บินโดรนล่า "ไอ้ปอนด์" ยิงลูกผู้ใหญ่บ้านเพื่อนรับเคราะห์ดับ พ่อไหว้ท่วมหัวขอโทษเหยื่อ (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 ก.ค. 64 ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน ภายในบ้าน ม.4 ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภจว.ร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองไผ่

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกใต้ถุนสูง บริเวณชั้น 2 พบรอยเลือดอยู่เต็มพื้น บนที่นอนพบปลอกกระสุนปืนไม่ทราบชนิด จำนวน 3 นัด ตกอยู่บริเวณระเบียงชั้น 2 นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บ 2 คน

เบื้องต้นญาติได้นำส่ง รพ.ร้อยเอ็ด ก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ นายณเรศ พลเวียงธรรม อายุ 23 ปี มีบาดแผลจากการถูกยิงที่หน้าท้อง ใต้ราวนม และขาขวา และนายปิยะศักดิ์ ผงสา หรือ จอส กระสุนปืนเข้าที่หน้าอก 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา

วันที่ 7 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุบ้านไม้สองชั้น ม.4 ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เป็นบ้านที่อยู่ในทุ่งนา ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่ามีรอยเลือดของผู้ตายและผู้บาดเจ็บติดอยู่ตามพื้นไม้ชั้น 2 ของบ้าน จุดที่นายณเรศนอนได้รับบาดเจ็บ คือบริเวณห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ส่วนจุดที่พบร่างนายปิยะศักดิ์ ผู้เสียชีวิต บริเวณระเบียงชั้น 2 ข้างห้องนอน

ชุดสืบสวนได้กระจายควบคุมพื้นที่ในป่าดอนปู่ และป่าชุมชน ต.นิเวศน์ 200 ไร่ ได้เบาะแสจากชาวบ้านว่า ช่วงเช้าพบคนร้ายมาหยุดพักอยู่ในกระท่อมนา เจอชาวบ้านก็เดินทางหลบหนีไป ซึ่งล่าสุดทางชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สมโภชน์ แสวงแก้ว สารวัตรสืบสวน ได้ใช้โดรนบินค้นหาตัวผู้ต้องหา

ในขณะการการติดตามตัวได้นำภาพถ่ายตำหนิรูปพรรณส่งไปยังทุก สภ.ข้างเคียง และส่งไปยังภูมิลำเนาเดิม ติดตามตรวจสอบในกรณีอาจจะหลบหนีลงไปที่ภูมิลำเนาเดิมด้วย ในการปิดล้อมในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ร่วมกันทั้งภาค 4 ตารางปฏิบัติ

ส่วนที่งานศพเมืองร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กว่า 70 นาย ร่วมปิดล้อมค้นหา นอกจากนั้น ในการใช้โดรน อากาศยานไร้คนขับบินสำรวจมุมสู งได้ความร่วมมือจากมูลนิธิหน่วยกู้ชีพสาเกตนคร ให้การสนับสนุนร่วมการค้นหาในครั้งนี้ด้วย

จากการตรวจสอบ หลังจากก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปพบรถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า xmax สีดำ ของผู้ก่อเหตุ จอดทิ้งไว้ที่สะพานข้ามคลอง ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ห่างจากตุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เลยบ้านย่าของคนก่อเหตุประมาณ 300 เมตร โดยจุดที่ผู้ก่อเหตุมาจอดรถทิ้งไว้ พบว่าเป็นสะพานข้ามคลอง ไม่มีบ้านเรือนคนที่อาศัยอยู่

นายบุญช่วง พลเวียงธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 พ่อของนายณเรศ ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 18.00 น. ตัวเองมาเอารำให้หมูที่คอกหมูใกล้กับบ้านหลังเกิดเหตุ เห็นลูกบายและนายจอสยังอยู่บนบ้านปกติ ต่อมาเวลาประมาณ 18.30 น. ตัวเองกลับเข้าบ้านอีกหลังที่อยู่ในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 700 เมตร จากนั้นตัวเอง ภรรยา และลูกสาว ที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ก็ได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 5 นัด ดังมาจากบ้านอีกหลังที่ลูกบายตัวเองอาศัยอยู่ จากนั้นก็มีเสียงคนร้อง "โอ๊ย ๆ"

ลูกสาวตัวเองจึงเอะใจว่าทำไมเสียงปืนถึงดังมาจากบ้านอีกหลังที่อยู่ทุ่งนา จากนั้นตัวเอง ภรรยา และลูกสาว จึงรีบขับรถมอเตอร์ไซค์ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ จะถึงบ้านหลังเกิดเหตุอีกประมาณ 200 เมตร ก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ขับออกจากที่เกิดเหตุด้วยความเร็ว แต่ตอนนั้นตัวเองไม่ได้สังเกตว่าเป็นรถของใคร

เมื่อถึงบ้านที่เกิดเหตุ ตัวเองและภรรยารีบขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน ก็เห็นประตูห้องของลูกชายเปิดอยู่ มองเข้าไปเห็นลูกชายนอนบาดเจ็บ และลูกชายได้บอกกับพวกตัวเองว่า "ไอ้ปอนด์เป็นคนยิง" พร้อมบอกให้พวกตัวเองไปดูนายจอสอยู่ระเบียงข้างห้อง พวกตัวเองจึงเดินไปดูบ้างระเบียง ก็เห็นนายจอส เพื่อนของลูกชาย นอนหงายจมกองเลือด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่และนำตัวทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาลทันที

สำหรับปมที่นายปอนด์ มาก่อเหตุยิงลูกชายบาดเจ็บ และยิงนายจอสเสียชีวิตนั้น ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร ที่ผ่านมานายปอนด์ คนก่อเหตุ เคยแวะเวียนมาพูดคุยเรื่องไก่ชนกับลูกชายและนายจอสอยู่บ้าง แต่ระยะ 2 เดือนหลัง ตัวเองก็ไม่เคยเห็นนายปอนด์มาที่บ้านลูกชายอีกเลย ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกัน เพราะลูกชายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง

สำหรับศพของนายจอส ผู้เสียชีวิต ครอบครัวของนายจอสได้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว สำหรับลูกชายและผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนกันได้ไม่นาน เหตุที่เกิดขึ้นอยากจะถามคนก่อเหตุว่าทำลงไปได้อย่างไร เมื่อก่อนก็เคยมากินมาอยู่อาศัยกับลูกชายตัวเอง ทำไมจิตใจเขาถึงร้ายแรงขนาดนี้ มีปัญหาอะไรก็น่าจะพูดกันดี ๆ ตัวเองก็สงสารครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มาเสียชีวิตที่บ้านของตัวเอง สำหรับอาการของลูกชายของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน เพื่อรอการผ่าตัดเอากระสุนปืนออกจากร่างกาย

ระหว่างนั้น นายหนูกัน อันทะไชย อายุ 56 ปี พ่อของนายจีระวัฒน์ อันทะไชย หรือ ปอนด์ อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดใจว่า สำหรับลูกชายไปก่อเหตุยิงเพื่อน ตัวเองก็ยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร เมื่อคืนก่อนจะมาก่อเหตุ ลูกชายได้ดื่มเหล้าเมา ตัวเองจึงได้ตำหนิ พร้อมกับสั่งสอนลูกชายว่า "ดื่มแต่เหล้า ไม่รู้จักทำมาหากิน ทำไมไม่ทำงานทำการบ้างลูก จะใช้ชีวิตไปวัน ๆ แบบนี้หรอ" ลูกชายก็โกรธตัวเอง พร้อมกับพูดลั่นขึ้นมาว่า "ต่อไปนี้จะไม่มาเหยียบบ้านหลังนี้อีกแล้ว" จากนั้นลูกชายจึงวิ่งไปหยิบอาวุธปืนในบ้าน พร้อมกับขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน ยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัด

ตัวเองจึงโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายมีอการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยืงขึ้นฟ้า ไม่ถึง 30 นาที ตัวเองก็มาทราบข่าวว่านายณเรศและนายจอสถูกลูกชายก่อเหตุยิงที่บ้านปลายนา ตัวเองรีบปิดประตูใส่กลอนและเข้านอน กระทั่งช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาสอบถามตัวเองเพื่อหาตัวลูกชาย

สำหรับนายปอนด์ ลูกชายตัวเองเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี พูดมีหางเสียง "ครับผม ๆ" อยู่ตลอด และไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับคดีความต่าง ๆ ตัวเองคาดว่าลูกชายและผู้ตายรวมถึงผู้บาดเจ็บ น่าจะรู้จักกันจากการที่เล่นตีไก่ชนด้วยกัน หลังก่อเหตุตัวเองคาดว่าลูกชายน่าจะไปวัดในหมู่บ้าน เรื่องจากเมื่อคืนมีเสียงหมาเห่ามาจากทางวัด เพื่อไปหาหลวงพ่อที่วัด เพราะลูกชายตัวเองนับถือหลวงพ่อ อาจไปกราบลาหลวงพ่อก็เป็นได้ ตัวเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้จึงมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวคนเจ็บในที่เกิดเหตุ ส่วนนายปอนด์ ตัวเองก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

นายหนูกัน ได้ยกมือขึ้นเหนือศีรษะหันหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ และกล่าวขอโทษคนตายว่า "พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้สอนลูกชายพ่อแบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะมาก่อเหตุแบบนี้ ถ้าวิญญาณคนตายอยู่ไหนก็ขอให้วิญญาณรับรู้ ให้กรรมตามสนองลูกชายพ่อ เหมือนที่เขาทำกับคนตาย" จากนั้นพ่อคนก่อเกตุหันหลังกลับไปหาแม่คนเจ็บ พร้อมกล่าวว่า "เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้จึงเดินทางมาหา แต่ถ้าจะให้รับผิดชอบ ตอนนี้คงไม่มีปัญญาจะรับผิดชอบ"

พ่อคนก่อเหตุ กล่าวต่อว่า ถ้าลูกชายถูกจับดำเนินคดี ตัวเองก็จะไม่ประกันตัว เพราะก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยไปก่อเหตุยิงบ้านเพื่อนบ้านที่ชื่อนายต้นมาแล้ว หลังจากนี้ก็คงให้ตำรวจจับลูกลายไปดำเนินคดีตามกฏหมาย และไม่ทราบว่าลูกชายจะไปกบดานอยู่ที่ไหน ส่วนอาวุธปืนของลูกชาย ก็ไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหน ยืนยันว่าจะไม่ตัดพ่อลูก ถ้าลูกตายก็จะไปเผาศพลูก "ถ้าลูกชายดูข่าวอยู่ ตัวเองก็ขอให้ลูกชายมามอบตัว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ถ้าไม่มอบตัว ตำรวจจะยิงลูกทิ้งนะลูก อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็สุดแล้วแต่เวรแต่กรรม"

จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวเฟซบุ๊ก นายจีระวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ มีการโพสต์ข้อความคล้ายมีการท้าทายและปรัชญาทั่วไป ก่อนจะก่อเหตุ

ส่วนความเคลื่อนไหวเฟซบุ๊ก นายณเรศ ผู้บาดเจ็บจากการถูกยิง มีการโพสต์ข้อความว่า "ก็มาดิคับ555"

นางสาวอารียา อัศวบุตร หลานของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้นายปอนด์ได้มาจอดรถทิ้งไว้ที่ทุ่งนา เลยบ้านของตัวเองไปประมาณ 300 เมตร ตอนที่นายปอนด์เข้ามาจอดรถทิ้งไว้ ก็ไม่มีใครพบเห็นนายปอนด์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเจอรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ ที่นายปอนด์เข้ามาจอดรถ คาดว่าเมื่อคืนนี้หลังก่อเหตุนายปอนด์น่าจะขับรถเข้ามาเรียกหาย่า แต่เนื่องจากย่าเป็นคนแก่ หูหนวก และนอนอยู่ในบ้าน จึงไม่ได้ยินเสียงนายปอนด์ ทำให้นายปอนด์จึงขับรถเลยบ้านตัวเองไปอีก 300 เมตร และไปจอดทิ้งไว้

ที่ผ่านมานายปอนด์ก็ไม่เคยเล่าให้ตัวเองฟังว่าเขามีปัญหาอะไรกับคนตาย แต่สำหรับตัวเองนายปอนด์เป็นคนนิสัยดี ชอบซื้อกับข้าวมาให้ตัวเองและครอบครัว ตัวเองอยากให้นายปอนด์มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยอมรับกับสิ่งที่กระทำ เพราะไม่มีใครแก้ปัญหาแทนได้

สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิด วินาทีก่อนที่นายปอนด์จะไปก่อเหตุ เห็นนายปอนด์ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ผ่านร้านค้าอยู่ห่างบ้าน 2 หลังคาเรือน โดยขับมุ่งหน้าไปมุมซ้ายของกล้อง เพื่อไปก่อเหตุที่บ้านปลายนาของนายณเรศ