกระสุนขนาด .38 มม. ตกอยู่ 4-5 ปลอก

ตำรวจ สน.พหลโยธิน ระบุว่า จากการสอบถามพนักงานร้านจุดเกิดเหตุ เล่าว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.30 น. คืนที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุ นายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงศ์ อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิต กำลังปฏิบัติงานอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์เก็บเงิน คนก่อเหตุสวมเสื้อคลุมสีเทา กางเกงขายาวสีเข้มผิวขาวเข้ามาในร้านแล้วเดินหยิบสินค้า เบียร์จำนวน 1 แพ็ค 3 ขวด แล้วทำขวดเบียร์ตกแตก ก่อนที่จะชำระเงินค่าสินค้า โดยไม่ยินยอมจ่ายค่าเบียร์ที่ตกแตก พนักงานไม่พอใจจนทะเลาะและมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะมีพนักงานคนอื่นที่อยู่ภายในร้านออกมาช่วยพูดจาตกลงกัน ให้คนร้ายชำระเฉพาะค่าสินค้าที่เจ้าตัวซื้อ และไม่ต้องชำระค่าเบียร์ที่แตก

หลังจากนั้นประมาณเกือบเที่ยงคืน คนร้ายได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับอาวุธปืนถามหาผู้เสียชีวิต ก่อนกระหน่ำยิงใส่ หลังผู้เสียชีวิตล้มลง คนร้ายได้เดินเข้ามาเหยียบที่บริเวณหน้าอกให้แน่ใจว่าตายจริง ก่อนจะเดินออกจากร้านไปขึ้นรถกระบะหลบหนี

เบื้องต้น​ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำพนักงานภายในร้าน รวมทั้งพยานแวดล้อมต่าง ๆ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ด้านนางพัทยา ทองหล่อ อายุ 50ปี แม่ค้าใกล้จุดเกิดเหตุ เผยว่า ตนทราบข่าวช่วงเช้าวันนี้ว่า เกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงพนักงานร้านจนเสียชีวิตเพราะเรื่องที่คนร้านทำเบียร์ตกแตก แต่จะไม่ยอมจ่ายเงินจึงมีปากเสียงกับพนักงานผู้ตาย เบื้องต้นหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกตกใจ เพราะคิดว่าการกระทำที่เกิดขึ้นอุกอาจเกินไป

หากมีโอกาสได้พูดกับผู้ก่อเหตุอยากจะถามว่า "ทำแบบนี้ทำไม หากเป็นครอบครัวของคุณที่ถูกกระทำลักษณะนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร" พร้อมทั้งอยากจะให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้โดยเร็ว เนื่องจากจะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุดังกล่าวซ้ำกับผู้อื่นอีก

ต่อมา เวลา 03.30 น. พ.ต.ต.สวัสดิ์ คงแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายบุกเข้าไปในโรงพยาบาลสนามที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ภายในสถาบันธัญญา​รักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุบริเวณชั้นล่างใกล้ประตูทางเข้าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ตรวจสอบพบเป็นผู้ก่อเหตุคนเดียวกันสวมชุดลายพรางทหารชื่อ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี อดีตพลทหาร หลบหนีไปจนกระทั่งตำรวจมีการปิดล้อมบ้านใน ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง เจ้าตัวยอมมอบตัวในเวลาต่อมา

นายกมลภพ สุขคง รปภ. ตึกอำนวยการผู้ป่วยทั่วไป บอกว่า ตนเห็นผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 3ฒข6233 เข้ามาทางประตู 1 ช่วงเวลาประมาณตี 3 และมีการพูดคุยกับ รปภ. ตรงนั้นว่าจะมาหาหมอที่โรงพยาบาลราชวิถี แต่มาผิดโรงพยาบาล ตอนนั้น รปภ. ก็ไม่มีใครรู้ว่าผู้ก่อเหตุจะพกปืนมาด้วยจึงปล่อยให้เข้าได้ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับรถเข้ามาจอดตรงตึกอำนวยการผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งเท่าที่ตนเห็นแต่งกายด้วยชุดทหารเต็มยศ สวมหมวกสีแดง สีหน้าแววตาไม่ได้ดูมีพิรุธ ไม่เห็นว่าพกปืนด้วย แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังหอผู้ป่วยโควิด-19 ตอนนั้นตนคิดว่าคงไปห้องน้ำหรือโรงอาหาร

หลังจากนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นรัวประมาณ 10 นัดที่หอผู้ป่วยโควิด-19 รอบแรกประมาณ 5 นัด และอีกรอบห่างกันแค่ไม่ถึง 5 นาที อีก 5 นัด ก่อนที่ตนจะได้รับรายงานผ่านวิทยุสื่อสารว่ามีเหตุการณ์ยิงกัน จากนั้นประมาณ 15-20 นาที ผู้ก่อเหตุเดินมุ่งหน้ากลับมาที่รถตรงตึกอำนวยการ ตอนนั้นตนยืนปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ ผู้ก่อเหตุจึงยกปืนออกมายิงอีกรอบเพื่อขู่ ลักษณะการยิงเป็นการยิงแบบมั่ว ๆ รัว ๆ ประมาณ 4-5 นัด ทำให้ร่องรอยกระสุนกระจายอยู่ทั่วหน้าตึกอำนวยการทั้งหมด 7 จุดคือ เสาตรงทางขึ้น 3 จุด กระถางต้นไม้ 1 จุด เก้าอี้เจ้าหน้าที่ 1 จุด แผ่นพลาสติกกั้นตรงจุดคัดกรองอีก 2 จุด

ตนได้ยินเสียงปืนทั้งหมดประมาณ 15 ครั้ง ที่หน้าตึกอำนวยการประมาณ 4-5 นัด ที่โซ่คล้องกุญแจประตูทางเข้าหอผู้ป่วยโควิด-19 ชั้น 1 อีก 5 นัด และยิงคนตายอีก 5 นัด ตอนนั้นตนก็พยายามเดินไปอยู่บริเวณเสาของอีกฝั่ง เพื่อที่จะตั้งตัวเตรียมเข้ารวบจากด้านหลัง หากผู้ก่อเหตุขึ้นมาบนตึก แต่พอยิงเสร็จผู้ก่อเหตุก็เดินขึ้นรถและขับออกไปทันที

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับในหนังที่ตนเคยดู ส่วนเหตุผลที่ประตูของทางโรงพยาบาลในช่วงกลางคืนเปิดอยู่ข้างหนึ่ง ทำไมไม่ปิดทั้งหมด เพราะช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่คนจะเข้ามาหยิบบัตรคิว และโรงพยาบาลก็เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงด้วย