ณวัฒน์ เผยเสียความรู้สึก "ตุ๊กกี้-บุ๊กโกะ" ส่วน "แทค" ไม่เจอนาน 20 วัน ถือว่าพิสูจน์นิสัยคน จะได้ระวังตัวมากขึ้น

5 ก.ค. 64

หลังจากที่พิธีกรชื่อดัง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ออกมาประกาศว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 และกำลังเข้ารับการรักษาตัวนั้น ก็มีดราม่าที่โยงมาว่าเจ้าตัวคือพิธีกรชื่อดังที่เพื่อนติดโควิด แต่ไม่ยกเลิกอัดรายการ 

แทค ภรัณยู แท็กทีม ตุ๊กกี้-บุ๊กโกะ ทุบสนั่นคนไร้จิตสำนึก ใครกันทำเดือดร้อนทั้งวงการ

- ณวัฒน์ ชี้แจงจากรพ. ยันงานสุดท้ายที่เจอน้อง 3 คน ยังไม่รู้ว่าติดโควิด ฟาดกลับ "ไม่ชอบคนหน้าไหว้หลังหลอก"

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มีโอกาสพูดคุยผ่านวิดีโอคอลกับ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปิยะเวท โดยเจ้าตัวได้อัปเดตอาการให้เราฟังว่า ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ อาการไข้ก็มีการฉีดยาให้ไข้ลด เนื่องจากไข้ขึ้นสูงแตะ 39 องศาตลอด จนปัจจุบันเหลือ 37 องศา โดยช่วงแรกมีอาการปวดหัวหนักจนลามมาถึงโหนกแก้ม มีอาการขนลุก สั่นเหมือนคนเป็นไข้จับสั่น และไม่อยากรับประทานอาหาร แต่ตอนนี้เริ่มอยากอาหารมากขึ้นแล้ว โดยการรักษาจะมีคุณหมอโทรเช็คอาการตลอด

ส่วนเรื่องดราม่าที่โดนพาดพิงว่าเป็นพิธีกรที่ปกปิดไทม์ไลน์นั้น ณวัฒน์ เผยว่า ตนเองไม่เคยปกปิดไทม์ไลน์ ไม่เคยแก้ และเป็นไทม์ไลน์เดิม แต่สิ่งที่อยากอธิบายคือ ทันทีที่ “โก๊ะตี๋” ประกาศอย่างเป็นทางการว่าติดโควิดในช่วงเที่ยง ตนกำลังทำงานสุดท้ายอยู่ที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ซึ่งตนเข้าไปตั้งแต่ช่วง 11.00 น. ในขณะนั้นตนยังไม่ทราบว่า “โก๊ะตี๋” ประกาศว่าติดโควิด แต่เพิ่งทราบข่าวหลังจากออกมาขึ้นรถ เพราะมีคนโทรมาแจ้งข่าวกับตน ซึ่งตอนนั้นตนก็ยกเลิกงานทันที เพราะหลังจากนั้นตนมีงานซึ่งเป็นการถ่ายรายการสดต่อ ในเวลาประมาณ 14.20 น. โดยตนมีหลักฐานที่ให้ผู้ช่วยโทรไปยกเลิกด้วย หลังจากนั้นตนก็กักตัวทันที

พอวันรุ่งขึ้น อาการของตนไม่ดี ทั้งๆ ที่ได้ไปตรวจ Swab มาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. และผลตรวจออกมาในวันที่ 29 มิ.ย. ว่าตนไม่ติดเชื้อโควิด ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นไข้หวัด ก็เลยไปให้วิตามินทางเส้นเลือด แต่วันต่อมา (1 ก.ค.) ก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะรู้สึกตัวร้อนขึ้น จึงเดินทางไปตรวจซ้ำอีกครั้งที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ถึงได้รู้ว่าติดเชื้อโควิด ยืนยันว่าไม่ได้มีการปกปิดไทม์ไลน์ใดๆ ทั้งสิ้น

แต่กลับมีบางคนเขียนข่าวทำร้ายความรู้สึกตนหาว่าตนไปพบผู้เสี่ยงมาแล้วไม่บอก จึงทำให้คนในวงการติดกันเยอะ ตนก็อยากขอชี้แจงว่า ตนจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเสี่ยงบ้าง เพราะคนเสี่ยงก็ไม่ได้บอกตน แล้วตนก็ยืนยันว่าตนติดมาจากกองรายการหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้ไปตำหนิใครในเมื่อมันติดไปแล้ว เราก็ไม่อยากลงลึกไปอีกว่ามันมาจากไหน แต่เมื่อเราทราบว่าติดมาจากไหนเราก็ทำไทม์ไลน์แจ้งกับทุกคนเพื่อความปลอดภัย แต่อาจจะมีบางคนได้รับผลกระทบจากการทำงานจึงมาเหวี่ยงใส่ตน

ส่วนเรื่องที่มีคนในวงการอย่าง “แทค ภรัณยู”, “ตุ๊กกี้”, “บุ๊คโกะ” ออกมาโพสต์ถึงพิธีกรบางคนที่ไม่ยอมทำตามกฎ ไม่ใส่แมสก์ ไม่กักตัวนั้น ทางด้านพี่ณวัฒน์ เผยว่า ถ้าหากหมายถึงตน อย่างไรก็แล้วแต่ตนอยากจะบอกว่าการทำงานของพิธีกร นักข่าว ในช่วงพักเบรคก็อาจจะต้องมีการปลดแมสก์เพื่อสูดอากาศเพิ่มขึ้น เพราะเราต้องใช้พลัง ซึ่งด้วยความที่ตนเป็นคนติดตลก ยังพูดว่า “ปลดแมสก์มากไม่ได้ เดี๋ยวดราม่า” 

ในวันที่ 30 มิ.ย. ตนเองอยู่กับ “ตุ๊กกี้” และ “ตั๊ก ศิริพร” และที่สำคัญ ตนมั่นใจว่าตนไม่ได้มีเชื้อโควิด เนื่องจากว่าตนต้อง Swab ตามกฎของสถานีที่ตุ๊กกี้ทำงาน ซึ่งผลออกมาวันที่ 29 มิ.ย. ว่าตนไม่ได้มีเชื้อโควิด

และคิดว่าการปลดแมสก์ลงมาบางช่วงเพื่อทำให้มีอากาศหายใจก็ไม่ได้ผิดปกตินัก การที่ตนมีผลตรวจว่าไม่ติดเชื้อจึงทำให้มั่นใจว่าไม่ได้แพร่เชื้อให้ใครแน่นอน

ตนยอมรับว่าในวันที่ 30 มิ.ย. ตนเจอตุ๊กกี้ ช่วง 11.00 น. แล้วพูดว่า “เดี๋ยวคอยดูจะต้องมีดาราเป็นโควิดอีกคนแน่เลย เพราะมีอาการ แต่ต้องรอเขาประกาศ” ซึ่งตนไม่ได้บอกชื่อไปว่าใคร แต่เห็นว่าตนกับตุ๊กกี้มีความสนิทสนมกันแล้วเขาอยากรู้ ตนจึงเปิดรูปในโทรศัพท์ให้ดูเฉยๆ และไม่ได้พูดอะไรต่อ

เช่นเดียวกับที่ตนได้เจอกับ “บุ๊คโกะ” ในวันที่ 29 มิ.ย. ที่รายการหนึ่ง ตนก็เพิ่งได้รับผลว่า ตนไม่มีเชื้อโควิด จึงไม่มีแพร่เชื้อให้ใครอยู่แล้ว แต่ตนได้พูดทิ้งท้าย เพราะเห็นว่ารายการเขาเป็นรายการบันเทิงแล้วเราก็สนิทกัน ตนก็พูดไปว่า “เดี๋ยวจะมีดาราเป็นโควิดอีกแน่ๆเลย” แต่ตนก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร

ซึ่งทั้งหมดนั้นมีความรู้สึกว่า “โก๊ะตี๋” น่าจะติดโควิด แต่ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาเป็นทางการจากเจ้าตัว ขอบอกเลยว่าตนรู้อย่างเป็นทางการพร้อมๆ กับทุกคน

ณวัฒน์เปิดเผยต่อว่า ตนเองได้ทำโครงการ มิสแกรนด์เป็นโควิดต้องมีที่รักษา ตนจึงได้เข้ารับการอบรมจากโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการของคนที่จะเป็นโควิด ตนได้ตรวจสอบกับ “โก๊ะตี๋” อย่างละเอียด และคิดว่าเขาน่าจะเป็น แต่ตนจะทำอะไรได้ ถ้าแพทย์และเขายังไม่ได้ลงมติร่วมกันว่าเป็นแล้วประกาศรายละเอียด

ซึ่งตอนนี้ ณวัฒน์ บอกว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับใครทั้งสิ้น แต่ตนเสียความรู้สึกกับทั้ง บุ๊คโกะ, ตุ๊กกี้ ที่ตนสื่อสารออกไปด้วยความเอ็นดูและใกล้ชิด ส่วน แทค ภรัณยู นั้นตนไม่ได้เจอมา 20 วันแล้ว ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์นิสัยคน ตนจะได้ระวังตัวมากขึ้นสำหรับการอยู่ในวงการบันเทิง 

โก๊ะตี๋เป็นโควิด ผมจะไม่ไปทำงานแล้วทั้งที่เขายังไม่ได้พูด ผมทำได้ไหม ผมทำไม่ได้ ผมยังไม่ได้หลังไมค์กับใครใดๆ ทั้งสิ้นแต่ผมเสียความรู้สึก ทั้งบุ๊กโกะที่ผมสื่อสารเพียงแค่นี้ และตุ๊กกี้ที่ผมสื่อสารด้วยเพราะเอ็นดูและใกล้ชิดแต่พวกนี้ไม่เคยคิดว่า ความเหมาะสมจริงๆ แล้วในการจะโวยวายมันอยู่ที่ตรงไหน ส่วนแทค ผมไม่ได้เจอน้องเลย ไม่ต่ำกว่า 20 วัน และผมก็รู้จักน้องเขามานาน แต่ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์นิสัยคน ผมจะได้ระวังตัวมากขึ้นเวลาทำงานในวงการบันเทิง คือรักน้องทุกๆ คนที่คุยกันแล้วรู้เรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่าต่อหน้าคุยรู้เรื่อง แต่ลับหลัง... ผมขอบคุณวิกฤต ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้รู้จักคนมากขึ้น ที่จะเลือกคบคนจากนี้เป็นต้นไป”

และฝากบอกทุกคนด้วยว่า ให้ความยุติธรรมกับคนด้วย ถ้าสักวันหนึ่งผมไปได้ข่าวว่า เหมือนคุณน่าจะเป็น แล้วผมไปบอกกับคนอื่นว่า ผมขอกักตัวเลยนะ เพราะผมรู้สึกว่าคุณอาจจะเป็น ผมทำได้ไหม สิ่งที่ผมพูดกับคุณไปทั้งหมด มันยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มมาจากปากของคนไข้ ต่อให้ผมรู้สึกว่าเขาเป็นแน่ๆ แต่สุดท้ายเขาไม่ได้เป็นล่ะ เพราะน้องเขาเริ่มจากเป็นไข้ เข้าไปรักษาไข้ ตอนนี้ก็ลำบากกันหมดแล้วทุกคน ทำไมคุณไม่มีเหลือความเมตตาของความเป็นคนสาธารณะกันเลย อย่าพูดจาอะไรที่เห็นแก่ตัวเกินไป เสียแรงที่รู้สึกเมตตาน้องๆ ถ้าจะไม่ทำงานกับพี่ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่นะ นับจากนี้เป็นต้นไป แต่สำหรับพี่ทำงานได้กับทุกคนครับ”

5711

210750258_2882790668643027_48_1

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม