จากกรณีมีผู้ร้องเรียนมายังแฟนเพจเฟซบุ๊กรายการทุบโต๊ะข่าว ถึงพฤติกรรมของผู้ชายลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังใช้ความรุนแรงกับผู้ชายคนหนึ่ง โดยมีพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าว และมีการเผยแพร่ไปในสื่อสังคมโซเชียลมีเดียจนเกิดประแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้ความรุนแรงเป็นจำนวนมาก
วันที่ 25 มิ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ริมถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางบอน กรุงเทพฯ อยู่บริเวณด้านหน้าบริษัทเครื่องมือก่อสร้างแห่งหนึ่ง
นายโต้ง (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นผู้ถ่ายคลิป เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 23.00 น. ตนได้ยินเสียงคนโวยวายเสียงดังบริเวณด้านล่าง ตนจึงเดินชะโงกหน้าลงมาดู เห็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจประมาณ 4 คน ลากตัวผู้ชายเสื้อสีขาวลงจากรถ ตนตัดสินใจถ่ายคลิปเพราะคาดว่าน่าจะเกิดความรุนแรง
จนกระทั่งมีการเตะที่บริเวณร่างกายของชายคนดังกล่าวหลายครั้ง ตนไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นเขาทำอะไรผิดมาหรือไม่ หรือนี่อาจจะเป็นยุทธวิธีในการควบคุมตัว แต่มองการใช้ความรุนแรงน่าจะทำเกินไปกว่าเหตุ และตนก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้มาก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้จักว่าผู้ชายที่โดนทำร้ายร่างกายว่าเป็นใคร ส่วนชายในคลิปจะใช่ตำรวจจริงหรือไม่ ก็ให้สังคมตัดสินจากคลิปที่ปรากฏและอยากให้มีการตรวจสอบความจริง
นางสาวหญิง (นามสมมติ) อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ก่อนส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เล่าว่า ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้หมดสติอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง กระทั่งเดินทางมาถึงพร้อมกับอีก 6 นาย พบชายคนดังกล่าวมีอาการเหมือนคนมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง สายตาเหม่อลอย สักพักนอนนิ่งเหมือนหมดสติ จึงใส่ชุด PPE เพราะไม่แน่ใจว่าผู้ป่วยติดโควิดหรือไม่
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง จึงเข้าควบคุมตัวเพื่อนำส่งให้ตำรวจ ชายคนดังกล่าวค่อนข้างขัดขืน ซึ่งมีกำลังมากจนต้องใช้แรงผู้ชาย 5-6 คน จึงจะสงบลง ใช้เวลาในการควบคุมประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นพยายามค้นกระเป๋าสะพายหาชื่อหาโทรศัพท์เพื่อจะติดต่อญาติหรือยารักษา แต่ไม่พบเอกสารใด ๆ พบเจอแต่บัตรประชาชนและเงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมหน้ากากอนามัย 1 แพ็ค
จากนั้น ทำการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลใด ๆ ซึ่งพนักงานในปั๊มบอกว่าชายคนดังกล่าวไปขโมยหน้ากากอนามัยจากที่อื่นแล้วหนีมาที่ปั๊มนี้ แต่พวกตนไม่ได้ไปส่งย่านประชาอุทิศ เพราะเกรงว่าสินทรัพย์ภายในรถจะได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการต่อ หลังจากนั้นตนก็ไม่ทราบรายละเอียดแล้ว กระทั่งมาเห็นคลิปในสื่อสังคมโซเชียลมีเดีย ตนก็เห็นผ่าน ๆ แล้วจำได้ว่า ชายที่ถูกทำร้ายแล้วปรากฏอยู่ในคลิปนั้นเป็นคนเดียวกันกับที่ตนเพิ่งไประงับเหตุ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าภาพที่ออกมาค่อนข้างไม่เหมาะสม
พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางบอน ได้รับแจ้งมีชายเมาอาละวาด และพยายามลักทรัพย์ ภายในเซเว่นปั๊ม ปตท. สาขาบางขุนเทียนขาเข้า ไปถึงพบชายรูปร่างสูงใหญ่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งคล้ายคนเมา ก่อกวนประชาชนอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ จึงเรียกอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาช่วยควบคุมตัวพร้อมใส่ชุด PPE แต่ผู้คลุ้มคลั่งตัวใหญ่แรงเยอะ ต้องช่วยกันควบคุมตัวถึง 6 คน ใช้เวลา 30 นาที จึงสงบลง จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารใด ๆ ติดตัว นอกจากบัตรประชาชน
ทราบชื่อนายธีรเดช การสอบถามจับใจความได้ว่าได้ร้องขอให้ไปส่งบ้านญาติย่านประชาอุทิศ แต่ทางอาสาสมัครได้ปฏิเสธ เนื่องจากเป็นผู้คลุ้มคลั่ง เกรงว่าทรัพย์สินการแพทย์จะได้รับความเสียหาย ดังนั้ นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอาสาจะไปส่งเอง โดยนั่งอยู่เบาะหลังคนขับ ในระหว่างเดินทางชายคนดังกล่าวเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง พยายามจะมาด้านหน้าแล้วจับพวงมาลัยและพยายามดึงกุญแจรถ เกิดการชุลมุนภายในรถ ร.ต.อ.รณศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บนิ้วนางขวาหัก จึงทำการจอดรถริมถนนเพื่อความปลอดภัย และขณะนั้นมีสายตรวจ 2 นาย สน.ท่าข้าม มาประสบเหตุพอดี จากนั้นก็เป็นไปตามคลิปที่แพร่กันในโซเชียล
ทั้งนี้ ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีความพร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายด้วย ส่วน ร.ต.อ.รณศักดิ์ ไม่ได้แจ้งความเอาผิด พร้อมไปรักษาอาการบาดเจ็บด้วยตนเองที่ รพ.กระทุ่มแบน