รวบ “บังฟิตตาบอด” คว้าเหล็กแทงหนุ่มทะลุปอดสาหัส ฉุนถูกมองหน้า แม่ลั่นตัดขาดปล่อยให้ติดคุก (คลิป)

4 ก.ค. 64

จากกรณีน.ส.กุลสตรี ธรรมสวัสดิ์ อายุ 25 ปี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ว่าถูกกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาที่หน้าบ้าน และเข้ามารุมทำร้าย นายกำธรศักดิ์ เชือนเชื้อ หรือ จุ๊บ อายุ 23 ปี สามี จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดจ้วงแทงเข้าหน้าอกด้านซ้ายจนปอดทะลุเจ็บสาหัส ก่อนนำตัวเข้ารักษาที่รพ.ศรีระยอง

671990

ส่วนปมเหตุเพียงแค่คนเจ็บขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเติมเงินโทรศัพท์ และพบกลุ่มคนร้ายที่เป็นวัยรุ่นมองหน้าและเกิดการเขม่นกัน เพราะกลุ่มวัยรุ่นเบิ้ลท่อรถเสียงดัง กลุ่มคนร้ายจึงขี่รถตามมาทำร้ายถึงหน้าบ้าน แล้วหลบหนีไป

ล่าสุดวันที่ 4 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ส่วนผู้บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่สามารถเยี่ยมได้ เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19

860909

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจีรภัทร์ พละอนันต์ อายุ 19 ปี น้องสาวผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า นายกำธรศักดิ์ เป็นทหารเกณฑ์ กองทัพเรือสัตหีบ ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายชูเกียรติ หรือ บังฟิต ปกติพี่ชายเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่นิสัยดีไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 2 ก.ค.64 พี่ชาย แฟนพี่ และหลายชาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันออกไปเติมเงินโทรศัพท์ ช่วงขากลับบ้าน พี่ชายก็ได้หยอกล้อเล่นกับหลายชาย ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นจังหวะที่ขี่รถสวนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุคิดว่าพี่ชายทำท่าทางกวนใส่ พี่ชายจึงหันไปมองเกิดการเขม่นกัน จนฝั่งผู้ก่อเหตุได้ตะโกนให้กล้วยพี่ชาย

cg--2

แต่ในขณะนั้นแฟนของพี่ชายเห็นว่า มีหลานไปด้วย จึงบอกให้พี่ชาย รีบขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เนื่องจากเกรงว่าอาจจะได้รับอันตราย เมื่อมาถึงบ้านพี่ชายและหลานก็ได้นั่งเล่นกันอยู่ที่บริเวณใต้ต้นไม้หน้าบ้าน เวลาผ่านไปไม่ถึง 15 นาที ผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน จำนวน 2 คัน 4 คน และพุ่งตรงมารุมทำร้ายพี่ชายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่บังฟิตจะใช้มือซ้ายล็อกคอ และใช้มีดที่พกมาด้วยยาวประมาณ 10 ซม. จ้วงแทงบริเวณหน้าอกข้างซ้ายของของพี่ชาย จนมีดทะลุปอด ก่อนขี่รถหลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป เนื่องจากพี่ชายของตน ไม่เคยรู้จักหรือเคยมีปัญหากับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพียงเพราะหันไปมองหน้าของคู่กรณี เบื้องต้นขณะนี้ยังคงต้องฝึกหายใจ แต่อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้ในฐานะน้องสาว ตนก็อยากจะวิงวอนขอให้ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เนื่องจากขณะนี้ บังฟิต ยอมรับโทษเพียงคนเดียว โดยไม่ซัดทอดเพื่อนที่มาร่วมก่อเหตุด้วย ในส่วนนี้ตนก็อยากให้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 4 คน เนื่องจากมองว่าเป็นภัยของสังคม และเกรงว่าผู้ที่ไม่โดนจับจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ นอกจากนี้ ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการขั้นสูงสุด

460559

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางฟาติมะ หรือมะ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี กล่าวว่า ตนยอมรับว่าตนเป็นแม่ของบังฟิตจริง แต่ตนกับบังฟิต ตัดขาดการเป็นแม่ลูกกันนานแล้ว เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมของลูกชาย เพราะลูกชายเป็นคนใจร้าย ชอบสร้างปัญหาทำให้ตนน้อยร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดตั้งแต่เล็กจนโต

958446

โดยบังฟิตอายุได้เพียง 17 ปี ก็ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาจนถึงปัจจุบัน เคยติดคุกคดีพรากผู้เยาว์ รวมไปถึงคดียาเสพติดมาแล้ว 3-4 ครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนก็คงไม่ขอโทษทางครอบครัวผู้บาดเจ็บ เนื่องจากตนกับบังฟิตไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตนยืนยันว่าจะไม่ขอยื่นมือช่วยเหลือหรือประกันตัวใด ๆ ทั้งสิ้น

ส่วนตัวตนมองว่า เรื่องทั้งหมดคงเป็นเรื่องของเวรกรรม ที่ลูกชายได้ทำไว้กับตน เนื่องจากเมื่อ 3-4 ปี ก่อนที่บังฟิตประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำจนตาซ้ายบอด ตนก็เป็นคนแช่ง ตนจึงขอปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับลูกคนนี้อีกต่อไป เพราะตอนนี้มองเป็นเพียง "ก้อนเนื้อ ก้อนหนึ่งเท่านั้น"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส