วันที่ 7 ก.ย. 61 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลู รับแจ้งมีหญิงสาวเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งภายในซอยเทอดไท 23 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ พบที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น สภาพศพนอนเสียชีวิต มีผ้าห่มคลุมร่างกายไว้ โดยผู้ตายไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ที่บริเวณใบหน้ามีรอยช้ำ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เมย์ อายุ 18 ปี นั้น โดยครอบครัวตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฆาตกรรม
ที่ สน.ตลาดพลู ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สอบปากคำนายพีท นายมาร์ค นายเอิร์ท และนายแป๊ก ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ระหว่างนั้นพ่อแม่ของผู้ตายเดินทางมาที่ สน.ตลาดพลู เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายพันธ์ปิติ เจริญลาภ อายุ 19 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ที่มาให้ปากคำ ขณะที่กำลังรอให้ปากคำอยู่ด้านล่าง เจ้าตัวสีหน้าที่เหมือนกับพยายามจะกลั้นน้ำตาอยู่ตลอดเวลา โดยเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) เวลาประมาณ 22.00 น. ตนไปรับน้องเมย์จากร้านสเต็กที่น้องเมย์ทำงานอยู่พามาส่งบ้าน จากนั้นก็บอกให้น้องเมย์ไปอาบน้ำเดี๋ยวจะพาไปทำรายงาน ระหว่างนั้นตนก็ไปทำธุระของตัวเอง เมื่อตนกลับมาจากทำธุระ น้องเมย์ก็บอกว่าเหนื่อยและอยากนอนพัก ตนจึงกอดลาและออกไปทำรายงานคนเดียว จนกระทั่งกลับมาอีกครั้งในเวลาประมาณ 6.00 น. จะปลุกน้องเมย์ไปเรียนก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยสภาพร่างมีใบหน้าช้ำคล้ายถูกชก และไม่มีร่องรอยคนร้ายทิ้งไว้ ตอนนั้นตนรู้สึกช็อกมาก
ยอมรับว่าไม่มีผิดสังเกต เพราะน้องเมย์เรียนด้วยและทำงานไปด้วย นอกจากนี้ยังขายของเป็นอาชีพเสริม จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกเหนื่อย นอกจากนี้น้องเมย์ก็ทำงานหนักจนไม่มีเวลาจะไปยุ่งเกี่ยวกับใคร และไม่เคยมีปัญหากับใคร สำหรับกรณีที่มีการเรียกสอบปากคำในวันนี้ นายพันธ์ปิติ กล่าวว่า ตนยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ แต่ส่วนตัวยอมรับว่ากังวลว่าจะจับคนร้ายไม่ได้ และยอมรับว่ายังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้ตนจะตั้งใจเรียนอย่างที่น้องเมย์เคยบอกไว้ และจะทำหลาย ๆ สิ่งที่น้องเมย์เคยอยากทำ
โดย
นายทวียศ รัตนอุทัยวงศ์ พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า วินาทีที่พบศพลูกสาว ตนรู้สึกช็อก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับลูกของตัวเอง สภาพศพมีรอยช้ำที่ใบหน้า ซึ่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เจอหน้าลูกสาวพบว่าใบหน้าไม่มีรอยช้ำหรือบาดแผลใด ๆ กระทั่งพบว่าเป็นศพในเช้าวันนี้ จึงมั่นใจว่าเป็นการฆาตกรรม ที่ผ่านมาลูกสาวเป็นเด็กดี เรียนเก่ง ขยันทำมาหากิน ช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน ตนเองไม่ต้องการระบุว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นฝีมือคนในบ้านหรือไม่ เพราะแต่ละคนที่พักอาศัยด้วยกัน ล้วนแต่เป็นคนที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเมย์กับแฟน ไม่ว่าจะคบหากับใคร ก็จะคบทีละคนและพามาแนะนำให้รู้จักเสมอ ไม่เคยเห็นว่ามีปากเสียงกับแฟน ส่วนตัวเมย์กับพี่ชายนั้น ตัวเองเลี้ยงดูมาเองกับมือ รู้นิสัยใจคอลูกทั้งสองคน ทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหาหรือทะเลาะกัน ส่วนนายแป๊ก แม้จะเป็นคนคนนอกสายเลือดที่เข้ามาพักอาศัยด้วย แต่ตนค่อนข้างเชื่อใจเพราะดูแลมาตั้งแต่เด็ก
ทีมข่าวอมรินทร์สำรวจจุดเกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น อาคารสีเหลือง ภายใน ซอยเทอดไท 22 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี ห่างจากปากซอยเข้าไปประมาณ 400 เมตร โดยห้องที่อยู่ติดกับห้องผู้ตายด้านขวา จะมีเหล็กแหลมกั้น ความสูงของราวเหล็กกั้นสูง 2 เมตร ยาว 0.5 เมตร มีลักษณะแหลมคม ไม่สามารถข้ามมาได้ อีกทั้งเป็นห้องที่มีผู้อาศัยเป็นผู้หญิงกับสามีและลูกชายฝาแฝดอายุ 4 ขวบ
ด้านนางสาวศศิกาญน์ วงศ์มุข เจ้าของห้องพักที่อยู่ติดกับห้องผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่กับสามีและลูกชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาขณะกลับบ้านกลางดึก เห็นว่าประตูหน้าบ้านที่เกิดเหตุปิดล็อกอยู่ ช่วงเวลาประมาณตี 3 ตนไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ หรือเสียงคนเรียกขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด เพราะหากว่ามีการฆาตกรรมจริง ก็ต้องได้ยินเสียงเกิดขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ ห้องของตนที่อยู่นั้นมีราวเหล็กแหลมกั้นอยู่ ไม่สามารถปีนข้ามไปได้ อีกทั้งความสูงของช่วงตึกก็ไม่สามารถปีนได้อย่างแน่นอน ยืนยันว่าครอบครัวของตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตั้งแต่เกิดเรื่อง ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัว และหากว่าเป็นฆาตกรรมจริง ตนก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเพราะอยู่ติดกับห้องที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.10 น. ตำรวจสืบสวนตำรวจนครบาล 8 พร้อมด้วยสืบสวน สน.ตลาดพลู ควบคุมตัวนายแทน (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) พ่อเลี้ยงของน้องเมย์เข้ามาสอบปากคำ เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ กระทั่งพบว่า เวลา 01.00-03.00 น. มีภาพนายแทนปรากฎตัวอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ