เมียเหยื่อทหารคลั่งกรี๊ดลั่นองค์ลงดูจุดผัวตาย คนไข้แฉนาทีมุดเตียงหนีห่ากระสุน (คลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 นายกวิน แสงนิลกุล ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้บริสุทธิ์ในร้านสะดวกซื้อย่านลาดพร้าว ก่อนไปยิงผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามที่ จ.ปทุมธานี และหลบหนีไปพื้นที่ จ.ระนอง ก่อนถูกคุมตัวได้ในที่สุด รับสารภาพมาจากความเครียด ครั้งเมื่อเป็นพลทหารแล้วถูกทำร้ายในค่าย ก่อนปลดประจำการเมื่อปี 2562 แล้วนั้น

วันที่ 25 มิ.ย. 64 ครอบครัวของนายสุขสันต์ เสาวพันธ์ อายุ 54 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุในยิงโรงพยาบาลสนามธัญรักษ์ ประกอบด้วยภรรยา น้องสาว หลานสาว เดินทางเข้ารับศพที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

น.ส.ร่มเย็น บุญสืบ อายุ 47 ปี ภรรยาของนายสุขสันต์ บอกว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เพราะสามีกำลังจะออกจากโรงพยาบาล เพื่อมาอยู่ดูเเลครอบครัว กลับมาเสียชีวิตกะทันหัน หลังจากนี้ครอบครัวคงลำบากมาก เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นเสาหลัก รายได้เกือบทั้งหมดมาจากเขาเพียงคนเดียว ส่วนในเรื่องทางคดีอยากให้ประหารชีวิต ให้ตายตามสามีไป โรงพยาบาลเป็นสถานที่ปลอดภัย ไม่ควรทำแบบนี้ อย่ามาอ้างว่าไม่รู้ว่าสถานที่นั้นเป็นโรงพยาบาล เพราะขณะเกิดเหตุผู้ตายก็ยังใส่ชุดคนไข้อยู่ ทำไมถึงฆ่าเขาได้ลง คุณอย่ามาอ้างว่าบ้า คุณเพียงขาดสติเพราะความเมา ไม่ได้ขาดสติเพราะความบ้า จึงอยากให้ประหารชีวิต หากปล่อยไว้ก็คงออกมาฆ่าคนอีก

ส่วนครอบครัวผู้ก่อเหตุ หากจะมาขอโทษ ตนก็ยินดี เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งตนโกรธผู้กระทำผิด ไม่ได้โกรธครอบครัวเขา

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภรรยาของนายสุขสันต์ปรี่เข้าไปเพื่อจะขอดูหน้าผู้ต้องหา จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถคุมขังแล้ว ภรรยาของนายสุขสันต์จึงยืนอยู่ข้างรถ มองผ่านกระจก เตะโกนใส่ผู้ต้องหาว่า "อายุของเขาไม่น่าเป็นเเบบนี้ อนาคตเขายังอีกไกลเด็กคนนี้ แต่ทำไมความคิดเขาสัตว์นรก ป่าเถื่อน เถื่อนมาก เถื่อนเกินไปที่มาทำในโรงพยาบาล คือขออย่างเดียวประหารได้ไหม ให้ตายตามเขาไปเลย"

น.ส.ร่มเย็น กล่าวว่า ความตั้งใจคือจะมาเชิญวิญญาณ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กำลังทำแผนฯอยู่ตรงหน้า ก็อยากจะเห็นหน้าเขาชัด ๆ ตอนนี้ยอมรับว่ายังแค้นมาก ทำไมเขาถึงโหดร้าย กล้ายิงคนป่วยได้ถึงขนาดนี้ ส่วนสิ่งตนยังสะเทือนใจ คือเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกสาววัย 4 ขวบถามว่า "แม่ เขายิงป๊าทำไม ป๊ากำลังจะได้กลับบ้านแล้ว เขายิงทำไม" ซึ่งตนเองได้ฟังลูกถามแบบนั้นก็สะเทือนใจมาก เด็กยังไร้เดียงสา ที่ผ่านมาลูกสาวจะผูกพันกับสามีมาก เพราะเขาเป็นคนรับผิดชอบครอบครัวทุกอย่าง

หลังจากเสร็จสิ้นการทำเเผนฯ น.ส.ร่มเย็น ทำพิธีเชิญวิญญาณที่ศาลพระภูมิของโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปในจุดเกิดเหตุได้ เพราะเป็นพื้นที่รักษาผู้ป่วยโควิด ระหว่างที่กำลังจะเดินขึ้นไปทำพิธี ปรากฏว่า น.ส.ร่มเย็น ได้กลิ่นธูปจากศาล แสดงอาการแปลก ๆ ญาติบอกว่าเป็นอาการองค์ลงประทับร่างเพราะตัว น.ส.ร่มเย็น มีองค์พ่อปู่ประจำตัว

น.ส.ร่มเย็น เริ่มพนมมือขึ้นไหว้เหนือศีรษะ ตัวสั่น เสียงเปลี่ยน คุกเข่าลงตรงขั้นบันไดของศาล พูดว่า "มึงทำกับลูกกูเเบบนี้ได้ยังไง ขอเอาดวงวิญญาณลูกกลับบ้าน ขอปล่อยดวงวิญญาณ สุขสันต์ เสาวพันธ์ ลูกข้ากลับบ้านด้วย อย่ากักลูกข้าไว้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง ให้ปลดปล่อยดวงวิญญาณ" โดยก่อนองค์จะออกจากร่างได้สั่งว่าให้ภรรยาของผู้ตายจุดธูปเรียกสามีกลับไปด้วย

ด้าน น.ส.ร่มเย็น บอกว่า ช่วงก่อนจะทำพิธีเชิญวิญญาณเริ่มมีอาการชาตัวสั่น หายใจติดขัด ไม่มีเเรง หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนกระทั่งองค์ออกจากร่าง ซึ่งเริ่มมีอาการแปลก ๆ มาตั้งแต่ปี 52 จะมีอาการทุกครั้งเมื่อได้กลิ่นธูป เนื่องจากเคยยกขันธ์ 5 รับองค์พญางูจงอาง องค์พ่อปู่นาคราชมาจากน้องสาว ซึ่งน้องสาวมีองค์ปู่ฤาษีหน้ารอด ที่ผ่านมาองค์พ่อปู่จะคอยช่วยเหลือเวลาที่ขัดสน หรือลำบาก ซึ่งการลงมาแต่ละครั้งก็เพื่อเตือนร่างให้รู้ตัวว่าจะต้องสวดมนต์ทำบุญ ซึ่งช่วงหลังไม่ค่อยได้ทำองค์จึงลงมาบ่อย โดยวันนี้องค์ที่มาลงเป็นองค์พ่อปู่นาคราช มาลงเพื่อขอเจ้าที่เจ้าทาง เปิดทางให้วิญญาณสามีตนกลับบ้าน หลังจากนั้นตนก็รู้สึกว่าสามี ตามกลับมาจริง ๆ

น.ส.เฟิร์น ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงปืนดังในโรงพยาบาลสนาม มีเสียงตามสายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามทุกคนออกจากห้อง พวกตนและคนอื่น ๆ ก็ตกใจมาก รีบแอบซ่อนและลบใต้เตียง ซึ่งตนรู้จักกับผู้ตายและเห็นกันมาก่อน ตอนนี้ตนก็กังวลและอยากกลับบ้านแล้ว ซึ่งของตนกำหนดกลับได้วันที่ 27 มิ.ย. 64 นี้