จากกรณี นางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี หายออกจากบ้านในพื้นที่ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 เวลา 7.30 น. โดยขับรถยนต์กระบะวีโก้ สีบรอนซ์เทา พร้อมเงินสดราว 1 แสนบาท เพื่อไปซื้อสินคามาขายที่ร้านชำแล้วหายตัวไป
ครอบครัวไปแจ้งความที่ สภ.ย่อยพระลับ ก่อนมาเจอกลายเป็นศพถูกทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทาง ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ท้องที่ สภ.บ้านฝาง ล่าสุด พบเบาะแสชายเสื้อแดงขับรถยนต์ของผู้ตาย และมีสายโทรศัพท์จาก นาย ส. โทรหาผู้ตายด้วยนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ล็อกเป้ามือฆ่าแม่ค้าหมกป่าชิงรถ ฟันธงลงมือมากกว่า 1 เผยพิรุธเซียนไฮโลย่องสืบข่าวก่อนเจอศพ
- เจอแล้ว! กระบะสาวถูกฆ่าหมกป่าชิงเงินแสน ผัวสงสัยก๊วนไฮโล อึ้งรอยเลือดโผล่วัดใกล้จุดเจอศพ
วันที่ 14 ก.ค. 64 พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผู้กำกับ สภ.บ้านฝาง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ออกหมายจับแล้ว 6 คน เป็นชาย 5 หญิง 1 ประกอบด้วยนายประสิทธิ์ หรือ สมชาย, นายพนม นายหน้าหาคนซื้อรถ, นายวริศ คนขับรถ ชายเสื้อแดงในรถของผู้ตายตามกล้องวงจรปิด และนายสราวุฒิ กับพวกอีก 2 คน ทำหน้าที่ย่อยสลายรถเพื่อส่งออก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชุดสืบเร่งติดตามตัวนายประสิทธิ์มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน มีการคุมตัวแล้ว 5 คน ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับคดีรถ ปฏิเสธรู้เห็นการตายของนางกันนิกา ซึ่งซัดทอดไปที่นายสมชายทั้งหมด ส่วนไทม์ไลน์การเคลื่อนย้ายรถ ทราบว่าหลังจากที่รถถูกนำมาจากผู้ตาย ได้ถูกส่งต่อไปหลายมือก่อนจะส่งออกประเทศกัมพูชาในวันที่ 10 ก.ค. 64 ทำให้รถออกนอกประเทศก่อนที่ตำรวจจะทราบเหตุการตาย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ข้อมูลวำคัญทางคดีว่า เบื้องต้นตำรวจแกะรอยรถโตโยต้า วีโก้ แล้ว หลังจากรถถูกนำไปขายในตลาดมืด ซึ่งเป็นแก๊งรับซื้อรถที่ถูกโจรกรรม ก่อนรถจะถูกส่งต่อไปยัง จ.นครราชสีมา และถูกส่งไปอีกทอดที่ จ.ชัยภูมิ จากนั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานรถกลับมาในไทย ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขาย เจ้าหน้าที่มีการนำตัวมาสอบปากคำแล้วนายสมชายเกี่ยวข้องแน่นอน เพราะมีเส้นทางทางการเงินจากการขายรถเข้าบัญชีของนายสมชาย
นางจอย (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ เปิดเผยว่า ตนเองถูกนำตัวมาสอบช่วงบ่าย โดยตำรวจเพียงสอบถามหานายสมชายเท่านั้น ตนเองยอมรับว่าเคยรู้จักกับนายสมชาย ตนเคยไปรับจ้างทำนาที่บ้านของนายสมชายหลายสิบปีก่อน ตนยืนยันว่าไม่ได้ตดต่อกับนายสมชาย เพราะเป็นคนชอบปิดเครื่องโทรศัพท์ หลังจากที่เลิกรับจ้างทำนา ก็ไม่ค่อยได้เจอกับนายสมชายเลย
ทีมข่าวมาบ้านนายสมชาย นางอ้อน (นามสมมติ) ญาติของนายสมชายเปิดเผยว่า ส่วนตัวยังไม่สามารถติดต่อนายสมชายได้ ยอมรับว่าเป็นห่วง เมื่อวานมีข่าวลือว่าจับคนร้ายได้ ตนเองและครอบครัวยอมรับว่าหายห่วงเพราะหากมีการคุมตัวนายสมชายไว้จริง ครอบครัวก็จะไปเยี่ยมไปหา ที่ห่วงเพราะกลันายสมชายจะคิดสั้น หากเครียดมากไม่รู้จะไปทางออกจุดไหน ก็กลัวจะฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่ครอบครัวกังวล
ส่วนตัวยืนยันว่าหากนายสมชายผิด ขอให้รับผิด คงไม่เข้าข้าง แค่เพียงครอยครัวไม่อยากจะเชื่อว่า นายสมชายจะก่อเหตุได้ หากถูกจับจริงยังไม่ได้คิดเรื่องประกันตัว ต้องคุยกันในครอบครัวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ครอบครัวได้คุยกับชาวบ้านหลายคน ก็ยังยืนยันว่าช่วงวันที่ 9-11 ก.ค. 64 ก็มีคนเห็นนายสมชายอยู่ตลอด จึงไม่รู้ว่าไปก่อเหตุได้อย่างไร นายสมชายไม่ได้มีภาระอะไร หากจะมีหนี้หรือใช้เงิน ก็คงจะใช้ไปกับเรื่องการพนัน ไม่ได้มีอย่างอื่น
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านในหมู่บ้านเดียวกับนายสมชาย ซึ่งระบุว่ามีสาวใหญ่ชื่อนาง อ. ที่คบหากับนายสมชายอยู่ ทีมข่าวเดินทางมาถึงลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว อยู่ท้ายหมู่บ้าน มีวงจรปิด นายเอ็ม (นามสมมติ) ลูกชายของ อ. ให้ข้อมูลว่านายสมชายเดินทางมาที่บ้านของตนเองบ่อยจริง ล่าสุดที่ตนเองจำได้คือเข้ามาช่วง 10.00-11.00 น. ของวันที่ 12 ก.ค.64 ก่อนจะออกไปหลังจากเข้ามาได้ 30 นาที จุดนี้กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้
ตอนมาก็มาปกติ เท่าที่รู้นายสมชายชอบมานั่งดื่มเบียร์ทั่วไป วันดังกล่าวตนเองอยู่ในห้อง แต่เท่าที่ได้คุยกับแม่ไม่มีอะไรที่เป็นพิรุธว่านายสมชายเกี่ยวข้องกับการฆ่าคน หลังมีข่าวออกไปเกี่ยวกับนายสมชายก็มีชาวบ้านมองครอบครัวตนเองด้วยสายตาที่ไม่ดี ส่วนตัวตำรวจมาที่บ้านตนแล้ว มาเอากล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ พร้อมกับเชิญตัวแม่ตนเองไปสอบปากคำ ตนเองไม่ทราบรายละเอียด และทราบว่ามีการยึดกระเป๋าใส่ของของนายสมชายที่ทิ้งไว้หน้าบ้านตนด้วย
นายบอม (นามสมมติ) ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองได้อยู่กับนายสมชายในวันที่ 11 ก.ค. 64 ช่วงราว 11.00 น. ตนเองเอาขนมจีนมาให้นายสมชายในหมู่บ้าน โดยนายสมชายท่าทีปกติ ตนเองสอบถามเรื่องนางกันนิกาว่าทราบเรื่องหรือไม่ ตอนนั้นเป็นช่วงเจอศพพอดี ทำให้นายสมชายหยิบโทรศัพท์โทรสอบถามใครสักคน ทำนองว่าศพที่เจอใช่หรือไม่ นายสมชายไม่มีท่าทีตกใจ หรือว่าดูวิตกกังวล ตนเองอยู่กับนายสมชาย ราว 30 นาที ไม่พบความผิดปกติใด ๆ
นางแอ๋ว (นามสมมติ) ชาวบ้านที่สนิทกับนายสมชาย เปิดเผยว่า นายสมชายปกติจะมาหาตนที่บ้านตนทุกวัน เพื่อนำเงินค่าจ่ายหนี้รายวันมาให้ตน วันละ 500 บาท ทราบว่าไปกู้รายวันมา 10,000 บาท และใช้จนหมดแล้ว ก่อนจะไปกู้มาเป็นรอบที่ 2 ซึ่งส่งเงินมาตั้งแต่ 5 มิ.ย. เท่าที่ทราบไม่ได้มีหนี้ที่ไหนอีก
นายสมชายจะมาหาตนทุกวัน ช่วง 09.00-10.00 น. เพื่อนำเงินมาฝากที่ตน วันที่ 9 ก.ค. ก็เข้ามา 11.00 น. และล่าสุดคือวันที่ 12 ก.ค. ไม่เคยพูดอะไรถึงนางกันนิกา โดยวันที่ 11 ก.ค. ช่วงเวลา 15.00 น. ก็มานั่งกินเบียร์อยู่ที่บ้านตน ตอนนั้นตนก็ยังถ่ายรูปเอาไว้ด้วย ที่นายสมชายเอาเงินมาฝากตนนั้นเพราะรู้จักกันมานาน และคนเก็บหนี้รายวันก็จะมาเก็บที่ตน ซึ่งนายสมชายไม่เคยขาดส่ง มีขาดไปช่วง 13-14 ก.ค. 64
ตนเองไม่เชื่อว่านายสมชายจะฆ่าคนได้ ปลาเขาก็ไม่ฆ่า ตอนนี้ตนไม่รู้นายสมชายไปอยู่ไหน อีกอย่างนายสมชายจะมาหาตนขับรถเพียงรถตู้และรถจักรยานยนตืมา ไม่เคยมาด้วยรถกระบะ
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านที่ นายสมชาย เคยมาเล่นพนัน คุณแจง (นามสมมติ) เป็นสาวประเภท 2 เปิดเผยว่า ตนเองยอมรับว่ามีการนัดหมายเล่นพนันกับ ส. บ่อยครั้งจริง เป็นการนัดในกลุ่มเดิม ๆ วันที่ 9 ก.ค.64 ช่วงเย็น นายสมชายโทรหาตน สอบถามว่าจะมีเล่นไฮโลหรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบไปว่ามี
จากนั้นช่วง 20.00 น. นายสมชายก็มาเล่นแต่ไม่นานก็กลับ แต่ก็มีการพูดคุยเรื่องนางกันนิกาอยู่บ้าง สมชายไม่มีท่าทีพิรุธ ตนเองทราบว่าวันนั้น ส. มีเงินราว 1,000 บาทเท่านั้น ไม่ได้มีเงินเยอะ
วันที่ 10 ก.ค. สมชายก็โทรหาตน สอบถามถึงวงพนันเหมือนจะมาเล่น แต่วันดังกล่าวไม่มีการเข้ามา ต่อมา 11 ก.ค. สมชายก็ยังติดต่อมา โดยพี่สาวตนเองเป็นคนพูดคุย หลังจากวันที่ 11 ก.ค. ก็ไม่ได้ติดต่ออีกเลย ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาในวงพนัน ไม่เคยทะเลาะ ตนก็ไม่เจอสมชายตั้งแต่มีข่าว
ที่วัดมิ่งโพธิ์วนาราม งานศพของนางกันนิกา จำปา ช่วงเวลา 13.00 น. สามี ลูกเขยคนเล็ก และญาติรวม 3 คน บวชหน้าไฟให้ผู้ตาย ก่อนเริ่มพิธีมีการสวดเทศนาธรรม อุทิศกุศลให้ผู้ตาย บรรยากาศมีชาวบ้านเดินทางมาจำนวนมาก จากนั้นให้ผู้มาร่วมงานน้ำดอกไม้จันทน์วางเคารพศพ ก่อนเข้าพิธีเผาจริง
บรรยากาศช่วง 14.30 น. มีการเคลื่อนโลงบรรจุร่างผู้ตายขึ้นที่เมรุ ลักษณะเป็นการเผาด้วยถ่าย ราดน้ำมัน ไม่มีการเปิดโลงให้ดูหน้าผู้ตาย โดยให้เพียงผู้ชายขึ้นไปเข็นศพเท่านั้น ส่วนลูกสาวยืนเฝ้ามองอยู่ด้านล่าง โดยเฉพาะนางศิริวิภา ลูกสาวคนโตยืนร้องไห้ สายตามองมาที่หีบศพของผู้เป็นแม่ จากนั้นลูกเขยคนโตเคาะโลงบอกแม่ ญาติช่วยกันเข็นหีบศพเข้าเตาเผา ก่อนปิดประตู จากนั้นลูกเขยคนโต และญาติ ได้ขับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย วนรอบเมรุ 3 รอบ มีการบีบแตรเป็นระยะ
นางศิริวิภา คำค้อ ลูกสาวคนโตผู้ตาย เปิดเผยว่า ครอบครัวยังคงสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะสูญเสียเสาหลัก ไม่มีใครทำใจได้ ตนเองยังคิดถึงแม่ ที่ผ่านมาจะมีแม่คอยช่วยเหลือสนับสนุนตลอด วันนี้แม่จากไปโดยไม่ได้ตั้งตัว ตนเองรู้สึกทำใจไม่ได้ ถึงวันนี้แม่ยังไม่มาหาตน ตนเองก็ขอให้แม่ไปสู่สุคติ ไม่ต้องห่วงน้อง ตนเองจะดูแลเอง ตนอยากให้แม่ไปสบาย หมดห่วง เรื่องคดีตอนนี้ยังไม่รู้อะไรเลย น้องเป็นคนจัดการ ตนอยากให้จับคนร้ายให้ได้ หากคนร้ายมีการขายรถได้อย่างรวดเร็วเชื่อว่าวางแผนมาแล้ว และโหดมากที่ทำกับผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนี้