กรณีวันที่ 12 ก.ค. 64 เวลา 20.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างแดนดินธรรมสถานรับแจ้งจาก สภ.สว่างแดนดิน มีเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายที่บ้านหนองทุ่ม ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 30 ปี ทราบชื่อคือนายวรวุฒิ กาลวิบูลย์ หรือ แหลม อายุ 30 ปี มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณใบหน้า ศีรษะ แผ่นหลัง และมีแผลฉีกขาดตามร่างกายที่แขนขวา ใบหน้าด้านซ้าย แผ่นหลังจากอาวุธมีด
ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อ นายทวีวุฒิ กาลวิบูรณ์ หรือ กล่ำ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด วันที่ 13 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ บ้านหนองทุ่ม ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว วันนี้ได้เป็นตั้งโลงศพผู้ตายไว้มี่หน้าบ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ส่วนจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณข้างบ้าน คือจุดที่นายทวีวุฒิ ลงมือก่อเหตุฟันน้องชาย ไม่พบคราบเลือดตามพื้นดิน เนื่องจากครอบครัวผู้ตายได้นำน้ำมาเทล้างเรียบร้อยแล้ว
นายสุรัตน์ กาลวิบูลย์ อายุ 61 ปี พ่อของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.00 น. นายแหลม ผู้เสียชีวิตได้ซื้อเหล้ามาดื่ม แล้วเกิดอาการเมาคลั่งอาละวาด ทำร้ายข้าวของในบ้าน โดยการพังตู้จนกระจกตู้แตก จากนั้นยังใช้ท่อนไม้ไปตีประตูไม้ด้านหลังบ้าน จนแผ่นไม่แตกหัก 1 แถวอีกด้วย ตัวเองจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สว่างแดนดิน ให้มาคุมตัวลูกชายไปสงบสติอารมณ์ พอลูกชายรู้ว่าตัวเองโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เดินถือท่อนไม้จะมาทำร้ายตัวเอง ตัวเองจึงใช้นิ้วชี้หน้านายแหลมบอกว่า "ลองเข้ามาสิ" นายแหลมจึงไม่กล้าเข้ามา และเดินถือท่อนไม้จะไปตีนายกล่ำ พี่ชาย ตอนนั้นนายกล่ำนั่งใช้มีดที่ก่อเหตุ เหลาไม้ไผ่เพื่อทำคันเบ็ดอยู่
ขณะที่นายแหลม เดินถือไม้เข้าไปหาพี่ชาย นายแหลมได้พูดว่า "มึงจะเอากับกูไหม" พี่ชายเห็นน้องชายถือไม้เข้าไปหา ก็ได้ลุกขึ้นยืนและใช้มืดอีโต้ที่อยู่ในมือ ฟันเข้าตามร่างกายน้องชายหลายครั้ง ตัวเองและภรรยาพยายามตะโกนบอกนายกล่ำว่า "พอแล้ว พอแล้ว" กระทั่งนายแหลม นอนแน่นิ่งหมดสติไปกับพื้น นายกล่ำก็เดินไปนั่งข้างบ้านเพื่อรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่ได้หลบหนีไปไหน
สำหรับนายกล่ำ ผู้ก่อเหตุ เป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่เคยมีนิสัยโหดร้ายมาก่อน ที่นายกล่ำก่อเหตุเพราะว่าเขาเหลืออดกับพฤติกรรมน้องชาย และทำไปเพื่อป้องกันตัว ตัวเองเข้าใจที่ลูกชายก่อเหตุ สำหรับนายแหลม ผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว แต่นายแหลมจะชอบเมาแล้วทำร้ายข้าวของในบ้าน ตัวเองยืนยันว่าตัวเองรักลูกทุกคน ไม่ได้เข้าข้างใคร ส่วนนายกล่ำ ผู้ก่อเหตุ ตัวเองก็ไม่ประกันตัวลูกชาย เพราะไม่มีเงิน คงให้ลูกชายรับโทษตามกฎหมาย
นางแดง กาลวิบูรณ์ แม่ของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายวรวุฒิเกิดอาการเมาคลั่ง ทำร้ายข้าวของในบ้าน ทั้งตู้เสื้อผ้า และประตูหลังบ้านจนพัง จากนั้นได้ถือไม้เข้าไปหาพี่ชาย เพื่อจะทำร้าย แต่พี่ชายได้ชิงใช้มีดอีโต้ก่อเหตุก่อน จนนายวรวุฒินอนแน่นิ่งเสียชีวิต ตอนเกิดเหตุตัวเองพยายามตะโกนให้นายทวีวุฒิหยุดทำร้ายร่างกายน้องว่า "อย่าทำ อย่าทำน้อง" แต่ทวีวุฒิก็ไม่ฟัง ได้ใช้มีดกระหน่ำฟันน้องชายจนเสียชีวิต
สำหรับวรวุฒิ และทวีวุฒิ พี่น้องไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน นายวรวุฒิจะชอบดื่มเหล้าเมา ส่วนทวีวุฒิจะเป็นคนเงียบ ซื่อ ๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ตัวเองไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้ ที่ผ่านมาตัวเองก็ไม่มีลางสังหรณ์ว่าลูกชายจะมาเสียชีวิตแบบนี้ ตัวเองอภัยให้นายทวีวุฒิ ผู้ก่อเหตุ เพราะนายวรวุฒิก็ได้ตายไปแล้ว แต่ตัวเองก็คงไม่มีเงินไปประกันตัวลูกชาย
ด้านนางสาววิไลพร จะนทร์โสม ภรรยาคนตาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 19.00 น. ตัวเองได้ทราบข่าวว่าสามีถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตยอมรับว่าเสียใจมาก ที่ผ่านมาสามีเป็นคนนิสัยดี ทำงานเลี้ยงครอบครัว ชอบดื่มเหล้าเมา และโวยวายบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายตน ตนไม่ได้โกรธนายทวีวุฒิที่เขาก่อเหตุฆ่าสามีตน เพราะรู้ว่าสามีอารมยณ์ร้อน และเป็นฝ่ายไปอาละวาดกับผู้ก่อเหตุก่อน ก่อนหน้านี้ตัวเองก็เคยเตือนสามีมาแล้วให้ระมัดระวังเรื่องการใช้อารมณ์ เวลาเมาก็ให้นอน อย่าไปกวนใคร
เมื่อวานนี้ก่อนจะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 16.00 น. สามีได้หอมแก้มตัวเอง 1 ครั้ง ซึ่งสามีไม่เคยหอมแก้มตัวเองแบบนี้มาก่อน และบอกจะไปหาพ่อแม่ที่บ้านอีกหลัง กระทั่งสามีมาเสียชีวิต สามีทำงานรับจ้าง หาเงินเลี้ยงครอบครัว เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองก็เหมือนขาดเสาหลักของครอบครัวไป
สำหรับความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหานายทวีวุฒิ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ต่อไป