กรณีตำรวจ สภ.เมืองสุราษธานี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเจ็บสาหัสกลางสี่แยกสวนหลวง เจ้าหน้าที่พบรถเอชอาวี สีขาว ทะเบียน 9กง9585 สุราษธานี พบว่ากระจกฝั่งขวาแตกเสียหายจากการถูกยิง เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล หลังถูกยิงเข้าที่ขมับขวา 3 นัด เป็นกระสุนชนิด 9 มม. และคนเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทราบชื่อคือ นางสุชาวดี อินทรักษ์ พนักงานราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตำแหน่งหัวฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร ซึ่งเป็นภรรยาของนายก่อเกียรติ อินทรักษ์ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
วันที่ 30 มิ.ย. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังกลางสี่แยกสวนหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกำลังมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในรถ สภาพด้านในรถมีกระจกฝั่งขวาแตกเสียหายจากกระสุนที่ยิง พบกองเลือดและรองเท้าของคนเจ็บอยู่ในรถ
นายสง่า คงสุทธิ์ อายุ 54 ปี หัวหน้าฝ่ายกิจการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ญาติของคนตายฝั่งสามี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตนเองเจอกับผู้ตายที่วัดโพธิ์นิมิตร ซึ่งมีพิธีพระราชทานเพลิงศพญาติในครอบครัว ทุกคนได้ไปรวมตัวกันที่งานศพ แต่หลังจากที่ขับรถออกจากวัดได้ไม่นาน ช่วงที่ขับรถมาถึงสี่แยก ก็ได้รับโทรศัพท์ว่านางสุชาวดีถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนเองก็ได้รีบเข้ามาที่เกิดเหตุโดยทันที แต่ก่อนที่จะออกจากวัดก็ไม่ได้สังเกตเห็นรถผิดปกติ เพราะเจ้าตัวก็เป็นคนขับรถออกจากวัดก่อนคนอื่น
สำหรับนิสัยส่วนตัว เป็นคนที่ตั้งใจทำงานราชการ ไม่มีความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน และไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาทางด้านการเงิน แต่ส่วนเรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่นในสมัยที่ผ่านมา แม้ว่านายก่อเกียรติ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในสามีของนางสุชาวดี แต่ผลการเลือกตั้งพบว่าแพ้การเลือกตั้ง เรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้สร้างความขัดแย้งให้กับใคร จึงเชื่อว่าจะไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง เนื่องจากการเลือกตั้งจบไปแล้วเมื่อปลายปี 2563
ในฐานะคนในครอบครัว ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะความขัดแย้งในที่ทำงานผู้ตายก็ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร หรือแม้แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นสามีของผู้ตายก็ไม่ได้ชนะการเลือกตั้งจนทำให้เกิดความขัดแย้ง ฉะนั้นจึงนึกไม่ออกว่าทำไมถึงถูกยิง แต่ส่วนตัวยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ยังคุยกันอยู่ที่วัด แต่หลังจากนั้นกลับพบว่าถูกยิงตายกลางสี่แยกแล้ว
ด้านนายประเสริฐ บุญประสบ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษธานี คนสนิทของคนตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุ เปิดใจว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้น่าจะหมดไปจาก จ.สุราษฎร์นานแล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความอุกอาจกลางเมือง ต้องฝากถึงเจ้าหน้าที่ให้ทำงานหนักมากยิงขึ้น
ทั้งนี้ คนตายเป็นคนที่เรียนหนังสือและตั้งใจทำงาน ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น และหากมองถึงเรื่องสาเหตุที่ทำให้ถูกยิงตนเองก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นเพราะสาเหตุใด
ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิดบริเวณกลางสี่แยกสวนหลวง บันทึกเอาไว้ในช่วงเวลา 16.36 น. ได้ยินเสียงปืนดัง 4 นัด จากนั้นเป็นจังหวะที่มีการปล่อยสัญญาณไฟ เห็นรถของผู้ตายขับข้ามแยก ก่อนที่จะไปจอดนิ่งกลางสี่แยก
จากนั้น พบว่าห่างออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร รถวีออส สีดำ ทะเบียน ขก 2704 สุราษฎร์ธานี ได้ขับหลบหนีหลังก่อเหตุ ไปจอดทิ้งเอาไว้บริเวณลานกว้างภายในซอยสวนถั่ว พื้นที่ดังกล่าวไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่ มีโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชนตั้งอยู่ คาดว่าคนร้ายอาจเป็นคนในพื้นที่จึงรู้ว่าสถานที่ดังกล่าวไม่มีบ้านคน และเป็นพื้นที่เปลี่ยว สามารถที่จะนำรถไปซุกซ่อนเอาไว้ได้
หลังจากที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปถึงมีการตรวจค้นรถ พบเสื้อผ้าและของใช้ทิ้งเอาไว้ในรถเก๋ง พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 1 ปลอก ซึ่งใช้งานแล้ว ตกอยู่ที่เบาะคนขับ กระสุนปืน 9 มม. อีก 1 นัด ยังไม่ผ่านการใช้งานตกอยู่บริเวณที่พักเท้าคนขับ เจ้าหน้าที่ตรวจพบเอกสารส่วนหนึ่ง คาดว่าเป็นของคนก่อเหตุ แต่ไม่พบปืนและเอกสารทางราชการ เจ้าหน้าที่มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และได้มีการเก็บรอยนิ้วมือในรถไปตรวจสอบแล้ว โดยที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดจับภาพวินาทีที่คนร้ายขับรถเก๋งเลี้ยวเข้าซอยเพื่อจะนำไปทิ้ง ก่อนที่จะหลบหนีไป
จากนั้น มีกล้องของโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชน บันทึกภาพวินาทีที่คนร้ายสวมใส่เสื้อสีดำ เดินลงมาจากรถหลังจากที่จอดรถทิ้งเอาไว้เพื่อหลบหนี โดยหลังจากที่ทิ้งรถเอาไว้แล้วได้เดินออกไปที่ปากซอย ใช้เส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิดเพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่
ต่อมาในเวลา 16.56 น. หลังจากที่มีการทิ้งรถเอาไว้ในพื้นที่ว่างเปล่าข้างโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชน คนร้ายได้ลงจากรถและเดินข้ามสี่แยกในซอย เป็นชายสวมใส่ชุดดำ ลักษณะตัวสูง มือขวาถือกระเป๋า 1 ใบ คล้ายกับเป็นกระเป๋าเก็บปืน หลังจากที่เดินข้ามแยกแล้วใช้เส้นทางที่ไม่มีบ้านคนและไม่มีกล้องวงจรปิดเพื่อหลบหนี
ทีมข่าวได้พยายามพูดคุยกับชาวบ้านที่เห็นคนร้ายเดินผ่าน ชาวบ้านส่วนใหญ่ระบุว่าคนร้ายเป็นชายลักษณะสูง สวมใส่ชุดดำ หัวเกรียน มีท่าทางลุกลี้ลุกลน เดินออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็วหลังจากที่ลงจากรถเก๋ง ชาวบ้านคิดว่าเป็นคนนำรถมาจอดพักเอาไว้ ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ก่อเหตุ อีกทั้งชาวบ้านบางส่วนกลัวชายคนดังกล่าว จึงไม่กล้าให้มูลมากนัก
ส่วนข้อมูลรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น พบว่าผู้ตายมีความขัดแย้งส่วนตัวกับคนในครอบครัว ตอนนี้อยู่ระหว่างการหาหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงไปหาคนก่อเหตุ