เกษตรกรครวญ ราคากะหล่ำปลีดิ่งลงเหวหนักสุดในรอบปี 10 ปี ราคาขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 50 สตางค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาผักตกต่ำหลังโควิด-19 ระบาด แทบไม่มีพ่อค้ามารับซื้อส่งผลให้ราคากะหล่ำปลีหน้าสวนอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 สตางค์ หรือตกราคาตันละ 500 บาท ถูกสุดในรอบ 10 ปี โดยชาวสวนผู้ปลูกกะหล่ำปลีบนภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ต้องขนกะหล่ำปลีมาส่งขายที่ตลาดผักพ่อขุนผาเมืองซึ่งเป็นตลาดรับซื้อผักที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งราคาผักโดยรวมมีราคาส่งที่ถูกมากเกษตรกรยอมรับไม่คุ้มทุนที่จะจ้างคนงานเก็บผลผลิต แต่ต้องนำผลผลิตมาขายเพื่อให้ได้ทุนคืนมาบ้างแม้จะขาดทุนก็ต้องยอม ซึ่งมีพ่อค้าขึ้นไปเหมากะหล่ำปลีในราคาตันละ 500 บาท และนำมาขายย่อยถุงละ 10 กิโลกรัม ในราคา 10 บาท
จากการสอบถามนายเมธา วิริยะจินดาพล อายุ 25 ปี เจ้าของสวนกะหล่ำปลีกล่าวว่า ตนเองลงทุนไปราว 3-4 แสนบาท ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วรวม 3 รุ่น ตอนนี้ขายได้แปลงละ 2-3 หมื่นบาท ขาดทุนยับเยิน กะหล่ำปลีที่ตนเองขนลงมาขาย นำลงมาจากเขาค้อ 1,600 กิโลกรัม ขายได้1,000 บาท คือ ราคาไม่ดีแบบนี้มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ กู้ ธ.ก.ส.มา พอถึงงวดส่งไม่รู้ว่าจะมีเงินส่งหรือไม่ ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าเช่าสารพัด รัฐบาลก็ไม่มีมาตรการมารองรับ แล้วคิดดูว่าเกษตรกรจะอยู่อย่างไร
