เมื่อเวลา 13.50 น. ของวันที่ 14 ก.ค. 64 ตำรวจ สภ.แม่เจดีย์ จ.เชียงราย ได้รับเเจ้งว่ามีผู้พบศพริมน้ำแม่น้ำลาว ภายในซอยบ้านบกขอนซอย 1 พื้นที่ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือนายคำอ้าย สายใจดี อายุ 67 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดฟันศีรษะ แล้วนำศพโยนลงแม่น้ำ
จุดที่โยนศพลงแม่น้ำห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร ใกล้กับศพพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ผู้ก่อเหตุได้พยายามขับลงแม่น้ำเพื่อจะทำลายหลักฐาน แต่ทางลงลักษณะเป็นโคลนและพงหญ้าเยอะ จึงไม่สามารถนำลงไปในน้ำได้
ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุคือ นายมานพ อินทนันท์ อายุ 41 ปี เป็นชาวบ้านในตำบลเดียวกัน เป็นหลานของผู้ตาย ได้ก่อเหตุฆ่าลุงตัวเอง พบว่ามีประวัติเคยติดคุกคดีลักทรัพย์และยาเสพติด หลังพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตลักทรัพย์และเสพยาอีก ซึ่งชาวบ้านไม่กล้าเข้าใกล้ ถือเป็นบุคคลอันตราย กระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้
ผลจากการตรวจร่างกายพบว่ามีสารเสพติด พนักงานสอบสวนจึงมีการแจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วยฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า)
ล่าสุดวันที่ 15 ก.ค. 64 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.แม่เจย์ดี นำตัวนายมานพ อินทนันท์ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหา ไปทำเเผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ริมแม่น้ำลาว เป็นจุดที่นายมานพก่อเหตุใช้มีดฟันศีรษะนายคำอ้ายจนเสียชีวิต ก่อนจะลากศพทิ้งลงแม่น้ำ ระยะทางการลาก 7 เมตร ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของผู้ตายไปทิ้งลงน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร ก่อนที่ศพจะลอยตามน้ำไปติดกอหญ้า ข้างกับจุดที่ทิ้งรถจักรยานยนต์ จนมีชาวบ้านมาพบ
ส่วนผู้ต้องหาหลังจากก่อเหตุเสร็จ ได้ขี่รถจักรยานไปเก็บผัก ล้างคราบเลือดที่แม่น้ำลาว ระยะทางห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.7 กิโลเมตร ก่อนจะขี่รถจักรยานกลับมาที่บ้านของตัวเอง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 เมตร ก่อนถูกตำรวจตามมาจับตัวได้
หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ตำรวจได้นำตัวกลับไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.แม่เจย์ดี นายมานพ ผู้ต้องหา ซึ่งยังอยู่ในอาการหลอนยาเสพติด พูดจาวกวน อ้างว่าสาเหตุที่ทำไปเพราะบัลดาลโทสะ
เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้นำวัวมาผูกกินหญ้าอยู่ที่ข้างบ้านของตน แล้ววัวของผู้ตายชอบเดินมากัดกินผักที่ปลูกไว้หลังบ้าน ตนเองจึงเอาก้อนหินขว้างวัวไปหลายครั้ง ทำให้ผู้ตายเกิดความไม่พอใจ เดินมาต่อว่า ด้วยความโมโหจึงใช้มีดที่พกติดตัวไว้อยู่เเล้ว ฟันไปที่ศีรษะของผู้ตาย 1 ครั้ง จังหวะนั้นผู้ตายยังใช้ไม้ตีคืนที่ศีรษะ 1 ครั้ง ก่อนที่ผู้ตายจะล้มลง "หลังจากถูกฟันครั้งเเรก ผมเห็นเขานอนชักดิ้น ตอนนั้นคิดว่าคงไม่รอด จึงฟันซ้ำอีก 2-3 ครั้ง จนนิ่ง แล้วลากศพทิ้งลงแม่น้ำ" ยอมรับว่ามีการเสพยาบ้า ก่อนก่อเหตุเพียง 1 วัน
นายมานพ กล่าวว่า "ผมเสียใจกับเหตุการที่เกิดขึ้น แต่ถ้าพี่โดนด่าแบบผม พี่จะอดไหวหรือเปล่า ผมได้ยินเสียงด่าทั้งวันทั้งคืน จนต้องเอาสำลีอุดหูไว้ แต่ก็ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ผมจะไม่ทำอีกเเล้ว หลังจากนี้ถ้าพ้นโทษ ก็ตั้งใจว่าจะบวช"
นางฟองจัน สลาปัน อายุ 61 ปี น้องสาวของผู้ตาย บ้านอยู่ห่างจากจุดที่ผู้ตายถูกฟัน 50 เมตร เปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. พี่ชายได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดไว้ที่ข้างบ้านของตน หอบหญ้าลงจากรถนำไปให้วัวที่ผูกอยู่ริมแม่น้ำ หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นนายมานพ ผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานผ่านหน้าบ้าน แล้วพูดว่า "ถ้าเจอใครกูจะฆ่าให้ตายให้หมดเลย" ก่อนจะจอดรถไว้ข้างรถของพี่ชาย ซึ่งตนเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าออกจากบ้าน
จากนั้น 20 นาทีต่อมา เห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายออกไป แล้วก็เดินกลับมาที่เดิม ขี่รถจักรยานของตัวเองออกไป ตอนนั้นก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ไม่ทราบว่าพี่ชายถูกฆาตกรรม เพราะขณะเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เลย ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จนกระทั่งมีชาวบ้านวิ่งมาตาม บอกว่าพี่ชายถูกฆ่าตาย ศพลอยอยู่ในน้ำ ตนเสียใจมาก ไม่คิดว่าว่าก่อเหตุจะกล้าฆ่าลุงของตัวเอง
สำหรับตัวนายมานพ ผู้ต้องหา พ่อกับเเม่ได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว ที่ผ่านมาก็จะอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง มีผู้ตายคอยให้ความช่วยเหลือ ให้ข้าว ให้เงินใช้ ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ลง อีกทั้งยังมีนิสัยขี้ขโมย บ้านของตนเคยถูกขโมยไก่และพืชผักสวนครัวอยู่บ่อยครั้ง หากไปด่า นายมานพก็จะขู่ว่า "เดี๋ยวกูจะเอามีดปาดคอมึง" ทำให้ตนเองเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้ายุงกับนายมานพอีก อย่างไรก็ตาม อยากให้โดนประหารชีวิต เพราะหากปล่อยออกมาก็กลัวจะไม่ปลอดภัย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่เคยถูกผู้ต้องหาขโมยทรัพย์สิน นายฤทธิ์ บุญเต็ม อายุ 55 ปี เปิดเผยว่า เมื่อ 5 เดือนก่อน เคยถูกผู้ต้องหาขโมยรถจักรยานยนต์ไปขาย มูลค่ากว่า 30,000 บาท เเต่ตอนนั้นตนเองไม่ได้เเจ้งความ เนื่องจากความสงสาร เพราะเห็นว่าผู้ต้องหาโดดเดี่ยวไม่มีใคร พ่อแม่ตายหมด หลังจากนั้นก็ไม่สำนึก กลับตระเวนลักเล็กขโมยน้อยไปทั่ว เเละไปขโมยเเบตเตอรี่รถแบ็กโฮของชาวบ้าน จนถูกเเจ้งความดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 1 เดือน กลับมาทำพฤติกรรมเดิมซ้ำ ๆ อีก คราวนี้หนักกว่าเดิม เพราะหากใครที่ถูกขโมยของแล้วไปด่า นายมานพก็จะขู่ฆ่าปาดคอ จนชาวบ้านต่างหวาดกลัว
จนกระทั่งนายมานพ ก่อเหตุฆาตกรรมผู้ตาย ซึ่งตนรักเเละเคารพเปรียบเหมือนพ่อคนหนึ่ง ตนโกรธแค้นมาก อยากให้ได้รับโทษประหารชีวิต หากนายมานพยังไม่โดนประหาร แล้วพ้นโทษออกมา ตนจะฆ่ามันด้วยมือของตนเอง เพราะทนไม่ได้หากมันจะไปฆ่าใครอีก