แฟน “น้องเมย์” แฉ “พ่อเลี้ยง” เคยพยายามบุกขืนใจ แม่ป้องผัว ไม่เชื่อลูก พ่อแท้ ๆ สุดแค้น (คลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลู รับแจ้งมีหญิงสาวเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งภายในซอยเทอดไท 23 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ พบที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น สภาพศพนอนเสียชีวิต มีผ้าห่มคลุมร่างกายไว้ โดยผู้ตายไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ที่บริเวณใบหน้ามีรอยช้ำ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เมย์ อายุ 18 ปี นั้น โดยครอบครัวตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งภายหลังได้มีการคุมตัวนายแทน พ่อเลี้ยงของน้องเมย์ไปสอบปากคำ หลังจากนั้นในวันที่ 8 ก.ย. 61 ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา และได้นำตัวนายแทนไปฝากขังที่ศาลแล้วนั้น (อ่าน : คุมพ่อเลี้ยงฆ่า “เมย์” ฝากขัง เจ้าตัวปัดข่มขืนลูกเลี้ยง)

โดยนายแทนเปิดปากรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนก่อเหตุบีบคอ ฆ่าลูกเลี้ยงจริง แต่ไม่ได้ข่มขืนเนื่องจากลูกเลี้ยงขัดขืนต่อสู้

ด้านนายพันธ์ปิติ เจริญลาภ หรือพีท อายุ 19 ปี แฟนน้องเมย์ เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาขณะที่แม่ของเมย์และพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวนี้เข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านแห่งนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นพ่อเลี้ยงเคย พยายามข่มขืนมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเมย์ร้องกรี๊ดขอความช่วยเหลือก่อน โดยนายพีทเผยถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ขณะที่ตนและคนในบ้านทุกคนออกไปทำงาน โดยมีเพียงเมย์ ซึ่งนอนเปลือยห่มผ้าห่มเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่อยู่ภายในห้องเพียงลำพัง ซึ่งไม่ได้ล็อกห้อง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเข้ามาในห้องนอนของเมย์อยู่แล้ว ทันใดนั้นนายทศพล พ่อเลี้ยง เปิดประตูเข้ามาเพื่อขอให้ทำธุระเกี่ยวกับ E-mail ให้ เมย์จึงใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองเข้า E-mail ให้ ในขณะที่กำลังนอนใช้โทรศัพท์อยู่นั้น พ่อเลี้ยงเดินเข้ามานั่งลงบนที่นอน ก่อนที่จะพยายามเข้ามาในผ้าห่มและขึ้นคร่อมบนตัวเมย์ ก่อนที่เมย์จะร้องกรี๊ดเสียงดัง ทำให้นายทศพลไม่กล้าลงมือทำและรีบออกมาจากห้องทันที ต่อมาเมื่อตนกลับมาที่บ้าน เมย์จึงเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟัง ก่อนที่ตนจะนำเรื่องนี้เล่าให้พี่ชายและคนในครอบครัวได้รับรู้ ซึ่งหลังจากที่พี่ชายของเมย์รับรู้จึงได้พูดคุยกับแม่และพ่อเลี้ยงว่าขอให้ย้ายออกจากบ้าน ไปพักอาศัยที่อื่น เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ถัดมาอีก 2-3 สัปดาห์ ทั้งสองจึงย้ายออกไป ในเรื่องนี้ตนไม่กล้าบอกให้แม่ของเมย์รู้ เนื่องจากขณะนั้นแม่เมย์เพิ่งตั้งครรภ์กับนายทศพล จึงไม่อยากให้รับรู้เรื่องนี้ โดยนายพีท เปิดเผยต่อว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ตนก็ไม่เคยปล่อยให้เมย์อยู่ตามลำพัง ไม่ว่าจะกลางคืนหรือกลางวัน จนกระทั่งย้ายออกไป ตนจึงสบายใจและกล้าให้เมย์อยู่คนเดียวที่บ้าน แต่ไม่คาดคิดว่านายทศพลจะย้อนกลับมาก่อเหตุสลดใจขึ้นอีก

บรรยากาศที่วัดจันทรารามวรวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งสวดอภิธรรมศพของ น.ส.เมย์ โดยคืนนี้เป็นการสวดคืนแรก มีญาติและเพื่อนของน้องเมย์มาร่วมงานประมาณ 50 คน โดยนายทวียศ รัตนอุทัยวงศ์ พ่อของผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และนิ่งเงียบ ยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายทวียศ พ่อของเมย์ บอกว่า ความสัมพันธ์ของตนและแม่ของน้องเมย์นั้นได้จบลงไปตั้งแต่ 8 ปี ที่แล้ว และไม่เคยคิดจะติดต่อหรือพูดคุยอะไร มีเพียงติดต่อกับน้องเมย์เท่านั้น เพราะเป็นลูกสาวที่ตนรัก ซึ่งก่อนหน้านี้น้องเมย์ก็ไม่เคยเล่าให้ตนฟังว่าพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมจะลวนลาม เพราะถ้าตนรู้ ตนคงไม่ยอม ซึ่งโดยส่วนตัวตนก็ไม่เคยเจอกับนายแทนพ่อเลี้ยงของน้องเมย์มาก่อน ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าตนกีดกันแม่ของน้องเมย์ไม่ให้มาร่วมงานนั้น ไม่เป็นความจริง ตนยืนยันว่า อนุญาตให้แม่ของน้องเมย์มาร่วมพิธีสวด และแม่ของน้องเมย์ต้องรับสภาพความจริงให้ได้ ว่าผู้ชายที่เขาเอาเข้ามาในชีวิตเป็นคนฆ่าลูกสาว นายทวียศ ยังบอกอีกว่า ตนเสียใจอย่างมากที่น้องเมย์ด่วนจากไป เพราะอีกไม่นานน้องเมย์ก็จะเรียนจบและมีอนาคตที่ดีแล้ว นอกจากนี้ ตนคาดว่าสาเหตุที่นายแทน พ่อเลี้ยงของน้องเมย์ สามารถเข้าไปในบ้านที่น้องเมย์อยู่ได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ 1 ปี นายแทนเคยมาพักอาศัยที่บ้านหลังเกิดเหตุกับแม่ของน้องเมย์ประมาณ 3 เดือนก่อนจะย้ายออกไป ตนคาดว่าหลังย้ายอกไปนายแทนยังคงเก็บกุญแจไว้ จึงทำให้เข้าออกอย่างสะดวกในวันเกิดเหตุ ตนยอมรับว่าโกรธแค้นกับสิ่งที่นายแทน พ่อเลี้ยงของน้องเมย์ทำกับน้องเมย์ แต่หลังจากนี้ตนก็อยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งแม้ว่ายังอยู่ในระหว่างการสืบสวน แต่จากหลักฐาน นายแทนก็เข้าข่ายเป็นผู้ก่อเหตุมากที่สุด ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลูได้เชิญตัวนางมะปราง ตรีกุล แม่ของน.ส.เมย์ ไปสอบปากคำและได้นำตัวไปส่งที่วัด จันทรารามวรวิหาร อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จนถึงเวลา 21.00 น. ยังไม่พบว่าแม่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพลูกสาวแต่อย่างใด