จากกรณีดราม่านักแสดงสาว ปิ๊ง จิดาภา วัชรสินาพร ถ่ายคลิปเพื่อนเอาถุงพลาสติกคลุมหัวหมาแล้วตนเองหัวเราะชอบใจ จนเกิดแฮชแท็ก #ปิงปิงนาง12 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ผู้กำกับดังออกมาโพสต์ฟาดไม่ขอร่วมงานด้วย ชาวเน็ตขุดภาพต่อ ปิ๊ง เมาแล้วขับรถ กลายเป็นดราม่าไฟลามทุ่ง
ล่าสุด ปิ๊ง จิดาภา เปิดใจกับอมรินทร์ทีวีเคลียร์ทุกประเด็นว่า "ยอมรับผิดจริงๆ กับเรื่องทั้งหมด ก็ขอโทษสังคมและคนที่เกี่ยวข้องด้วย คนใกล้ตัวด้วย เราไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เป็นบทเรียนด้วยที่คิดน้อยไป เอาลงสตอรี่เล่นกับเพื่อน ณ ตอนนั้นไม่ได้คิด เอาเป็นว่า ถ้าตอนนั้นตั้งใจจะทารุณกรรมสัตว์จริงๆ คงไม่โพสต์ลงสตอรี่เพื่อให้คนมาด่าเรา"
"และอาจจะด้วยแคปชั่นที่เราลงไป การตัด การพากษ์มันดูรุนแรง คือเพื่อนเองในส่วนที่ตี แค่สั่งสอนสุนัขให้ฉี่เป็นที่ ส่วนที่เอาถุงพลาสติกคลุมหัวแค่เล่นหยอกล้อเฉยๆ ไม่ได้ครอบหัวนานแต่ด้วยรูปที่เราตัดมาและแคปชั่น เพื่อนก็ฝากขอโทษมาด้วยว่าไม่ได้เจตนาทารุณกรรมสัตว์หรือให้คนเอาเป็นเยี่ยงอย่าง"
"ส่วนตัวปิ๊งเองไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เลยไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เราก็พลาดตรงนี้ด้วย ไม่รู้ว่าการตีหมาหรือการทำอะไรควรไม่ควร เราแค่ไปหาเพื่อน แล้วถ่ายลง ซึ่งยอมรับผิด เป็นบทเรียน ครั้งต่อไปจะไม่เกิดขึ้น วันนี้ได้รู้แล้วว่าการดูแลเลี้ยงสุนัขต้องทำยังไง"
เราไม่รู้มาก่อนเลยเหรอว่าการเอาถุงพลาสติกครอบหัวหมาจะอันตราย?
"ใช่ค่ะ ไม่รู้ ตอบตรงๆ เลยกล้ายอมรับ ถ้ารู้เราไม่เอามาลงประจานตัวเองแน่นอน ใครอาจจะพูดว่า เรียนมาจบเกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬา คิดได้แค่นี้เองเหรอ แต่เราต้องยอมรับว่า เราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ (ไหว้) บางทีเราอาจจะเก่งในเรื่องวิชาการจริง แต่ในเรื่องนี้เราไม่รู้ ต่อไปนี้เรารู้แล้ว เราพร้อมจะแก้ไข เราจะไม่ทำ และจะไม่ให้ใครทำค่ะ"
ส่วนเพื่อนของปิ๊งก็ไม่รู้เหรอ?
"ใช่ค่ะ ต่างคนต่างไม่รู้ เราเองก็มองว่าเขาเล่นหยอกล้อกับหมาเขาก็ถ่ายคลิป ส่วนเพื่อนไม่ได้เป็นคนเลี้ยงหมา น้องเขาซื้อมา น้องเป็นคนเลี้ยงหลัก"
รีแอคของเราหัวเราะ
"ใช่ค่ะ คือ เราก็คิดว่าเพื่อนเล่นกับหมา เราก็ขำๆ แล้วถ่าย ไม่ได้เจตนา จริงๆ มันก็ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แต่เพราะเราตัดคลิปเองเป็นช็อตๆ อย่างช็อตที่ตี และคลุมหัว เป็นคนละช่วงเวลากัน ส่วนตอนหมาซนๆ กับตอนทำหน้าหงอยๆ ก็เป็นอีกตอนหนึ่ง"
มีคลิปหนึ่งที่ตีดังมากๆ
"ค่ะ ตีตอนหมาฉี่ไม่ถูกที่ ซึ่งตรงนี้ปิ๊งก็ไม่รู้เพราะไม่ได้เลี้ยง และไม่รู้ว่าตีแรงไปหรือเปล่า ตรงนี้ไม่รู้จริงๆ ต้องขอโทษด้วย"
ส่วนหนึ่งที่เพื่อนต้องทำโทษหมา เพราะหมามาข่วนปิ๊ง
"อันนั้นเป็นการที่เราพากษ์สตอรี่เอง แต่จริงๆ ตอนที่เพื่อนตีหมาคือ หมาฉี่ไม่เป็นที่ ส่วนตอนเอาถุงครอบหัว ก็อีกตอนหนี่ง แต่เรามือบอนเอง เอาคลิปมาตัดแล้วพากษ์เองว่ามันข่วนเรา สร้างคอนเทนต์ เพราะหมาข่วนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว"
กรณี บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับดัง โพสต์ไม่อยากร่วมงานด้วย
"เห็นค่ะ ก็ต้องขอโทษพี่บาสด้วยนะคะ (ไหว้) และอยากจะขอโอกาสจากพี่บาส ยอมรับว่าผิดและพลาดไปแล้ว ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ต้องขอโทษและขอโอกาส"
"ไม่อยากให้มีเรื่องไปถึงช่องหรือค่าย ผู้ใหญ่ทุกคนที่ปิ๊งร่วมงานมาต้องขอบคุณในโอกาสที่ให้ อย่างแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #ปิงปิงนาง12 ละครเรื่องนั้นเป็นเรื่องแรกที่ปิ๊งเข้าวงการ อยากจะขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสมาต่อเนื่อง ไม่อยากให้พาดพิงถึง อย่างเรื่องล่าสุดเล่นเป็นนางโลม เรื่องวันทอง ก็ไม่อยากมีปัญหากับช่อง ปิ๊งเองเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ได้มีสังกัดอยู่แล้ว หลายๆ คนก็เรียกร้องอยากให้ช่องทำอะไรสักอย่าง แต่คือปิ๊งอยากจะขอโอกาสตรงนี้ (ไหว้)"
กลัวผู้กำกับ หรือ คนในวงการแบนไหม?
"ใช่ค่ะ ต้องบอกว่าตอนนี้ค่อนข้างแย่อยู่แล้วด้วยสถานการณ์โควิด 2 ปี มานี้งานก็แทบจะนับได้เลยค่ะ แล้วก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ส่วนปิ๊งก็อาจจะเด็กในวงการบันเทิง ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เช่น การลงสตอรี่ ด้วยความเปิดเผย ไม่มี close friend มาจากคนธรรมดา ไม่รู้อะไรที่ไม่ควรทำ ยอมรับผิดตรงนี้และพร้อมจะแก้ไข อยากจะวอนขอทั้งสังคมและผู้ใหญ่ทุกคน อย่าเพิ่งโกรธปิ๊งเลย ยอมรับคิดน้อยจริงๆ"
มีแอบร้องไห้ ?
"เพราะเรื่องราวบานปลาย ไม่รู้ว่ามายังไง เนื่องจากไม่มีเจตนาทำร้ายสัตว์ นอกจากถูกกดดันจากสังคมแล้ว ยังมีคนรอบตัวบางคนด้วย มีเพื่อนบางคนที่เคยสนิทกันแล้วห่างๆ กันไป กลับไม่เข้าใจเรา มองว่าเราทำร้ายสัตว์ ซึ่งเป็นส่วนที่กระแทกจิตใจเรา เพราะเขาเห็นเราจากโซเชียล ซึ่งที่เราเสียใจว่าที่ผ่านมา เขาไม่รู้จักเราเลยเหรอว่าเราเป็นคนยังไง"
ส่วนสตอรี่ที่โพสต์เมาแล้วขับ?
"ปิ๊งนั่งอยู่หลังแล้วถ่ายสตอรี่ไปแล้วแคปชั่น ด้วยแคปชั่นเรา เป็นบทเรียนเลยว่า ขี้เล่น ไม่รู้จักกาลเทศะ มันไม่ได้ เราดันลงแคปชั่นเหมือนปั่น เอาฮา แต่คนอื่นเขาไม่ฮาด้วย เขาเข้าใจว่าเมาแล้วขับเหรอ แต่จริงๆ ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนขับ ไม่ได้เมา แต่เพื่อนขับวนไปวนมาเพราะเราเองบอกทางไม่รู้เรื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นการขุดสตอรี่เก่าสมัยที่ยังไม่ได้เข้าวงการ ยังไม่ดัง เป็นเรื่องในอดีต แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าจะลงอะไรต้องคิดให้เยอะ ต้องใช้โซเชียลให้ถูกวิธี"