นุช วิลาวัลย์ อาร์สยาม หญิงสาวที่มีใจรักด้านการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เลยเลือกเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป ซึ่งชีวิตพลิกพลันเมื่อมาเรียนที่กรุงเทพ เธอได้รับโอกาสให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวงโปงลางสะออน มีหน้าที่เป็นนางรำและนักร้องประจำวง และจุดเด่นในตัวเธอก็คือเสียงร้องที่แหบแต่น่าฟัง และการร้องที่ถ่ายทอดออกมาเป็นหมอลำแท้ๆ จนได้รับโอกาสดีๆ จากค่ายยักษ์ แต่ล่าสุดเธอได้ออกมาเป็นนักร้องอิสระทำงานเพลงลงทุนด้วยตัวของเธอเอง เมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ สาวนุช ได้นำเพลงใหม่ น้องพร้อมเจ็บ มาโชว์สร้างสีสันให้กับรายการ พร้อมกับเปิดเปิดเรื่องราวความเชื่อความศรัทธานับถือและเคารพบูชา แม่ฮันนี่ ศรีอีสาน จนมีงานเข้า เงินปัง
ถาม ต้องบอกเลยว่าเพลงนี้ที่เพิ่งโชว์ไป เป็นเพลงแรกเลยที่เราออกมาเป็นศิลปินอิสระ
นุช วิลาวัลย์ : ใช่ค่ะ เพลง น้องพร้อมเจ็บ เป็นเพลงแรกเลยค่ะ หลังจากที่เราหมดสัญญาจากต้นสังกัดเดิม สำหรับเพลงนี้ แต่งเองทั้งหมดเลยเพื่อที่จะเชฟค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด เพราะว่าเราไม่มีต้นทุนในการลงทุน ทั้งหมดคือเราลงทุนเองเลย 100 เปอร์เซ็นต์ เนื้อร้อง ทำนอง เราทำเองหมด ส่วนดนตรีได้พี่บ๊อบบี้ สามบาทห้าสิบ ช่วยเหลือ ให้ราคาพิเศษในแบบพี่น้อง ส่วนในเรื่องของ MV แดนเซอร์ เราก็คิดท่าเต้น ช่วยกันกับพวกน้องแดนแซอร์ค่ะ ส่วนของชุดก็ได้พี่ที่รู้จักกัน ร้านศิวาลัยออกแบบให้ ซึ่งเงินที่ลงทุนกับเพลงนี้ไปประมาณแสนกว่าบาท เพราะว่าทุกคนช่วยกันด้วยค่ะ
ถาม ต้องขอเป็นกำลังใจให้เพราะว่าพอออกมาเป็นศิลปินอิสระปุ๊บ เจอกับสถานการณ์โควิดหนักเลย
นุช วิลาวัลย์ : เจอเต็มๆ 3 รอบเลยค่ะ อย่างครั้งแรกเราทำงาน เรามีเงินเก็บ เราก็อยู่ได้ พอครั้งที่สอง เราก็เริ่มตึงๆ แล้วเพราะเราก็ใช้เงินที่เราเก็บมาอีก แต่พอมาครั้งที่ 3 เงินเก็บก็หมดไปแล้ว เพราะว่าเราเป็นคนที่ดูแลครอบครัวคนเดียวเลย ทั้งคุณพ่อ คุณแม่และพี่ชาย พอครั้งที่สามมาแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วทุกอย่างนิ่งไปหมดเลยค่ะ หน้าร้านเปิดไม่ได้ ส่วนออนไลน์ เราต้องเข้าใจผู้บริโภคด้วยว่าเขาก็ไม่มีกำลังซื้อเหมือนเราเนี่ยแหละค่ะ ก็เลยตัดสินใจพักร้านอาหารไปก่อนที่เป็นอาชีพเสริมของเรา เป็นร้านอาหารอีสาน ชื่อร้าน แซ่บตาสวด จะมีพวกก๋วยจั๊บญวน ส้มตำ อาหารอีสานค่ะ ตอนนี้ร้านก็พักไปก่อน แล้วเราก็มาขายของออนไลน์แทนคือ ขายน้ำปลาร้า ขายน้ำยำ ขายไส้กรอกอีสาน เน้นของทานเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
ถาม พอเราเจอสถานการณ์โควิด ไม่รู้ว่าจะพูดแบบนี้ได้ไหม เราถึงขั้นที่จะต้องขายสมบัติเก่าเลย
นุช วิลาวัลย์ : ขายค่ะ อันนี้เรื่องจริงเลยค่ะ เมื่อก่อนเป็นนักร้องหมอลำ นุชได้ไปต่างประเทศบ่อยมาก ทั้งยุโรป อเมริกา เวลาที่เราไป เราก็ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมด้วยความชอบ เราก็ได้ซื้อมาเก็บไว้หลายอย่าง มีทองบ้างอะไรบ้าง แต่พอมันไม่ไหวแล้ว เงินสดก็ไม่มีแล้ว แต่เพลงเราก็ต้องออกใช่ไหมคะ เพราะถ้าเราปล่อยให้ตัวของเรานิ่ง ก็จะหายไปแล้วจะกลับมายาก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเลือก ต่อให้กระเป๋าใบนี้รักแค่ไหน เราก็ต้องขาย เพื่อเอาเงิน ที่ขายกระเป๋ามาทำเพลงแล้วก็ดูแลทุกคนในครอบครัว
ถาม เรียกว่าได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่ก็ต้องถามอีกเรื่องคือความเชื่อของเรา ตั้งแต่ที่เรามีชื่อเสียงจนมีฉายา ความเชื่อคืออะไร
นุช วิลาวัลย์ : ต้องย้อนความก่อนนะคะว่าตอนแรกเรายังไม่ได้เชื่อ ศิลปินท่านนี้ คุณแม่ฮันนี่ ศรีอีสาน ท่านเป็นศิลปินหมอลำ ซึ่งตรงกับทางเรา แล้วเพลง น้ำตาหล่นบนที่นอน ตั้งแต่ที่เราร้องเพลงได้ เราร้องเพลงนี้ได้เลย เราชอบมาตั้งแต่เด็ก แต่พอเราโตขึ้น เราก็ลืมไปเนอะ แต่ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราได้นำเพลงของแม่ฮันนี่กลับมาร้อง ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เป็นความเชื่อของนุชเนอะ ได้ไปออกรายการหนึ่ง แล้วได้มีโอกาสร้องเพลงนี้ ก่อนที่เราจะร้องเพลง มีพี่ทีมงานให้เราไปสัมภาษณ์ก่อน แล้วพี่เขาเรียกชื่อเราผิดสามสี่รอบว่าคุณฮันนี่ๆ เราก็บอกเขาไปว่าพี่หนูชื่อนุชนะ ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอจะร้องเพลง เราก็ขอพร นึกถึงแม่ฮันนี่ว่าหนูจะหมดสัญญากับที่เดิมแล้วนะ ขอพรเปิดทางให้ลูกหน่อยได้ไหม ให้แม่มาอยู่ในตัวหนู ขอให้หนูทำให้เพลงแม่กลับมาดัง ขอให้เพลงแม่ ทำให้หนูดังมีชื่อเสียง มีงาน มีเงิน พอเราร้องเสร็จ กลายเป็นไวรัลใน TikTok เลย ทำให้เรามีงาน มีเงิน เพราะเพลงแม่เลยค่ะ แล้วหลังจากนั้นสามเดือนเราก็มีโอกาสไปกราบท่าน ซึ่งพอไปถึงศาลที่แม่ประสบอุบัติเหตุ เราก็ไปร้องเพลงของแม่ฮันนี่ ซึ่งเราก็ไปร้องที่นั่นตลอดเลยค่ะ ตอนแรกที่ร้องก็เป็นเรา แต่พอร้องไปร้องมาสักครึ่งเพลง เหมือนไม่ใช่เรา ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราควบคุมตัวเองไม่ได้แต่รู้ว่าเราทำอะไร แต่แค่เราควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งตอนแรกเราก็ยังไม่เชื่อที่สุดนะคะ แต่พออีกวันมีงาน เราขึ้นไปร้องเราทำอะไรไม่ได้เลย ติดขัดไปหมดแล้วก็เป็นลมอยู่บนเวทีเลยค่ะ เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเราก็มองไปที่หิ้งพระที่เราไหว้ตอนแรก มีรูปคุณแม่อยู่ที่ร้านที่เราไปร้อง แล้วเราไม่เห็น ซึ่งพี่เจ้าของร้านเขาก็มาบอกเราว่าเหมือนมีคนจะโชว์เพลงแม่เหมือนกัน แต่ไม่ได้บอก ก็เล่นไม่ได้เหมือนกัน แล้วพอเราดีขึ้น เราก็ทำการขอโทษแม่ที่เราไม่เห็น ไม่ได้บอก เราก็ตั้งจิตบอกท่านว่าไม่ว่าเราจะไปเล่นที่ไหน เราจะบอกท่านตลอด แล้วพอเราขึ้นไปร้องเพลงแรกที่เราร้องเหมือนไม่ใช่เราเลย ทั้งการร้อง การฟ้อนคือไม่ใช่เราเลย พอเรามาดูภาพแล้วเรายังกลัวตัวเองเลย แล้วจากนั้นอีกสองสามวันเราก็ปริ้นท์รูปของแม่ไปให้ที่ร้านที่เราไปร้อง เพราะเราคิดว่าแม่คงอยากให้ทุกคนเห็น แล้วเราก็ขออีกว่าถ้าแม่อยากให้เราจัดงานให้ แต่เราต้องมีเงินพอ หลังจากนั้นเราก็ได้พรีเซ็นเตอร์มาสามแสน อีกตัวได้อีกหนึ่งแสน อยู่ดีๆ ก็มีเงินเลย ภายในวันเดียวเลย เราก็เลยจัดงานให้แม่ เราก็เลยนับถือเป็นแรงใจในการทำงานของเรา เพราะแม่ก็เป็นเสมือนครูของเรา
ถาม ไม่ใช่ที่จะโชคดีแล้ว นุชยังมีความขยันขายของมากมาย ทำอะไรบ้าง
นุช วิลาวัลย์ : ก็จะมีเปิดร้าน ขายของออนไลน์ ตอนนี้เราก็อยากทำเพลงให้คนอื่นด้วย อย่างตอนนี้จะแต่งเพลงให้หลานค่ะ แล้วก็ทำช่องยูทูบกันไปเรื่อยๆ อย่างน้อยหลานเขาก็ได้มีโอกาส เพราะเราเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้เขา กว่าที่เราจะได้มาเป็นนักร้องก็ค่อนข้างลำบาก ใช้เวลา 10 ปีเลย
ถาม ถึงในระหว่างนี้ยากสักนิดในการไปออกคอนเสิร์ตที่ทั้งในและต่างประเทศ แต่ก็สามารถติดตามผลงานของนุชได้ที่ไหน
นุช วิลาวัลย์ : ฝากผลงาน น้องพร้อมเจ็บ และผลงานใหม่เร็วๆ นี้นะคะ เป็นเพลงช้า สัญญารักที่หนองหาญ แต่งเพลงทำเองหมดทุกอย่างเลยค่ะ ฝากด้วยนะคะ