กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดังได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่พนักงานส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกถืออาวุธมีดเข้าไปทำร้ายในโกดังเก็บสินค้าของบริษัท จนได้รับบาดเจ็บ โดยระบุข้อความว่า "ถึงขนาดต้องทำร้ายกัน มันเกินไปแล้ว ควรใช้สติให้มากกว่าการใช้กำลัง จะด้วยสาเหตุใดคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายใคร ทั้งนี้สาเหตุเบื้องต้นทราบว่ามาจากเหตุขับรถปาดหน้ากัน"
ล่าสุดวันที่ 11 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ซอยหมู่บ้านเพชรงาม ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นลักษณะโกดังสินค้าเอกชนแห่งหนึ่ง
ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนายนเรศ เข็มเพชร อายุ 45 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนขับรถส่งของมากับภรรยา และเตรียมจะกลับเข้าโกดังสินค้า ในวันที่ 7 ก.ค.64 ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. โดยลักษณะถนนเป็นแบบ 2 เลนขับสวนกันได้ ซึ่งขณะนั้นเปิดสัญญาณไฟเตรียมจะเลี้ยวขวา แต่มองกระจกข้างฝั่งคนขับ เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์เป็นวัยรุ่นผู้ชายซ้อนท้ายกันมา 2 คน ขี่ตามหลังมาด้วยความเร็ว ตนจึงจอดรถรอให้รถจักรยานยนต์แซงไปก่อน
จากนั้นผู้ก่อเหตุ ขี่รถย้อนตามเข้ามา แล้วมาจอดเทียบข้างตนจึงลดกระจกลงเพื่อสอบถาม จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็ด่าตนด้วยคำหยาบคาย ถึงปมเรื่องการขับรถปาดหน้า ซึ่งตนก็ยกมือขอโทษ แต่ผู้ก่อเหตุก็พูดจาไม่ดีกับตน จากนั้นภรรยาของตนก็ตอบโต้ไปว่าทำไมไม่พูดกันดี ๆ แล้วผู้ก่อเหตุก็ใช้มีดพยายามจะฟันเข้ามาที่รถ แต่ตนปิดกระจกทัน แล้วผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
ผ่านไปประมาณ 10 นาที ผู้ก่อเหตุกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน รวม 3 คน โดยผู้ก่อเหตุคนที่ 1 ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับตอนที่หาเรื่องในครั้งแรก ถือมีดความยาว 1 ช่วงแขน บุกเข้ามาจะฟันตน ขณะนั้นตนระวังแต่ผู้ก่อเหตุที่ถือมีด แต่ไม่ทันผู้ก่อเหตุคนที่ 2 ที่ถือเหล็กเปลี่ยนยางรถยนต์ฟาดที่บริเวณใบหน้าใกล้จมูกซ้าย จนตนได้รับอาการบาดเจ็บ และมีรอยช้ำบริเวณเปลือกตา
อย่างไรก็ดี ตนขับรถขนของมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก และค่อนข้างเกินกว่าเหตุอย่างมาก ๆ เนื่องจากใช้อาวุธมีดจะฟันตน หากตนถูกฟันจริงอาจจะบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งตนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง หากเกิดอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบไหว และตนขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุ และไม่ได้มีการปาดหน้ากันมาก่อน ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนก่อเหตุ เพราะรู้สึกกลัว หากคนก่อเหตุหวนกลับมาทำร้ายอีกครั้ง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ โดยจากการไล่ดูกล้องซึ่งค่อนข้างมีน้อย และเห็นทะเบียนไม่ชัดเจน จึงยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าคือใคร คาดว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุ เป็นคนในพื้นที่ ขณะนี้ชุดสืบสวนสภ.บางปู กำลังสืบหาเบาะแสจากลักษณะรถจักรยานยนต์ คาดว่าจะรู้ตัวและออกหมายเรียกเร็ว ๆ นี้