วันที่ 21 ก.ค. 64 พ.ต.อ.ชินกรณ์ ใจกล้า ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านกระชายน้อย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนคุ้มคลั่งทำลายข้าวของ และทำร้ายพ่อจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่เกิดเหตุพบรถยนต์จอดอยู่ข้างบ้าน ได้รับความเสียหาย กระจกข้างประตูฝั่งคนนั่งข้างแตก ภายในบ้านพบคราบเลือดกระจายทั่วบริเวณ
มีผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายประสมวัตร ยวงรัมย์ อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน ถูกของมีคมแทงเป็นแผลฉกรรจ์ ตามใบหน้าและศีรษะ หมอเย็บทั้งหมด 21 เข็ม ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายวีรพงษ์ หรือ น้อย ยวงรัมย์ อายุ 41 ปี ลูกชายแท้ ๆ ของผู้บาดเจ็บ
โดยความเสียหายในบ้านหลังเกิดเหตุ พบประตูไม้หน้าบ้านแตกหักออกครึ่งบาน หน้าต่างกระจกด้านข้างบ้านแตก 4 ช่อง รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างบ้านได้รับความเสียหาย ส่วนบริเวณด้านในบ้านยังพบคราบเลือดที่ผนังบ้าน พื้นกระเบื้อง และผ้าม่าน
นางพราว (นามสมมติ) ภรรยาของนายน้อย คนก่อเหตุ เล่าว่า กาอนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 20.00 น. สามีได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่บ้าน และเดินถือแท่งเหล็กแหลมไปทุบกระจกรถยนต์ของพ่อ จากนั้นก็เดินไปที่บ้านของนายประสมวัตร ผู้เป็นพ่อ เพื่อขอกัญแจรถยนต์ แต่นายประสมวัตรได้บอกกับลูกชายว่า "เดี๋ยวพ่อหากุญแจให้" จากนั้นสามีตัวเองก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปประมาณ 5 นาที ก็กลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมกับถามนายประสมวัตรว่า "ได้ยังกุญแจ"
จากนั้นก็ใช้แท่งเหล็กทุบประตูบานจนพังครึ่งบาน ตัวเองจึงวิ่งออกมาดูเหตุการณ์เพื่อจะห้ามสามี แต่สามีได้ชี้หน้าตัวเองเอาไว้ จึงไม่กล้าห้าม เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองก็เคยถูกสามีทำร้ายร่างกายมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน ซึ่งสามีพยายามขอเอารถไปขายเพื่อจะเอาเงินมาซื้อไอซ์
จากนั้น ตัวเองก็เห็นสามีวิ่งเข้าไปในบ้านของนายประสมวัตร และได้ยินเสียงแม่ของสามีร้องขึ้นมาว่า "อย่าทำ อย่าทำ อย่าทำ" หลังก่อเหตุเสร็จสามีก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน และกลับมานอนกับตัวเองเวลาประมาณ 02.00 น. แต่ตัวเองก็ไม่กล้าสอบถามอะไรสามีมาก กล้วสามีจะทำร้าย
กระทั่งช่วงเล้าวันนี้สามียังได้คลั่งทำลายกระจกหน้าต่างด้านข้างบ้านของนายประสมวัตร จนพังเสียหายอีก 4 ช่อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาที่บ้าน และควบคุมตัวสามีไปที่ สภ.บ้านด่าน สำหรับสามีตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อน ก่อนหน้านี้สามีก็เคยทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีตัวเองหลายครั้ง เพราะหึงหวงตัวเอง คิดว่าตัวเองจะไปมีชายอื่น เหตุการณ์ที่สามีทำร้ายพ่อครั้งนี้ตัวเองรับไม่ได้ที่สุด ตัวเองไม่ให้อภัยสามี เพราะที่ผ่านมาตัวเองให้อภัยสามีมาหลายครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้สามีเคยพูดกับตัวเองว่าเขาจะเผาบ้านของพ่อทิ้ง กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ยอมรับว่าสามีมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยืนยันว่าจะไม่ประกันสามี
ขณะที่นายน้อย ผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ตนไม่เคยคิดจะเอารถพ่อไปขาย แค่ยืมไปทำธุระ และไม่เคยเสพยา ส่วนพ่อที่หัวแตกเพราะล้มเองไม่คิดทำร้ายพ่อทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด
แต่นายประสมวัตร พ่อของนายน้อย บอกว่า วันนั้นตนพยายามป้องกันไม่ให้ลูกชายเข้าบ้าน เพราะในบ้านมีลูก เมีย และหลานอยู่ เนื่องจากรู้ดีว่าลูกชายติดยา ไม่คิดว่าลูกชายจะทำได้ถึงขนาดนี้ ทั้งนี้ ทางด้านคดีเบื้องต้น ตำรวจตั้ง 4 ข้อหาคือ ทำร้ายร่างกาย, ทำให้เสียทรัพย์, พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว และเสพยาเสพติด