เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในพื้นที่หมู่ 6 บ้านศรีบอยา ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง หลังจากเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา มีชายคลั่งก่อเหตุจุดไฟเผาบ้านชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายหลัง รวมทั้งรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัสจากการถูกฟันศีรษะ
ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายบุญเสริม กูลดี อายุ 36 ปี บุตรชายของนายประกิจ กูลดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปนอนพักอยู่ภายในขนำแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ตำรวจชุดสืบสวนจึงตามไปปิดล้อม จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้เมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา นำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรคลองขนาน
วันที่ 13 ก.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ พบว่าบ้านที่ได้รับความเสียหายประกอบด้วย บ้าน 9 หลัง และรถจักรยานยนต์ 8 คัน ประกอบด้วย
1. บ้านของนางปารีณา ราชบุรุษ หลังคาทะลุเป็นรู มีรอยไหม้โต๊ะ และโทรทัศน์ในบ้าน
2. บ้านนายสุรพงษ์ แย้มทับ มีรอยไหม้ที่ประตูบ้าน และขอบหลังคา
3. บ้านของนางรสนา ตะกิมจิ ประตูหน้าบ้านและประตูห้องน้ำพัง โทรทัศน์พัง รถจักรยานยนต์ 2 คันโดนเผาไฟ หน้าบ้านและหลังคามีรอยทะลุ
4. ร้านค้าของนายเกียรติศักดิ์ ช่างเรือง รถจักรยานยนต์โดนเผาไฟ 1 คัน และโดนฟันอีก 2 คัน
5. บ้านนายก่อเฉด ช่างเรือ ไฟไหม้ขอบประตูบ้าน
6. บ้านนางกอดี มันเหยบ รอยไหม้ข้างบ้านและบริเวณพื้น
7. บ้านนายนิยม หลีจิ มีรอยไหม้ขอบหน้าต่าง รถจักรยานยนต์โดนเผา 1 คัน
8. บ้านนางขวัญกนก แหลมเกาะ รถจักรยานยนต์ 2 คันโดนเผา ประตูหน้าบ้านพัง ไฟไหม้ทะลุหลังคา โทรทัศน์และเครื่องซักผ้ามีรอยไหม้
9. บ้านนางมิละมะ แหลมเกาะ รอยไหม้ที่พื้นชั้น 1 และบริเวณชานบ้านชั้น 2
นางปารีณา ราชบุรุษ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านหลังแรกที่โดนเผาไฟ พบว่า หลังคาทะลุเป็นรู มีรอยไหม้โต๊ะ และโทรทัศน์ในบ้านเสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.15 น. นั่งกินข้าวอยู่ในบ้านพร้อมสามี และลูกผู้ชายกับผู้หญิง อายุ 10 ขวบ และ 7 ขวบ
ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดังบนหลังคาบ้านมีบางอย่างตกทะลุลงมาในบ้าน แล้วไฟก็ลุกขึ้นที่โทรทัศน์ ทราบภายหลังว่าเป็นขวดใส่น้ำมันจุดไฟ
ตนและลูกพร้อมสามีต่างวิ่งหนีคนละทิศละทาง ระหว่างนั้นออกมาเปิดประตูหน้าบ้าน เห็นนายบุญเสริม ผู้ก่อเหตุ จอดรถจักรยานยนต์อยู่บนถนนหน้าบ้าน พร้อมพูดโวยวาย ตนจึงกลับไปในบ้านและปิดคัตเอาต์ไฟทั้งหมด พร้อมหนีออกจากบ้าน ระหว่างนั้นตะโดนถามบ้านที่ติดกันซึ่งเป็นบ้านของนายสุรพงษ์ว่าโดนเผาด้วยหรือไม่ ภรรยานายสุรพงษ์บอกว่าโดนเผาหน้าบ้านเช่นกัน สามีของตนจึงเข้าไปช่วยดับไฟ เพราะตอนนั้นคนร้ายหนีไปแล้ว
หลังจากนั้น คนร้ายตระเวนไปก่อเหตุหลังอื่น ก่อนวนกลับมาที่บริเวณหน้าบ้านตนอีกครั้ง ขณะนั้นนายสุรพงษ์กลับมาบ้านพอดี จึงเข้าไปจับตัวไว้ และโดนฟันจนได้รับบาดเจ็บ
นายอาลี ตาวัน อายุ 43 ปี สามีของนางปารีณา เป็นน้องภรรยาของนายสุรพงษ์ ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า หลังนายบุญเสริม ก่อเหตุเผาไฟบ้านตน ระหว่างนั้นอีกฝ่ายพยายามจะเผารถจักรยานยนต์หน้าบ้านนายสุรพงษ์ด้วย
เป็นจังหวะที่นายสุรพงษ์ กลับมาบ้านพอดี นายสุรพงษ์ จึงพยายามจับตัวนายบุญเสริมไว้ แต่นายบุญเสริมสะบัดหลุด แล้วใช้มีดยาวฟันที่ศีรษะนายสุรพงษ์หลายครั้ง
ตนพยายามจะเข้าไปช่วย แต่ไม่สามารถทำได้เพราะอีกฝ่ายมีมีด ระหว่างนั้นพี่เขยคลานไปหน้าบ้านตัวเอง อีกฝ่ายจึงขับรถจักรยานยนต์หนีไป โดยตอนนี้พี่เขยกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการปลอดภัยแล้ว หมอเย็บแผลที่ศีรษะ 54 เข็ม
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน แต่ก่อนหน้านี้ 5-6 เดือน อีกฝ่ายเคยถือมีดพร้ามาขู่ว่าจะฟันให้หมด ตอนนี้กลัวมากว่าผู้ก่อเหตุจะประกันตัวออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำอีก
ด้านนางรสนา ตะกิมจิ อายุ 55 ปี นำทีมข่าวเข้าไปดูภายในบ้านของตัวเองที่ได้รับความเสียหาย ประตูเป็นรูขนาดใหญ่จากการฟัน จอโทรทัศน์แตก ประตูห้องน้ำพัง รถจักรยานยนต์ 2 คันถูกเผา และหน้าบ้านเป็นรอยไหม้ขนาดใหญ่
นางรสนา เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนที่นายบุญเสริมจะพยายามดึงประตู ตนจึงดึงไว้จากด้านในไม่ให้เปิดได้ แต่ไม่สามารถต้านทานแรงอีกฝ่ายได้
กระทั่งประตูเปิดออก นายบุญเสริมง้างมีดยาวที่ถือไว้จะฟัน ตนจึงรีบวิ่งหนีลอดใต้รักแร้นายบุญเสริมออกไปหน้าบ้าน จากนั้นอีกฝ่ายเข้าไปฟันโทรทัศน์ ตู้เสื้อผ้า และถีบประตูบ้าน จนสามีที่อยู่ในบ้านต้องวิ่งหลบไปทางหลังบ้าน
โดยตนไม่เคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ แต่ก่อนหน้านี้นายบุญเสริมเคยขู่จะฆ่าสามีของตน กล่าวหาว่าสามีแอบไปส่องที่บ้านเขา
ส่วนตัวมองว่าอีกฝ่ายน่าจะคิดมาก หลอนยาเสพติด ตอนนี้กลัวมาก กังวลว่าอีกฝ่ายจะได้รับปล่อยตัวออกมา แล้วก่อเหตุซ้ำ
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังร้านค้ากลางหมู่บ้าน มีรถจักรยานยนต์ของลูกค้า 3 คัน ที่จอดหน้าร้านได้รับความเสียหายโดยโดนเผาไฟ 1 คัน และโดนฟันอีก 2 คัน
นายเกียรติศักดิ์ ช่างเรือง อายุ 24 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า หลังนายบุญเสริมก่อเหตุเผาไฟ 3 หลังแรก จากนั้นได้เข้ามาหยิบน้ำมันเติมรถจักรยานยนต์ที่ร้านตนจำนวน 6-7 ขวด โดยไม่ได้พูดอะไร พร้อมสั่งให้ตนเอาผ้าให้ด้วย ตนจึงหยิบเสื้อให้ไป 2 ตัว จากนั้นอีกฝ่ายก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปทันที คาดว่าน่าจะไปก่อเหตุเผาไฟบ้านหลังอื่นต่อ
หลังจากนั้น ประมาณ 30 นาที ตนปิดร้านแล้ว นายบุญเสริมย้อนกลับมาอีกครั้ง พร้อมขู่จะเอาน้ำมันอีก ตนบอกว่าหมดแล้วแต่อีกฝ่ายไม่เชื่อ ตนจึงเอาน้ำมันออกมาให้ 1 ขวดซึ่งบรรจุครึ่งลิตร
ก่อนอีกฝ่ายจะเดินไปยิงปืนหลังบ้าน 4 นัด และกลับมาเผารถจักรยานยนต์ลูกค้าของตนที่จอดอยู่หน้าร้าน ส่วนตัวกลัวมาก ห่วงครอบครัว ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะหลอนและคุมตัวเองไม่ได้
นายก่อเฉด ช่างเรือ อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย บริเวณหน้าบ้านมีรอยไหม้จากการจุดไฟเผา เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะกำลังเข้านอน นายบุญเสริมขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ตนจึงรีบวิ่งหนีไปหลบที่ป่าหลังบ้าน ระหว่างนั้นมีเสียงโครมคราม คาดว่านายบุญเสริมน่าจะราดน้ำมันและจุดไฟเผาหน้าบ้านตน แล้วขับรถจักรยานยนต์ออกไป
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ขณะที่ตนกำลังขับรถเข้าสวนยาง นายบุญเสริมก็เรียกให้ไปคุยที่บ้านตัวเอง ตนจึงขับรถจักรยานยนต์ไปจอด อีกฝ่ายก็ล้วงโทรศัพท์ของตนออกมาจากกระเป๋าย่ามที่สะพายไว้ แล้วตนก็รู้สึกว่ามีของแข็งฟาดมาที่ศีรษะ จากนั้นตนจึงวิ่งหนีไปบ้านญาติ ระหว่างทางหกล้มถึง 2 ครั้ง เพราะไม่มีแรง
เมื่อไปถึงบ้านญาติก็บอกแค่ว่านายบุญเสริมตีหัว ก่อนสลบไป โดยครั้งนั้นตนเย็บไป 8 เข็ม และรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 วัน
ซึ่งตนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาตีหัวตนทำไม เพราะไม่เคยมีปัญหากัน
แต่อีกฝ่ายชอบคิดว่าคนอื่นไปแอบส่องบ้านเขา ครั้งนี้นายบุญเสริมกลับมาบ้านตน น่าจะเกิดจากความไม่พอใจ ที่ตนไปแจ้งความเรื่องที่ถูกตีหัว ซึ่งตำรวจยังไม่จับตัวผู้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างดำเนินการทางคดี แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปเผาบ้านหลังอื่นด้วย
ส่วนที่บ้านนางกอดี มันเหยบ ผู้เสียหายรายที่ 6 ความเสียหายมีรอยไหม้ข้างบ้าน และบริเวณพื้นด้วยที่ถูกเผา
ส่วนที่บ้านของนิยม หลีจิ ผู้เสียหายรายที่ 7 ความเสียหายมีรอยไหม้ข้างบ้านขอบหน้าต่าง และรถจักรยานยนต์โดนเผา 1 คัน
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปบ้านนางขวัญกนก แหลมเกาะ อายุ 42 ปี ซึ่งรถจักรยานยนต์ 2 คันถูกเผา หน้าบ้านหลังคาทะลุมีรอยไหม้ โทรทัศน์และเครื่องซักผ้าหลอมละลายจากเปลวไฟ
นางขวัญกนก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงโวยวายจากข้างบ้าน และเห็นนายบุญเสริม จุดไฟเผาบ้านนายนิยม หลีจิ ตนจึงรีบวิ่งไปหลบที่ป่าตรงข้ามบ้าน
จากนั้น นายบุญเสริมขับรถจักรยานยนต์มาจิดหน้าบ้านของตน พร้อมโวยวาย จากนั้นได้ยินเสียงปืนยิงขึ้นฟ้า 3 นัด ก่อนนายบุญเสริมจะใช้มีดฟันรถจักรยานยนต์ของตนที่จอดหน้าบ้าน พร้อมเข็นไปจอดหน้าประตูบ้าน แล้วจึงจุดไฟเผารถ จากนั้นนายบุญเสริมได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไป
ส่วนตัวไม่เคยคุยกับผู้ก่อเหตุ และไม่เคยมีปัญหาอะไรกับอีกฝ่าย เชื่อว่าน่าจะเป็นอาการคลั่งยาเสพติด ตอนนี้คนในหมู่บ้านหวาดผวา ห่วงความปลอดภัยครอบครัว จึงไม่อยากให้ผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมา
ด้านนางมิละมะ แหลมเกาะ อายุ 63 ปี พื้นบ้านชั้น 1 และชานบ้านชั้น 2 มีรอยไหม้ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด ตนกับสามีและหลานชายวัย 7 ขวบ นอนอยู่บนบ้านชั้น 2
จากนั้นนายบุญเสริมขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านพร้อมพูดด่า และถีบประตู แล้วราดน้ำมัน จุดไฟเผา พวกตนอยู่ในบ้านไม่กล้าออกมา เพราะกลัวจะเกิดอันตราย โดยนายบุญเสริมเป็นญาติของตน ไม่เคยมีปัญหากัน คิดว่าน่าจะก่อเหตุเพราะหลอนยาเสพติด
ด้านนายเอกพงศ์ จีนกลับ อายุ 24 ปี ผู้บาดเจ็บอีกราย มีรอยแดงที่ศีรษะด้านขวา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถจักรยานยนต์ไปเติมน้ำมันที่ร้านค้าของนายเกียรติศักดิ์ หลังเติมน้ำมันเสร็จได้ไปนั่งรอเพื่อนที่ศาลาข้างร้านค้า
นายบุญเสริมก็ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่ร้านค้า ก่อนใช้ของแข็งบางอย่างตีที่ศีรษะของตน ตนจึงรีบวิ่งหนี เพราะกลัวจะโดนตีซ้ำ โดยที่ผ่านมาตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับนายบุญเสริม เพราะอีกฝ่ายไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เชื่อว่าน่าจะเก็บกดบางอย่างจึงก่อเหตุดังกล่าว
ด้านพนักงานสอบสวน สภ.คลองขนาน ระบุว่า เบื้องต้นได้จับกุมบุญเสริม กูลดี อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมแจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น พยายามฆ่า ทำให้เสียทรัพย์ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาผู้ต้องหาเคยก่อเหตุทำร้ายผู้อื่น แต่ผู้เสียหายไม่ติดใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปรักษาเนื่องจากมีอาการทางประสาท ก่อนออกมาก่อเหตุดังกล่าว
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านนายประกิจ กูลดี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 พ่อของนายบุญเสริม ผู้ก่อเหตุ พบว่าปิดบ้านเงียบ มีเพียงนางอร (นามสมมติ) อ้างว่าเป็นญาติของผู้ต้องหา เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากเจ้าของบ้านที่ถูกเผาบางหลังชอบกลั่นแกล้งนายบุญเสริม เพราะนายบุญเสริมเป็นคนตรง พูดจาโผงผาง ประกอบกับมีอาการทางประสาท อีกฝ่ายมักจะไปก่อกวนที่บ้านนายบุญเสริมตอนกลางคืน ทั้งเบิ้ลรถจักรยานยนต์ และทำเสียงดังให้นายบุญเสริมตกใจกลัว จนกลายเป็นความเครียดสะสม จนตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
นอกจากนี้ นายก่อเฉด ผู้บาดเจ็บที่เคยถูกนายบุญเสริมตีศีรษะ เพราะอีกฝ่ายเข้าไปขโมยปลาหัวตะกั่วที่นายบุญเสริมเลี้ยงไว้ที่บ้านหลายครั้ง จนนายบุญเสริมทนไม่ไหว หลังจากนั้น กลุ่มที่ไม่ชอบนายบุญเสริม และไม่ชอบนายประกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ก็ตัดสินใจล่ารายชื่อพยายามจะถอดถอนนายประกิจออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยนายประกิจตั้งใจจะลาออกอยู่แล้ว แต่ขอสะสางปัญหาก่อน ยืนยันว่านายบุญเสริมไม่ได้ไประรานใครก่อน ยอมรับว่านายบุญเสริมติดยาเสพติดจริง แต่การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผล