บุคลากร รพ.อยุธยา ติด โควิดเดลตา 7 คน บางคนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ชี้ช่วยให้อาการไม่หนัก

สสจ.อยุธยา เผยบุคลากร รพ.อยุธยา ติด โควิดเดลตา (อินเดีย) 7 คน บางคนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ชี้ช่วยให้อาการไม่หนัก ล่าสุดคุมการระบาด-รักษาหายแล้ว

นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพท สสจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผย จากกรณีบุคลากรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาติดเชื้อทั้งสิ้น 28 ราย ซึ่งติดเชื้อภายในกลุ่มที่มีการสัมผัสกันอย่างรวดเร็ว จึงเกิดข้อสงสัยและนำตัวอย่างส่งไปตรวจหาการกลายพันธุ์ของเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 4 สระบุรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา และได้ผลการตรวจแจ้งกลับมาวันที่ 28 มิ.ย.

พบมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 7 ราย สายพันธุ์อัลฟา 2 ราย ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหน 8 ราย โดยพบอีกข้อสังเกตคือกลุ่มผู้ติดเชื้อสายพันธ์เดลตา มีบางส่วนได้รับการฉีดวัคซีนชิโนแวค ครบ 2 เข็ม ซึ่งการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำให้เชื้อโควิดแสดงอาการไม่รุนแรง หรือไม่ทำให้เสียชีวิต และทางสาธารณสุขได้ควบคุมการแพร่ระบาดไว้ในวงจำกัดแล้ว

ทั้งนี้กลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดได้รับการรักษา ควบคุมตามมาตรฐานของกรมการควบคุมโรคและรักษาหายครบตามระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว

จึงขอให้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติตนตามมาตรการเว้นระยะห่าง งดสังสรรค์ สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ วัดอุณหภูมิ ตรวจหาเชื้อ ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ หมอชนะ รวมทั้งเฝ้าระวัง สังเกตอาการป่วยของตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการทางระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาในทันที 

ขณะที่วันนี้(30 มิ.ย.64) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สสจ.อยุธยา) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิ.ย.64 เวา 16.00 น. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 66 คน (รายที่ 2073-2138) เป็นชาย 18 คน หญิง 48 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยมีอาการ 35 คน (53.03 %) ไม่มีอาการ 31 คน (46.97 %)

โดยอยู่ในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา 6 คน, อ.บางปะอิน 24 คน, อ.เสนา 1 คน, อ.ท่าเรือ 21 คน, อ.นครหลวง 4 คน, อ.วังน้อย 5 คน, อ.บางปะหัน 3 คน, อ.อุทัย 1 คน, อ.ผักไห่ 1 คน ความสะมพันธุ์แแบ่งเป็น

1. เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย ใน จ.พระนครศรีอยุธยา 37 คน
2. ผู้สัมผัสผู้ป่วยต่างจังหวัด 5 คน
3. มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง (จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ) 4 คน
4. ทำงานสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง (กรุงเทพฯ) 1 คน
5. ทำงานสถานที่เดียวกับผู้ป่วย (นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา) 9 คน
6. ทำงานแผนกเดียวกับผู้ป่วย (อ.หนองแค จ.สระบุรี) 4 คน
7. การสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อ มีกิจกรรมและเดินทางไปหลายพื้นที่ ซึ่งไม่สามารถชี้ชัดว่าติดเชื้อจากกิจกรรม หรือพื้นที่ใด 6 คน