ทำด้วยใจ ! ได๋ ไดอาน่า เปิดเพจ #เราต้องรอด ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

2 ก.ค. 64

ตัวแม่ของวงการโดยเฉพาะสายงานอีเว้นท์ สำหรับพิธีกรสวยคนเก่ง ได๋ ไดอาน่า ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เผยว่าตอนนี้งานในวงการบันเทิง หรืองาน Event ได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ ทำให้หยุดชะงัก ไม่ได้สามารถจัดงานใดๆ ได้ ตัวเองเลยผันตัวมาช่วยเหลือสังคมด้วยการเปิดเพจ #เราต้องรอด ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

s__73236630 

ถาม เป็นเจ้าแม่สายอีเว้นท์ ต้องขอถามว่าในวันนึงเคยรับงานอีเว้นท์เยอะที่สุดกี่งาน

ได๋ ไดอาน่า : 5 งานแต่ 3 จังหวัดในวันเดียวกัน กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และหัวหิน ต้องบอกแบบนี้ค่ะ ตอนเช้าเราจะจัดรายการวิทยุ ก็นั่งเครื่องไปทำงานที่เชียงใหม่ แล้วเราก็นั่งเครื่องกลับมากรุงเทพฯ แล้วก็แวะไปอ่านสปอต แล้วก็ไปถ่ายรายการ แล้วก็ไปรับอีเว้นท์ที่หัวหิน ที่ไหนมีเงิน ที่นั่นมีเรา

ถาม แล้วพองานยกเลิก เป็นอย่างไรบ้าง

ได๋ ไดอาน่า : นอนอย่างเดียวเลยค่ะ นอนจนเราจำไม่ได้แล้วว่าเราว่างงานมานานแค่ไหนแล้ว ถ้าคำนวณจริงๆ ก็น่าจะเกินครึ่งปีได้ค่ะ ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าเราทำงานพิธีกร ไมค์โครโฟนคืออวัยวะประจำตัวเราเลย แต่ตอนนี้ไม่ได้จับไมค์มานานมากๆ แล้ว

ถาม แต่อีกด้านที่ต้องขอชื่นชมด้วยใจเลย ในการเป็นจิตอาสาที่เต็มที่กับงานมาก แทบไม่หลับไม่นอน แต่อันนี้ที่เธอทำอยู่คือทำด้วยใจเลย ไม่ได้ค่าตอบแทน เธอได้เปิดเพจที่ชื่อว่า #เราต้องรอด เริ่มต้นจากอะไร

ได๋ ไดอาน่า : เริ่มต้นจากการที่เราเป็นคนที่ติดตามข่าวสารตลอดเวลา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดทั่วโลก เราก็จะดูข่าวว่าแต่ละประเทศเขาเป็นยังไงบ้าง เราก็ติดตามแล้วเราก็เห็นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายๆ ประเทศกลับมาล็อคดาวน์ แล้วตอนนั้นปลายๆ ระลอกสองเข้าระลอกที่สาม ทำไมหลายๆ ประเทศมีการฉีดวัคซีนแล้ว มีการควบคุมอย่างดีแล้ว ทำไมยังเกิดอีก เราก็ภาวนานะคะ ว่าอย่าเกิดขึ้นในประเทศไทยนะ ตอนนั้นเราก็ได้คุยกับจ๊ะ คุยกันว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อช่วยคนที่เป็นโควิด จ๊ะก็บอกว่าเราจะทำอะไรกันดี แต่ตอนนั้นระลอกที่สามยังไม่ได้มาหนักนะคะ แล้วก็มีเคสหนึ่งส่งเข้ามาหาจ๊ะ เขาก็เลยมาปรึกษาเราว่าทำยังไงกันดี เราก็ช่วยประสานโรงพยาบาลหาเตียงให้ พอเราทำสำเร็จ จ๊ะ ก็นำไปลงว่าเราสามารถประสานช่วยได้สำเร็จแล้วหนึ่งราย แค่นั้นแหละ คนก็ DM เข้ามาหาทั้งเราและจ๊ะเยอะมาก เราก็คิดกันว่าเราจะทำยังไงกันดีให้ทุกอย่างมันไปอยู่ตรงกลางที่ทุกคนจะช่วยกันดูแลได้ แล้วเราก็คุยกันในกรุ๊ปซึ่งจะมีอยู่สี่คน ได๋ จ๊ะ พี่สาวจ๊ะที่เป็นผู้ช่วย และผู้ช่วยได๋ ซึ่งเราก็ตั้งชื่อกลุ่มของเราว่าเราต้องรอด เราก็เลยเอามาตั้งชื่อเพจขึ้นมาว่า เราต้องรอด ด้วยเลยค่ะ ที่มาที่ไปก็แบบนี้ แต่ก่อนที่เราจะเปิดเพจนี้ขึ้นมา ช่วงแรกที่เราทำ เราแค่ต้องการที่จะช่วยประสานหาเตียงให้ผู้ที่ติดโควิดเท่านั้น ยังไม่ได้คิดว่าจะเปิดเพจหรือว่าอะไร แค่จัดการส่งเข้าระบบงานของเราก็สำเร็จ

ถาม แต่ตั้งแต่เปิดเพจมา ตอนแรกมีแอดมินอยู่แค่ 4 คน แต่ตอนนี้คือมีคนมาเสริมทัพอีกเยอะเลย

ได๋ ไดอาน่า : จากตอนแรกที่เราเปิดเพจคือมีสี่คน ช่วยกันตอบ ซึ่งการตอบหลักๆ ในเพจก็คือได๋ ส่วนผู้ช่วยจะช่วยดูหลังบ้านให้ ส่วนจ๊ะ จะคอยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ แต่ว่าตอนสองวันแรกมีเคสเข้ามา 30 เคสเลย ซึ่งมันเยอะมากเลยนะคะ  เราช่วยมาสองวันเต็มๆ แล้ว และวันที่สามเราต้องมาถ่ายรายการ ซึ่งถ่ายรายการ เราก็มาพะวงว่าในช่วงที่เราถ่ายรายการอยู่เราจะทำยังไงกับข้อความใน Inbox ที่เด้งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ เราจะช่วยเขายังไง โชคดีที่ว่าวันนั้น คุณนิหน่าก็ทักมาหาเราบอกว่าติดตามอยู่นะ มีอะไรให้ช่วยบอกนะ เราก็บอกไปเลยทันทีว่ามี ฉันตั้งเธอเป็นแอดมินนะ พี่นิหน่าน่ารักมาก ก็ตอบตกลงเลยว่าได้ เพราะว่าช่วงนั้นเขาว่าง ต้องกักตัวพอดี เพราะว่าไปอยู่ใกล้กับคนที่ติดโควิด ต้องบอกว่านิหน่าน่ารักมาก เราไม่ได้สนิทกันแบบใกล้ชิด แต่เราได้เคยสัมภาษณ์กันบนเวทีคอนเสิร์ตแค่นั้น และหลังจากที่เขาเข้ามาช่วยเราวันนั้น เขาก็ไปหาคนมาเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือเราประมาณ 10 กว่าคน เราก็ได้มีการประชุมแบ่งงานกันเลย ซึ่งก็มีคนที่เข้ามาทำทั้งกราฟิก คนตอบ ช่วยประสาน เราก็อยากทำให้ official มากขึ้น เราก็เลยตั้งเป็น Line@ ขึ้นมาเพราะเหมือนจะได้กรองข้อมูลจาก Inbox แล้วก็มีคนประสานจากหน้างานว่าคนนี้ สถานการณ์เบื้องต้นเป็นยังไง นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีทีมที่ไปทำกราฟฟิกอีก ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เราก็ต้องทำทุกอย่างให้เป็นระบบมากที่สุด แล้วจิ๊กซอว์สุดท้าย เราได้รับการติดต่อจากน้องๆ EMT จุฬาฯ เป็นหน่วยฉุกเฉิน ซึ่งๆ น้องกลุ่มนี้เขาจะมีเครื่องผลิตออกซิเจน แล้วก็สามารถที่จะไปประเมินหน้างานให้เราได้ ว่าสถานการณ์ที่เราเข้าไปเจอ เราต้องโทรหา 1669 หรือยังเพราะว่าเมื่อไหร่ที่เคสยังรอได้ เราก็จะให้ติดต่อ 1330 หรือ 1668 ไปก่อน ซึ่งพอมีทีมนี้เข้ามา เขาสามารถช่วยเราประเมินสถานการณ์ได้มากขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ คนที่ Inbox เข้ามา เราก็จะมีรายละเอียดให้กรอก พร้อมกับแนบบัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ต(ถ้าเป็นคนต่างด้าว) พร้อมกับผลตรวจว่าไปตรวจที่ไหนมา พอเราได้รับข้อมูลแล้วเราก็จะส่งเคสไปที่ LINE Official Account ของเราในนั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานในเรื่องเอกสารให้ว่า ตามสิทธิ์ของเรา คุณต้องไปที่ไหน มีประกันไหม ถ้ามีประกัน เราจะได้ประสานไปที่ดูแลเราโดยตรง หรือว่าหน่วยงานของคุณ แล้วก็จะมีอีกทีมที่จะคอยมอนิเตอร์อาการของเคสต่างๆ ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง เพราะว่าแต่ละคนที่กำลังรอเอกสารอยู่ อาการของเขาจากเขียว อาจจะกลายเป็นเหลือง หรือจากเหลืองอาจจะกลายเป็นแดง เราก็จะมีทีม EMT ที่เคยดูแลประเมินให้ที่หน้างานว่าเป็นยังไงบ้างค่ะ ก็จะให้ยาสามัญประจำบ้านหรือเครื่องวัดออกซิเจนไว้ให้ เมื่อถึงเวลาที่เขาได้รับตัวไป แล้วเราค่อยไปรับของคืน แล้วก็ทำความสะอาดบ้านให้เขา

s__73236633

ถาม ทุกขั้นตอนมีรายละเอียดเยอะมาก แล้วในการทำงานทุกขั้นตอน เราเอาค่าใช้จ่ายจากที่ไหน

ได๋ ไดอาน่า : จ่ายเองค่ะ ช่วงแรกก็จะเป็นจ๊ะกับได๋ค่ะ เพราะเราไม่ได้เปิดรับบริจาค เพราะเราเห็นมาตลอดว่าในการช่วยเหลือแบบนี้ ถ้ามีเงินเข้ามาเยอะๆ มันจะมีดราม่าเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราคิดว่าเราตัดดราม่าออกไปเลยแล้วกัน อะไรที่เราสามารถช่วยได้ เราออกเองได้ เราก็ออกไปกันเองก่อน แล้วพอคนมารู้จักเพจเรามากยิ่งขึ้น ก็จะมีเพื่อนๆ เข้ามาทักว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เราก็จะคิดก่อน อาทิเช่น อาสาสมัครของเรา เขาใช้เงินของตัวเองเช่าห้องพักนอนมาหนึ่งเดือนเต็มๆ ซึ่งเราก็คิดว่าเขามาช่วยเราทำงาน เราก็เลยช่วยหาที่พักให้เขา ตอนแรกเราก็จ่ายเอง แล้วก็มีเพื่อนๆ ยื่นมือมาช่วย มีพี่ๆใ ห้มาพันนึง พอรวมๆ กันมันก็ได้หลายหมื่น ก็ได้มาช่วยซัพพอร์ตในเรื่องของค่ารถ ค่าน้ำมันบ้างค่ะ

ถาม แต่เพจเราต้องรอด ไม่เปิดรับบริจาคเลย

ได๋ ไดอาน่า : ไม่รับเงินบริจาคเลยค่ะ แต่เรารับเป็นสิ่งของ ซึ่งเราก็จะเปิดประกาศบอกเป็นระยะๆ ว่าตอนนี้ PPE ไซส์ L หมดนะคะ ส่วนคุณนิหน่าก็จะมีสถานที่ให้เราได้เก็บของที่ได้รับบริจาคมา ไม่ว่านำของอะไรออกไปใช้ ก็ต้องมีการเซ็นเบิกออกไปว่านำไปใช้อะไรที่ไหนอย่างไร ซึ่งนอกจากคุณนิหน่าที่ทำร่วมกับเราแล้วก็ยังมีคุณอาร์ต พศุตม์ ด้วย เนื่องจากอาสาสมัครของเราที่ทำงาน มีหลายเขต หลายที่มากๆ บางทีคนที่ขอความช่วยเหลือมา เราก็จะกระจายของแบ่งไปให้กับเหล่าอาสาสมัครที่อยู่ในเขตนั้นๆ

ถาม ที่ทำมา เราเห็นปัญหาอะไรอย่างไรบ้าง เราสามารถพูดได้เพื่อที่จะบอกไปถึงทุกคนให้ช่วยกันทำ

ได๋ ไดอาน่า : จริงๆ ต้องขออนุญาตนำเรียนแบบนี้นะคะ ช่วงแรกที่เข้ามาทำตรงนี้ เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย มีแค่ใจอย่างเดียวว่าอยากที่จะช่วยคน แต่พอเราเข้ามาทำตรงนี้แล้ว ทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีระบบของมัน แล้วก็อยากจะให้ข้อหนึ่งเลย ประชาชนทุกคนอาจจะต้องใจเย็นๆ แล้วศึกษาว่าระบบมันคืออะไร เพื่อที่ว่าตัวของเราเองจะได้เข้าถึงการรักษาให้ได้อย่างเร็วที่สุด โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ต้องบอกว่า ณ เวลาที่ฉุกเฉิน เวลาที่ใครพูดอะไรเราจะได้ ได้ ได้ไปหมด แต่อยากจะบอกว่าเราต้องตั้งสติ แล้วก็เช็กว่าสิทธิ์ของตัวเอง สิทธิ์ของคนในครอบครัวอยู่ตรงไหน เป็นข้าราชการหรือไม่ มีประกันสังคมหรือเปล่า ประกันสังคมของเรา โรงพยาบาลที่เราใช้สิทธิ์อยู่ที่ไหน คือเราต้องเช็กของตัวเอง เพราะว่าจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าทำการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับโควิด เพราะฉะนั้นพอมาทำตรงนี้ ทำให้เข้าใจว่าทุกคนเหนื่อยหมดและกดดันทุกฝ่าย เหมือนกับว่าเราทุกคนต้องใจเย็นๆ แล้วก้ต้องเข้าใจกับสถานการณ์ว่า บุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานราชการก็ทำงานกันเหนื่อยมาก ช่วยกันทำยังไงก็ได้ให้มันพ้นตรงนี้ไปได้

ถาม แล้วถ้ามีเคสที่เขายากจน แล้วไม่มีรถไปโรงพยาบาล มีรถพยาบาลไปรับเขาไหม

ได๋ ไดอาน่า : ปกติแล้วถ้าเข้าระบบแล้วจะต้องรอรถ ทุกอย่างจะฟรีหมด แต่ในตอนแรกที่เราไปช่วย เรายังไม่รู้ระบบ เราก็ออกค่าใช้จ่ายเอง หารถเพื่อที่จะไปส่งเขา แต่พอไปรับแล้วก็ต้องไปส่งเขากลับบ้านอยู่ดี เพราะว่าระบบยังไม่ได้รับตัวของผู้ป่วย เมื่อเรารู้แล้วระบบเขาเป็นยังไง ต้องประสานก่อนระบบพร้อมรับ เราถึงส่งตัวไปได้ แต่ก็มีบางวันที่เคสเยอะมาก รถก็จะไม่พอ แต่ล่าสุดที่เรามีรถพยาบาลของเราเอง เกิดจากว่ารถของทีมอาสา ลุยน้ำทำงาน จนรถพัง ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารถที่รับเคสผู้ป่วย ต้องมีความปลอดภัย ต้องมีการแยกช่องแอร์ที่ถูกต้อง เพื่อที่สามารถมั่นใจว่าคนที่รับผู้ป่วยและผู้ป่วย ใช้ช่องแอร์คนละช่องกัน แล้วรถก็ต้องผ่านการตรวจสอบจากศปฉ. ด้วย ทุกอย่างถูกต้องตามระบบ ถึงจะสามารถวิ่งรับส่งผู้ป่วยได้ ซึ่งรถคันนี้ที่ได้มา ตอนแรกน้องๆ อาสาเขาก็จะรวบรวมเงินเก็บเพื่อที่จะนำมาซื้อรถ เราบอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ช่วย ซึ่งรถที่เราซื้อคือเป็นรถฉุกเฉินมาก่อน ซึ่งเงินที่ได้มา มาจากเราส่วนหนึ่งและเพื่อนๆ มาช่วย ก็หลายแสนอยู่ เราก็ได้รถมาคันหนึ่ง

ถาม ตั้งแต่ที่ทำมา เคสเยอะที่สุดกี่เคส

ได๋ ไดอาน่า : 300 ค่ะ เพราะมาจากแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งเราก็โชคดีที่มีหลายหน่วยงานติดต่อเข้ามาว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็แจ้งเขามาได้เลย เราโชคดีมากที่การทำงานนี้ เราได้รับความช่วยเหลือจากทุกคนทุกฝ่าย

ถาม รับหน้าที่ช่วยเหลือสังคมเยอะมาก ขนาดเวลานอนยังนอนไม่หลับ เพราะว่าห่วงแล้วก็กังวล

ได๋ ไดอาน่า : นอนไม่หลับเลย ยิ่งช่วงแรกๆ เพราะว่าเราเป็นคนประสานเองติดต่อเอง คนนี้ เขตนี้ต้องการความช่วยเหลืออยู่ ซึ่งเราก็ต้องประสานให้เขาว่าถ้าติดต่อจบในเขตที่เราประสาน ก็จบ แต่บางเคสไม่จบ เราก็ต้องหาที่ให้เขา ซึ่งแต่ละเคส มีรายละเอียดเยอะมาก แล้วพอเราเอาใจของเราไปผูกกับทุกคน เราไม่สามารถที่จะทิ้งใครได้เลย

s__73376128

ถาม เห็นบอกว่ามีบางเคสที่ทำ ร้องไห้เลย

ได๋ ไดอาน่า : ช่วงแรกๆ ที่ทำ ร้องไห้ทุกวัน เพราะว่าเมื่อเราทำสำเร็จ ทุกคนเขาก็จะโทรมาขอบคุณเราสำหรับการช่วยเหลือ ที่เราร้องไห้เพราะว่าเรารู้สึกว่าคำนั้น คือรางวัลของเรา เพราะเราคิดว่าเราเกิดมาชาตินี้ เราไม่เสียชาติเกิดแล้ว เราได้ช่วยชีวิตคน และอีกอย่างที่เราร้องไห้ เพราะว่าทำไมโชคชะตาของแต่ละคนต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย อย่างบางคนตกงานไม่พอ เขายังต้องมาติดโควิดอีก มีเคสหนึ่งที่น่าเห็นใจมาก คุณแม่คนหนึ่งเขาเป็นนักร้องกลางคืน แล้วเขาก็ไม่มีงานทำ เงินเหลืออยู่ติดกระเป๋าหลักร้อย เราก็เลยส่งทีมไปดู แล้วทีมก็บอกว่าที่บ้านเขาเหลือน้ำอยู่คขวดเดียว แล้วลูกเขาก็มีคอนเฟลกอยู่ 1 กล่อง แบ่งกินวันสองสามอัน แต่เขาเข้มแข็งมาก เขาดูแลแม่เขาดีมาก ทางเราก็ยื่นมือช่วยเหลือเขาเต็มที่ อีกเคสน้องอายุสี่กับหกขวบ คุณพ่อเขาติดโควิดต้องไปรักษาตัว แต่สองทั้งสองคนต้องดูแลกันเอง ส่วนอีกเคสหนึ่ง คุณป้าอายุ 60 ซึ่งอายุเท่าๆ แม่เรา เขาก็โทรมาหาเราบอกว่าฉันหายใจไม่ออก ทำยังไงดี เราก็ตั้งสติ แล้วคุยกับคุณป้าว่าให้หายใจเข้า ออกช้าๆ ลึกๆ แล้วก็ให้ท่านเดินไปจิบน้ำอุ่นๆ ซึ่งพอท่านบอกว่าดีขึ้น เราก็เลยสอบถามท่านว่าอยู่คนเดียวเหรอ ท่านก็บอกว่าจริงๆ มีลูก แต่ตอนนี้ลูกๆ โตกันหมดแล้ว แล้วตัวท่านเองก็ติดโควิดด้วย เขาก็ยิ่งไม่สนใจ พอเราได้ยิน เราถึงกับสะอึกเลย เราก็คิดว่าโน ไม่ควรทิ้งคนอายุมากไว้คนเดียว แต่อย่างที่บอกค่ะ ทุกเคสมีรายละเอียดหมด อย่างมีเคสที่คุณอั้ม พัชราภา ส่งมา บอกว่าให้เราช่วยหน่อย เราก็ไปรับแล้วพาไปตรวจคือ คุณยายป่วยติดเตียง แล้วก็มีหลาน ซึ่งเราก็พาคุณยายไปรักษาแล้วพอหายก็กลับมาบ้าน แต่สุดท้ายคุณยายก็เสียชีวิต ความรู้สึกของเราที่พอรู้ว่าเขาไป เราก็หดหู่ แต่พอเราเจอเคสเยอะๆเราก็เหมือนกับปาดน้ำตา แล้วก็ต้องดูแลเคสต่อไปต่อ ซึ่งการที่เราทำตรงนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าปลงได้ง่ายขึ้น แต่อย่างหนึ่งที่ปลงไม่ได้คือความเหลื่อมล้ำของสัมคมบ้านเรา อันนี้รับไม่ได้จริงๆ มีคนไทยบางคนที่ตกสำรวจไปเลย ไม่มีสิทธิ์ที่จะตรวจโควิด แต่เรายังดีที่เรามีสปสช. คอยแนะนำ และอีกอย่างที่อยากจะฝากไว้เลย ถ้าใครที่คุณจ้างเขามาทำงาน เขาเป็นชาวต่างด้าว เป็นอะไรก็แล้วแต่ เอาเขาเข้าระบบ เพราะเวลามีปัญหาขึ้นมา คุณจะปัดความรับผิดชอบให้คนอื่นไม่ได้ เอาเข้าระบบให้ถูกต้อง

ถาม ในอนาคต เราต้องรอด จะเดินไปกันต่อยังไง เราได้คุยกับทีมไหม

ได๋ ไดอาน่า : ทุกครั้งที่เคสเบาลง เราก็จะพูดกันทุกครั้งเลยว่าเดี๋ยวปิดเพจแล้วเนอะ แต่เราก็ไม่เคยได้ปิด เพราะคุยกันไว้ว่าเราจะหยุดทำงานตรงนี้ เมื่อคนหยุด INBOX เข้ามา แต่ถ้ายังมีคนส่งเข้ามา เราก็ยังหยุดไม่ได้ แต่ต้องบอกก่อนว่าที่มารายการวันนี้ ก็มีรายการอื่นๆ ติดต่อเข้ามามาก ต้องขอโทษด้วยกับทุกรายการที่ผ่านมา ปฏิเสธที่จะออกทุกรายการเลย เพราะว่าก่อนหน้านี้มันยุ่งมาก เพราะเราทำเองหมดเลย แต่ช่วงนี้คือทุกอย่างเข้าระบบแล้ว เราก็เลยได้มีโอกาสมาพูด ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาช่วยทำให้งานของเราสำเร็จ จริงๆ มันไม่ใช่งานของเพจ เราต้องรอด ค่ะ แต่เป็นโปรเจกต์ที่เราทุกคนเข้ามาช่วยกันทำตรงนี้ ทุกหน่วยงานช่วยกันทั้งภาครัฐและเอกชน ขอบพระคุณทีมงานทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ขอบคุณ จ๊ะ นิหน่า พี่นพ ที่ส่งทีมมาช่วย และอีกสิ่งหนึ่งคือ คำขอบคุณจากทุกคนที่มอบให้เราเพราะมันเหมือนเป็นสิ่งที่สะท้อนการทำงานของเราจริงๆ ซึ่งเราคือส่วนหนึ่งที่เล็กมากๆ ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำกันอย่างหนักมากที่สุด และขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนด้วย หากมีอะไรที่พวกเราเพจจิตอาสาเล็กนี้เราสามารถช่วยได้เราพร้อมและเต็มใจเสมอ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส