พ่อค้าส้มตำ หิ้ว จ.ม. โดนขู่ฆ่า ฟ้อง ผบช.น. จี้ฟันก๊วน ตร.ยัดยา ออกจากราชการ (คลิป)

กรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าอาหารอีสาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท โดยอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยัดยาเสพติด และเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ในวันที่ 10 ส.ค. 61 โดยมีผู้เสียหายออกมาร้องเรียนว่าถูกกลุ่มตำรวจ บก.น.1 ชุดเดียวกัน กระทำพฤติกรรมในลักษณะคล้ายกัน ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน : โผล่อีก! แม่เหยื่อแฉ ก๊วนตร.ยัดยา ลดข้อหาแลกเงิน – ผู้การฯ ไม่ป้อง 6 นายอายสื่อ ย่องมอบตัว)

วันที่ 16 ก.ย. 61 เวลา 11.00 น. นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าอาหารอีสาน พร้อมด้วยลูกสาว ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยนายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า เดินทางมาพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร โดยมาตามการนัดหมายของ พล.ต.ต.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ซึ่งในวันนี้ลูกสาวตนก็จะตามมาด้วย

ทั้งนี้ ตนอยากทราบความคืบหน้าเรื่องคดีว่ามีการแจ้งข้อหาแล้วหรือไม่ และอยากให้มีคำสั่งให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 7 นาย ออกจากราชการในระหว่างที่มีการสอบสวน เพราะขณะนี้มีเพียงคำสั่งย้าย ซึ่งตนก็กังวลว่า กลุ่มนายตำรวจจะสามารถมายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้ โดยหากสอบสวนพบว่าไม่มีความผิดจริง จึงให้กลับเข้ามารับราชการใหม่ แต่หากพบมีความผิด ก็อยากให้มีการดำเนินคดีและมีการจำคุก อย่างไรก็ตาม ตนยังคงเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย และกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี จึงได้ปรึกษาทนายแล้วว่า จะไปร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.)

นายศักดิ์ชัย เปิดเผยอีกว่า เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) เวลา 14.00 น. มีจดหมายส่งมาขู่ตน เป็นจดหมายที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด ระบุว่า ชีวิตตนจะไม่ตายดี จะตายเหมือนหมาข้างถนน ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจจนนอนไม่หลับ โดยเรื่องนี้ ก็ได้พูดคุยกับท่าน ผบช.น. แล้วเช่นกัน โดยข้อความขู่ในจดหมาย ระบุว่า “มึง ไอ้ลาวร้อยเอ็ด สุดแสนที่จะสกปรกและซกมก เอ้ย... กูขอให้มึงได้หยุดการกระทำอันชั่วร้ายของมึงและอีลูกสาวของมึง ด้วยการใส่ร้ายป้ายขี้ให้กับลูกของกูว่า ได้ร่วมกันรีดไถเงินของมึงนั้น กูก็อยากจะขอเตือนพวกมึงมาเป็นครั้งสุดท้ายว่าถ้ามึงยังขืนเอานิสัย และสันดานลาวมาเห่าหอนใส่พวกกูต่อไปแล้วล่ะก็ กูก็เห็นจะต้องมอบความบาดเจ็บหรือพิการให้กับพวกมึงในไม่ช้าก็เร็วก็ย่อมจะเป็นไปได้ หรืออาจจะต้องพบกับความตายอย่างหมาข้างถนนก็ย่อมได้นะโว้ยๆๆ ด้วยความปรารถนาดีจาก สำเนา หนูจุ้ย (มือปราบเก่า)” โดยนายศักดิ์ชัย บอกเหตุผลที่นำจดหมายใส่มาในถุงพลาสติกว่า ตนได้โทรศัพท์ปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนาย ที่แนะนำว่าอย่าจับจดหมายอีก จึงได้ใช้ปากกาเขี่ยใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้ เพราะจดหมายอาจมีรอยนิ้วมือของผู้ที่ส่งมาได้

ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเชิญผู้เสียหายเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจ และสอบถามข้อเท็จจริง เนื่องจากเมื่อเห็นข่าวว่าผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็รู้สึกไม่สบายใจ โดยขณะนี้การสอบสวนดำเนินไปได้ประมาณ 70-80% แล้ว ซึ่งครบกำหนด 15 วัน ในวันที่ 24 ก.ย. นี้ ส่วนรายละเอียดของการสอบสวนยังเปิดเผยไม่ได้ นอกจากนี้ สำหรับเรื่องจดหมายขู่ที่ผู้เสียหายได้รับ ได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดยผู้เสียหายจะไปแจ้งความที่ สน.พญาไท หรือ กองบังคับการปราบปรามก็ได้ แต่เบื้องตนตนทราบเรื่องแล้ว และจะมีการติดตามข้อเท็จจริงในส่วนนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ และได้รับปากกับผู้เสียหายแล้ว หากกังวลส่วนใดก็สามารถมาพบตน หรือ พล.ต.ต.เสนิต ได้ตลอดเวลา ซึ่งหากพบว่านายตำรวจกลุ่มดังกล่าว มีความผิดจริง ก็จะมีโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป

จากนั้น นายศักดิ์ชัย พร้อมด้วยลูกสาวก็ได้เข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 โดยมีการพูดคุยกันกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังการพูดคุย นายศักดิ์ชัย เปิดเผยอีกครั้งว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ ได้สอบถามข้อมูล ซึ่งตนก็ได้ให้ไปตามข้อเท็จจริง ภายหลังการพูดคุยรู้สึกสบายใจขึ้น ซึ่งตนจะมาตรวจสอบตามที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ นัดหมายที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ซึ่งหากท่าน ผบช.น. ให้ความเป็นธรรม ก็รู้สึกขอบพระคุณมาก