จากกรณี น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ นักธุรกิจ อายุ 41 ปี ขับรถกระบะลอดอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านในเขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยรถจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากขณะนั้นมีน้ำท่วมสูงภายในอุโมงค์ (อ่าน :
เผยนาทีสลด สาวใหญ่ขับรถลุยน้ำท่วมอุโมงค์ ก่อนจมมิดโทรหาญาติ “หนีไม่ทัน”)
วันที่ 7 ก.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่วัดกระทุ่มเสือปลา เขตประเวศ เป็นที่ตั้งสวดอภิธรรมศพของ น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ โดยญาติขอจัดงานอย่างเป็นส่วนตัว
นางไพลิน เพื่อนของผู้ตาย เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่มีใครเตรียมใจได้ทัน ส่วนเรื่องคดีความนั้น ครอบครัวยังไม่มีการดำเนินการ อยากให้งานศพผ่านไปลุล่วงด้วยดีก่อน
นายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ สื่อมวลชนด้านรถยนต์ แนะนำว่า ระดับน้ำระยะปลอดภัยที่รถยนต์สามารถลุยน้ำฝ่าไปได้ โดยที่เครื่องยนต์ไม่ดับ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จะอยู่ที่ประมาณครึ่งล้อรถ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะอยู่ที่ประมาณมิดล้อรถ โดยกรณีที่เครื่องยนต์จะดับมีอยู่ 2 อย่างคือน้ำเข้าไส้กรองอากาศ และน้ำเข้าระบบจุดระเบิด ซึ่งหากเป็นคนที่รู้วิธีการ ก็จะสามารถขับฝ่าระดับน้ำที่สูงกว่านี้ไปได้ โดยที่เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่
ทั้งนี้ ในกรณีที่ขับรถลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ หากระบบไฟฟ้าช็อตจะทำให้กระจกไฟฟ้า และเซ็นทรัลล็อก หรือระบบล็อกพร้อมกันทุกประตูอัตโนมัติไม่ทำงาน แต่ระบบล็อกปกติที่มีอยู่ที่ประตูทุกบาน ยังทำงานได้ และยังสามารถเปิดปิดประตูได้ เพียงแต่ขณะที่ระดับน้ำภายนอกรถสูงกว่าภายในรถ จะมีแรงดันน้ำต้านไม่ให้เปิดประตูออกได้ วิธีเอาตัวรอดจึงต้องรอน้ำเข้ามาในรถจนระดับน้ำเกือบเท่ากัน หรือหากน้ำท่วมมิดคันก็ต้องรอให้น้ำเข้ามาเต็มคันรถ เพื่อให้ไม่มีแรงต้านในการเปิดประตู ซึ่งโดยปกติน้ำจะเข้ามาเต็มรถภายใน 3-5 นาที จากนั้นให้กลั้นหายใจ แล้วใช้มือปลดล็อก และเปิดประตูตามปกติ จากนั้นก็ว่ายน้ำออกมาจากตัวรถ
โดยในกรณีที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่สามารถรอให้น้ำเข้ามาในรถจนเต็มได้ ก็จะมีอีกวิธีหนึ่ง คือ งัดกระจกข้างรถให้แตก เพื่อให้สร้างทางออกให้กับตนเอง โดยหากมีไขควงภายในรถก็ให้ใช้ไขควงงัด หากไม่มีไขควงให้ถอดเบาะพิงศีรษะในรถออกจากตัวเบาะ แล้วใช้บริเวณส้อมที่เป็นโลหะงัดกระจกให้แตกออก
อย่างไรก็ตาม รถบางรุ่นจะไม่สามารถถอดเบาะพิงศีรษะออกได้ ทางที่ดีจึงควรพกไขควงหรือค้อนทุบกระจกไว้ในรถ เพื่อป้องกันในกรณีที่อาจมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น นอกจากนี้ ในกรณีที่จะขับรถลุยน้ำ ควรเปิดกระจกไว้ และปิดแอร์ เพื่อให้เครื่องยนต์มีแรงในการขับลุยน้ำได้ดีขึ้น และเป็นการเปิดให้มีทางออกฉุกเฉิน กรณีที่เครื่องยนต์ดับในระหว่างทาง
นอกจากนี้
นายวินิจจัย ได้สาธิตวิธีการงัดกระจกให้แตก โดยใช้ไขควงและเบาะพิงศีรษะ โดยวิธีการงัดด้วยไขควง ให้ใช้ไขควงเสียบไปที่ร่องระหว่างกระจกข้างรถกับประตู ใช้มือข้างหนึ่งจับไขควง และใช้มืออีกข้างกระแทกให้ไขควงทิ่มลงไปประมาณครึ่งด้าม จากนั้นก็ใช้มือดึงด้ามไขควงเข้าหาตัว กระจกทั้งบานจะแตกออก
ทั้งนี้ กรณีที่ไม่มีไขควง ให้ถอดเบาะพิงศีรษะในรถออกจากตัวเบาะ โดยอาจจะเอนเบาะลงก่อนเพื่อให้ถอดออกง่ายขึ้น จากนั้นกดที่ปุ่มปรับระดับแล้วดึงเบาะออกจนสุด เมื่อเบาะหลุดออกมาจะเห็นปลายทั้งสองข้างมีลักษณะเป็นส้อมโลหะ ให้ใช้บริเวณส้อมทั้งสองข้างเสียบทิ่มลงไปที่ร่องระหว่างกระจกข้างรถกับประตูจนถึงครึ่งด้าม แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับส่วนเบาะ ดึงเข้าหาตัว กระจกก็จะแตกออกเช่นเดียวกัน แต่อาจจะต้องออกแรงมากกว่าการใช้ไขควง