วันที่ 12 กันยายน 61 พ่อหม้ายลูกติด จีบหม้ายสาว แต่ไม่ได้รับการสนใจ ตัดสินใจ ยิงหม้ายสาวตายคามีดตัดยาง หลังจากนั้น กลับไปยิงลูกชายตัวเอง ขณะนอนหลับ อยู่ในบ้านพัก ก่อนตัดสินใจผูกคอตาย คาต้นยางพารา หนีชีวิตที่ไม่สมหวัง
พ.ต.ท.เกล้าพลนุ้ย พนักงานสอบสวน สภ.กงหรา พร้อมด้วย พ.ต.อ. กมล ณนรงค์ ผกก.สภ.กงหรา และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในสวนยางพารา ท้องที่หมู่ที่ 3 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่พบศพ นางไหร่หนับ ด้วงคน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ที่ 3 ต.ชะรัด อ.กงหรา ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง นอนเสียชีวิต คามีดตัดยาง ขณะกรีดยางพารา ในสวนยางข้างบ้าน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว เดินทางไปตรวจสอบเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 3 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง ห่างออกไปอีกประมาณ 1 กม. เจ้าหน้าที่พบศพ เด็กชายศักดิ์ระวี เส็นบัตร อายุ 13 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเสียชีวิตนอนคว่ำหน้า อยู่ในห้องนอน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งว่า ยังมีเหตุผูกคอตาย ในป่าสวนยางพาราหลังบ้าน ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร พบศพ นายส่าหลี เส็นบัตร อายุ 58 ปี ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเอง ห้อยโตงเตงอยู่กับต้นยางพารา
จากการสอบสวน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายส่าหลีฯ ผู้ตาย หลังจากหย่าร้างกับภรรยา ที่จังหวัดตรัง และ ได้นำลูกชายเดินทางกลับมาพักอยู่กับพี่สาว ที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง ประกอบอาชีพเลี้ยงวัวชนจ้าง และ กรีดยางพาราจ้างของน้องชาย นางไหร่หนับฯ หญิงหม้ายที่ถูกยิงในสวนยาง ขณะที่ทำงานรับจ้างเลี้ยงวัวอยู่ใกล้ๆ ก็เกิดหลงรักนางไหร่หนับฯ ที่เป็นหม้าย ล่าสุดนายส่าหลีฯ ผู้ตายไปขออยู่กินกับฝ่ายหญิง ที่บ้านด้วยแต่ นางไหร่หนับฯไม่เล่นด้วย เนื่องจากเห็นว่าอายุมากแล้ว และ ยังต้องเลี้ยงดูลูกสาวอีก 2 คนทำให้นายส่าหลี ไม่พอใจวางแผนที่จะปลุกปล้ำเอาให้ได้ ฉวยโอกาส ขณะที่ฝ่ายหญิงออกจากบ้านไปกรีดยางพารา ขณะที่ นางไหร่หนับ กรีดยาง ได้ต้นแรก นายส่าหลีก็แสดงตัว หมายที่เข้าปลุกปล้ำ ทำให้ นางไหร่หนับ ตกใจวิ่ง แต่ก็ถูก นายส่าหลี ใช้ปืนลูกซองยิงเข้าใส่ทางด้านหลัง 1 นัด และ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้น นายส่าหลี มือปืนก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ เดินทางกลับบ้าน พบเด็กชาย ศักดิ์ระวี ลูกชายแท้ๆของตัวเอง นอนหลับอยู่ในบ้าน ก็ตัดสินใจใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อยิง จนเสียชีวิตไปอีกรายก่อนที่จะนำเอาเชือกไนล่อนที่เก็บอยู่ในบ้านเดินเข้าป่าไปผูกคอตายหนีความผิดดังกล่าว
ส่วนสาเหตุที่มือปืนต้องจ่อยิงลูกชายแท้ๆ ของตัวเองด้วยนั้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายส่าหลี ซึ่งเป็นหม้าย และ ต้องเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว เมื่อตัวเองกระทำความผิดฆ่าคนตาย ก็ต้องติดคุกจึงเป็นห่วงว่าลูกชายจะลำบากไม่มีใครดูแลจึงตัดสินใจฆ่าทิ้ง ก่อนที่จะวิ่งเข้าป่า ไปถูกคอตายตามไปเป็นศพที่ 3 ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพัทลุง มูลนิธิการกุศล นำศพทั้ง 3 ศพ เดินทางไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ โรงพยาบาลกงหรา ก่อนที่จะมอบศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามต่อไป