เมียเดือดบุกตบสาวน้อยคาส้วม อัดคลิปแฉล่อนจ้อน หนุ่มอ้างแค่จ้างนวดคลายเส้น (คลิป)

จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "จึงจริง jung jing" แชร์คลิป เมียหลวงแอบตามไปจับหญิงอีกคนของสามีตัวเองที่ห้องพัก โดยพาเพื่อนสาวบุกไปจิกหัว ลากตัวออกมาทำร้ายร่างกาย และถ่ายคลิปประจาน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมากนั้น

วันที่ 15 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี มีห้องให้พักทั้งชั่วคราวและค้างคืน รวมทั้งสิ้น 12 ห้อง ห้องเกิดเหตุเป็นห้องสดท้ายของรีสอร์ต

นายวีระศักดิ์ สันติวุฒิเมธี อายุ 42 ปี เจ้าของรีสอร์ต กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ค.64 เวลาประมาณ 13.00 น. นายหรั่ง (นามสมมติ) ชายที่ปรากฏในคลิป ขับรถเก๋งเข้ามาขอเช่าห้องพักแบบชั่วคราวราคา 200 บาท ซึ่งตนไม่ได้สังเกตว่ามีคนนั่งมาด้วย สักพักประมาณ 30 นาทีต่อมา ตนเห็นเหมือนมีรถกระบะขับมาจอดบริเวณหน้ารีสอร์ต แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็มีรถเก๋งอีกคันขับเข้าไปที่ห้องสุดท้าย

จากนั้น ตนได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะวิวาทกัน เดินออกมาดูก็เหมือนมีแต่ผู้หญิงที่ยืนกันอยู่ข้างหน้า 6-7 คน ตนก็ไม่ได้เข้าไปห้าม เพราะคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องผัวเมีย ประมาณ 5 นาที กลุ่มผู้หญิงที่คาดว่าจะเป็นภรรยาหลวง พร้อมพวกก็กลับออกไปจากรีสอร์ต ส่วนผู้ชายก็ออกไปทีหลัง งตนเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าประตูห้องน้ำพัง จึงให้ฝ่ายชายเป็นผู้จ่ายค่าปรับ 1,500 บาท

ส่วนตัวไม่ได้ตกใจ เพราะคิดว่าปัญหาของผู้ให้เช่าบริการห้องรายวันแบบนี้น่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อย และก็ไม่ได้เข้าไปแจ้งความ เพราะตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายและซ่อมแซมประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากนั้น ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนางสาวน้ำ (นามสมมติ) ภรรยาหลวง ให้ข้อมูลว่า ตนคบหาและจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายกับนายหรั่ง มาประมาณ 10 ปีแล้ว และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 12 ปี คนเล็ก 6 ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเรื่องผู้หญิงมาโดยตลอด ตนก็ให้อภัย เพราะมีลูกด้วยกัน

แต่นับวันนิสัยก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ดูแลลูกเมีย ตนตั้งใจจะหย่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ฝ่ายชายไม่ยอม เพราะมีธุรกิจที่สร้างด้วยกันมาแล้วเป็นสินสมรส ตนไม่ได้ต้องการสมบัติ แต่ต้องการอยู่กับลูกสาว และตัดผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิต เพราะนายหรั่งเคยทำร้ายร่างกายตนหลายครั้ง และด่าทอลูกสาวตัวเองว่า "อย่ามาเรียกกูว่าพ่อ"

วันเกิดเหตุ น้องสะใภ้ของตนไปพบนายหรั่งที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี แต่นายหรั่งหลบหน้า ทำเป็นไม่ทักน้องสะใภ้ จากนั้นน้องสะใภ้จึงโทรมาบอกตนว่านายหรั่งพาผู้หญิงไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ตนจึงรีบขับรถไป เพราะตั้งใจไปถ่ายคลิปเพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า ไม่ได้มีเจตนาจะบุกไปทำร้ายร่างกาย "ตนไม่ได้อยากได้ผู้ชายคืน แต่อยากได้อิสรภาพมากกว่า"

ส่วนผู้ที่ลงมือตบคือน้องสะใภ้ของตน เพราะโมโหแทนตน ตนยืนยันไม่ได้มีการเตรียมการ เป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่เวรกรรมลงโทษ ส่วนผู้หญิงคนดังกล่าวเขาก็รู้อยู่แล้วว่านายหรั่งมีครอบครัว แต่ตนไม่สนใจ ตนต้องการแค่การหย่า ทั้งนี้ ตนได้เตรียมเอกสารทั้งหมดมอบให้กับทนายความเพื่อฟ้องหย่าแล้ว

หลังเกิดเหตุนายหรั่งก็กลับมานอนพักที่ห้องพักในบ้านแบบไม่รู้สึกผิด ตนต้องมีการล็อกประตูขังตัวเองไว้กับลูก เพราะกลัวจะได้รับอันตราย และมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อความปลอดภัยด้วย เบื้องต้น ผู้ชายคนนี้มีวีรกรรมเยอะที่ตนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ตนยืนยันว่าหากเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจะเปิดใจกับอมรินทร์ทีวีเป็นที่แรก

นายหรั่ง เปิดใจว่า ตนรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ใช่ภรรยาน้อย แต่เป็นแค่เด็กที่เรียกให้มานวดเท่านั้น ไม่ได้มีการรู้จักกันมาก่อน ซึ่งวันที่เกิดเรื่องยังไม่มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะถุงยางอนามัยในห้องก็ยังไม่ได้ใช้ หลังจากเกิดเหตุตนก็ไม่ได้พูดคุยกับภรรยาอีก รู้สีกผิดและไม่รู้จะขอโทษกับภรรยาอย่างไร ตอนนี้มีเรื่องกังวลใจในเรื่องการถูกตกเป็นข่าว ค่อนข้างเครียดและเกิดความอับอายแทนครอบครัว

ตนยอมรับในแบบลูกผู้ชายว่าทำผิดจริง ก็ขอโทษกับทุกคนที่ตนเป็นตนเหตุของเรื่อง และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับสังคม ซึ่งตนได้มีการจ่ายค่าปรับในการซ่อมแซมประตูห้องน้ำไปแล้ว ส่วนเรื่องการโดนฟ้องหย่า เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ขอไม่ตอบและให้เป็นเรื่องภายในครอบครัว

นายนิติกร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดต้องดูที่เจตนาว่าการบุกเข้ากระทำการแบบนั้น มีการวางแผนเป็นขั้นตอน หรือแบ่งหน้าที่กันก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้าเป็นการวางแผนมาก่อน ต้องร่วมกันรับผิดชอบร่วมกันหากถูกดำเนินคดี แต่ผู้ที่ลงมือกระทำด้วยการตบผู้หญิงคนในคลิป มีความผิดชัดเจนในข้อหาทำร้ายร่างกาย โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ส่วนการไปทำลายประตูของรีสอร์ตจนได้รับความเสียหาย มีความผิดในเรื่องของการทำให้เสียทรัพย์ เป็นความผิดที่สามารถยอมความได้ หากมีการเยียวยาค่าเสียหาย และผู้เสียหายไม่มีการติดใจเอาความกัน

ส่วนการนำคลิปไปเผยแพร่ในสื่อสังคมโซเชียลมีเดีย เป็นความผิดในฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เนื่องจากการที่ใครจะไปนอนกับใคร หรือเป็นภรรยาน้อยใครเป็นเรื่องส่วนตัว ประชาชนไม่ได้ผลประโยชน์ จากการลงคลิปในลักษณะนี้ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ