เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.(หญิง) บุญสิตา หาสิน รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรม และแพทย์เวร รพ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านมีรถพ่วงข้างขายชาไข่มุกและน้ำผลไม้ปั่นจอดอยู่ ข้างรถพบร่างนายสรรเสริญ อายุ 57 ปี ชาวจ.เชียงราย จากการตรวจสอบเพิ่มเติมภายในบ้าน ยังพบร่างของนางนิตยา อายุ 52 ปี ผูกคอตัวเองเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างของทั้งคู่ส่งไปชันสูตรที่ รพ.ชลบุรี และรอให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญพิธีทางศาสนาต่อไป
จากการสอบถามนางพรทิพย์ จันทร์ผง อายุ 42 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ทั้งคู่มีอาชีพค้าขาย แต่ระยะหลังมาตั้งแต่มีโรคโควิด-19 ก็ขายของไม่ได้ ไม่ค่อยมีรายได้ แต่ที่ทั้งคู่กลัวที่สุดคือเงินกู้รายวัน ที่น้องของภรรยายืมไปแล้วหนีไม่คืน ทำให้คนปล่อยเงินกู้ต้องมาทวงทุกวันกับสามีภรรยาคู่นี้ เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนค้ำประกันให้น้องสาว จำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งจะต้องจ่ายวันละ 1 พันบาท วันไหนไม่มีจ่ายก็ถูกแก๊งทวงหนี้ด่าและไล่ให้ไปตายทุกครั้ง ตนก็ไม่คาดคิดว่าทั้งคู่จะตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตแบบนี้
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ แก๊งทวงหนี้ดังกล่าวได้โทรศัพท์เข้ามา นางพรทิพย์ จึงรับสายแทนจนทะเลาะกับแก๊งทวงหนี้ โดยตะโกนเสียงดังสนั่นว่า "ให้เข้ามาดูสิ่งที่ต้องการ เห็นไล่เขาไปตายทุกวัน พอวันนี้เขาตายแล้วเข้ามาดูเลย สะใจหรือยัง พอใจหรือยัง" จากนั้นก็ถูกตัดสายทันที
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบธูปปักอยู่ที่ข้าง ๆ เสาไฟฟ้าหน้าบ้าน 1 ดอก ส่วนภายในบ้านพบรถพ่วงข้างใส่หลังคาจอดอยู่ ซึ่งเป็นรถที่ผู้ตายใช้ขายน้ำปั่น-ชานมไข่มุก และพบรองเท้าหน้าบ้าน พร้อมเก้าอี้สีแดง และน้ำเงินวางตรงจุดที่นายสรรเสริญ เสียชีวิต
ทีมข่าวพบกับนายชัยเจริญ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ทั้ง 2 คนเป็นคนเงียบ ๆ ทำมาหากินปกติ โดยในทุก ๆ วันช่วงเช้าทั้งคู่จะออกมาล้างภาชนะขายของหน้าบ้าน ก่อนออกไปขายน้ำปั่น เช่นเดียวกับเมื่อเช้าตนก็ยังเห็นทั้งคู่หน้าบ้านเตรียมของไปขาย และตนก็ไม่ได้สังเกตอะไรต่อ จากนั้นเวลาประมาณ 08.00 น. มีชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าบ้านผู้ตาย ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นแก๊งทวงหนี้นอกระบบ เมื่อตนเดินไปถึงบ้านของสามีภรรยาคู่นี้ พบว่าผู้ชายผูกคอหน้าบ้าน และผู้หญิงผูกคอในบ้าน ตนรู้สึกตกใจมาก ๆ ภาพยังคงติดตาของตน
สำหรับแก๊งทวงนี้ จากที่ตนสังเกตเมื่อขี่รถมาถึงหน้าบ้าน ก็จะด่าทอและต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง “ถ้าป้าหนีไปไม่ใช้หนีก็ได้ แต่ถ้าไม่มีก็ไปตาย” ตนได้ยินแบบนี้จนชินไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การค้าขายตอนนี้ค่อนข้างแย่ ทั้งคู่น่าจะเครียด และคาดว่าฝ่ายภรรยาน่าจะผูกคอตายก่อน จากนั้นสามีจึงผูกคอตายตาม นอกจากนี้ยังพบว่ามีกระดาษเขียนเบอร์โทรติดต่อญาติไว้ด้วย
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ นิติเวชรพ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่บอกกับทีมข่าวว่า ขณะนี้ทุกเคสจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนส่งมอบให้ญาติ ดังนั้นศพของนายสรรเสริญ อายุ 57 ปี และนางนิตยา อายุ 52 ปี สามารถติดต่อรับศพได้ในวันที่ 19 ก.ค.64 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เพราะขณะนี้ยังไม่มีญาติติดต่อเข้ามา
ทีมข่าวได้พบกับนายดอน (นามสมมติ) ญาตินางนิตยา เปิดเผยว่า ตนทราบว่าทั้งคู่เสียชีวิตเวลาประมาณ 09.00 น. โดยคนรู้จักโทรศัพท์มาบอกให้ทราบ ตอนนั้นทุกคนต่างช็อกกันหมด เพราะช่วงเช้าตนยังได้โทรศัพท์หาน้องสาว เขาพูดกับตนว่า "จะไม่อยู่แล้ว ไม่ไหวแล้ว" และฝากลูกสาววัย 17 ปีให้ตนและพี่น้องช่วยดูแล ตนก็ไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะผูกคอตายจริง ๆ เพราะเขาจะพูดแบบนี้มาเรื่อย ๆ กว่า 4 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ญาติ ๆ รู้กันหมดว่าน้องสาวเครียดเรื่องรถยนต์ที่เอาไปจำนำไว้ และเป็นหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะหนี้ที่กู้ร่วมกับน้องสาวอีกคน ยอดรวมประมาณ 100,000 บาท และน้องสาวคนที่กู้ร่วมก็หายหน้าหายตาไม่สามารถติดต่อได้ บางครั้งถ้าติดต่อได้ก็จะช่วยเพียง 500 - 1,000 บาท แล้วก็หายเงียบไป อย่างไรก็ตาม ญาติพี่น้องพยายามช่วยเหลือเรื่องเงินเท่าที่จะช่วยได้มาโดยตลอด เพราะญาติก็ถูกเจ้าหนี้ตามทวงเช่นกัน