มาเลเซียเฆี่ยน 2 สาวเลสเบี้ยน หลังถูกจับมีเซ็กส์ขัดกฎหมายอิสลาม

3 ก.ย. 61
วันนี้ (3 ก.ย. 61) สาวชาวมาเลเซีย 2 ราย ถูกตัดสินลงโทษโดยการเฆี่ยน เนื่องจากมี เลสเบี้ยนเซ็กส์ ซึ่งขัดกับกฎหมายอิสลามซึ่งไม่ยอมรับความรักระหว่างเพศเดียวกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการต่อต้านของนักเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชนว่าเป็นการลงโทษที่โหดเหี้ยมและไม่เป็นธรรมก็ตาม โดยนักเคลื่อนไหวระบุว่านี่เป็นครั้งแรก ที่ผู้หญิงถูกลงโทษโดยการเฆี่ยน จากการละเมิดกฎหมายชารีอะฮ์ หรือกฎหมายอิสลาม เมื่อเดือน เม.ย. 61 ที่ผ่านมา หญิงสาว 2 คน ซึ่งมีอายุ 22 และ 32 ปี ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอิสลาม หลังถูกพบว่าพยายามมีเซ็กส์บนรถที่จอดอยู่บริเวณจัตุรัสสาธารณะ ในรัฐตรังกานูตอนเหนือ ซึ่งถือเป็นย่านที่อนุรักษ์นิยมที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย ไม่มีการเปิดเผยตัวตนของทั้ง 2 คน แต่ระบุว่าทั้งคู่ถูกตัดสินลงโทษโดนการเฆี่ยน และปรับเป็นจำนวนเงิน 3,300 ริงกิต (ราว 26,000 บาท) จากการลงโทษดังกล่าว เกิดเป็นกระแสต่อต้านจากนักสิทธิสตรีในมาเลเซีย ระบุว่าการกระทำดังกล่าวละเมิดสิทธิมนุษยชน การมีเซ็กส์ด้วยความยินยอมระหว่างผู้บรรลุนิติภาวะไม่ควรเป็นสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือลงโทษ ด้านองค์กรแอมเนสตี้ ระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่เลวร้าย เป็นสิ่งยืนยันว่ากลุ่ม LGBT ในมาเลเซียถูกกระทำอย่างโหดเหี้ยมเพียงใด และยังแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดใหม่ ยินยอมให้ใช้การลงโทษที่ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งไม่แตกต่างกับรัฐบาลชุดก่อน ๆ อย่างไรก็ตาม ประธานศาลฯ ได้ออกมาโต้แย้งว่า โทษการเฆี่ยนในกฎหมายอิสลามไม่รุนแรงเท่ากับโทษการเฆี่ยนในกฎหมายทั่วไปของมาเลเซีย จุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความอับอายมากกว่าความบาดเจ็บทางร่างกาย โดยก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการอิสลาม ได้ออกมากล่าวต่อต้านกลุ่มคนรักร่วมเพศ และสั่งให้ถอดภาพของนักเคลื่อนไหวเพื่อ LGBT  ออกจากงานนิทรรศการศิลปะ และมีสาวข้ามเพศถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทางตอนใต้ของรัฐนอเกอรีเซิมบีลัน ขอบคุณ AFP , ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่ อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34  

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม