เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 21 ก.ค. 64 ร.ต.อ.ภูรีเถียร ประภากุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่ามะกา รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 2 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมะการักษ์ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
หลังจากที่พบศพ ทั้งพ่อและแม่ของผู้ตายได้เข้ามากอดศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ทราบชื่อคือ นายอภิสิทธิ์ ช่วยลือไทย หรือ มาร์ค อายุ 19 ปี ครอบครัวนำร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ จ.สกลนคร
วันที่ 22 ก.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ หมู่ 2 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี บริเวณจุดที่เกิดเหตุ ริมแม่น้ำแม่กลอง กำลังก่อสร้างเขื่อนกันน้ำท่วมอยู่ เมื่อหลายวันก่อนมีฝนตกทำให้น้ำค่อนข้างเชี่ยว ระดับน้ำบริเวณที่เกิดเหตุมีความลึกไม่เท่ากัน เพราะมีการขุดดินไปทำเขื่อน และจุดที่พบศพผู้ตายลึกประมาณ 6 เมตร ใกล้กันมีแคมป์คนงานก่อสร้างที่ทำเขื่อน เป็นแคมป์ที่ผู้ตายพักอาศัย
ภายในแคมป์พบสุนัขของผู้ตาย 3 ตัว เป็นพันธุ์ไทยผสมทั้งหมด ตัวสีน้ำตาล เพศเมีย อายุประมาณ 2 ปี ชื่อปีโป้, ตัวสีดำ เพศผู้ อายุประมาณ 4 เดือน ชื่อเฉาก๊วย และตัวที่ผู้ตายลงไปช่วย เป็นตัวสีดำขาว เพศผู้ อายุประมาณ 4 เดือน ชื่อนมสด ทุกตัวค่อนข้างเชื่อง วันนี้มีอาการซึมกว่าปกติ
นายวิษณุ ศรีโนนม่วง อายุ 55 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ระหว่างที่ผู้ตายกำลังทำงานอยู่บนรถสูบน้ำ ลูกสุนัขชื่อนมสดได้ตกลงน้ำ ห่างจากฝั่งประมาณ 7-8 เมตร และตอนนั้นน้ำเชี่ยว ผู้ตายจึงเกรงว่าสุนัขจมน้ำ เลยกระโดดลงไปช่วย ถอดกระเป๋าออก แต่ไม่ได้ถอดกางเกงยีนส์ที่ใส่ไว้ออก
ผู้ตายพยายามพาสุนัขเข้าฝั่ง ว่ายกลับเข้ามาห่างจากฝั่งได้ประมาณ 2 เมตรแล้ว ผู้ตายตะโกนบอกตนว่า "ผมเหนื่อย ๆ" ตนจึงโยนสายยางสูบน้ำให้ผู้ตายจับ ห่างจากผู้ตายไม่ถึง 1 วา แต่ผู้ตายจับไม่ไหว ก่อนจะปล่อยสุนัขทิ้ง และจมลงไปในน้ำ ส่วนสุนัขได้ว่ายน้ำขึ้นฝั่ง เพราะสุนัขว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว
จากนั้นตนรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อมร่วมงาน เพราะตนว่ายน้ำไม่เป็น ตนจึงไปตามคนมาช่วย เพื่อมร่วมงานได้ว่ายลงไปวนหาในน้ำถึง 3 คน แต่หาไม่เจอ ตนจึงโทรแจ้งกู้ภัย เวลาประมาณ 17.20 น. กู้ภัยได้เดินทางมาถึง ก่อนจะที่กู้ภัยจะลงน้ำได้ยกมือไหว้แม่น้ำ และใช้เวลาหาไม่ถึง 10 นาที และพบว่าจมอยู่ที่เดิม ห่างจากฝั่งประมาณ 4-5 เมตร
โดยผู้ตายเพิ่งจะนำสุนัขตัวนี้มาเลี้ยงได้ประมาณ 4 เดือน นำมา 2 ตัว ชื่อนมสดกับเฉาก๊วย ครอบครัวของผู้ตายรักสุนัขมาก และก่อนที่จะนำสุนัข 2 ตัวนี้มา สุนัขที่เลี้ยงไว้ได้ถูกรถชนตายไป 1 ตัว ทั้งนี้ เหตุเกิดขึ้นเร็วมาก และไม่ได้มีลางบอกเหตุมาก่อน เพราะตนอยู่ด้วยกันตลอด นอนอยู่ห้องติดกัน นิสัยของผู้ตายเป็นคนดี บอกสอนอะไรก็ทำหมด และเพิ่งจะมาทำงานที่ได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น
หลังเกิดเรื่องสุนัขยังอยู่ที่แคมป์เหมือนเดิม เท่าที่สังเกต สุนัขมีท่าทีนิ่ง ไม่วิ่ง ไม่ซนเหมือนปกติ โดยจุดที่เกิดเหตุจากการสอบถามชาวบ้านไม่เคยมีประวัติคนตกน้ำตายมาก่อน ยายที่แคมป์คนงานก็มักจะลงไปอาบน้ำตรงจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตประจำ ไม่เคยมีท่าทีว่าจะตกน้ำมาก่อน อีกทั้งปกติบริเวณริมแม่น้ำจะมีคนมาตกปลาทุกคืน แต่เมื่อคืนไม่มีใครกล้ามาแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอให้ผู้ตายไปสู่สุคติ ส่วนตัวรู้สึกน้อยใจเหมือนกันที่ว่ายน้ำไม่เป็น และพยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่ต้องมาเห็นว่าผู้ตายจมน้ำต่อหน้า
นายธวัฒชัย แซ่ลี้ อายุ 49 ปี เพื่อนร่วมงาน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนพักอยู่ในแคมป์ เพื่อนโทรมาบอกว่าผู้ตายจมน้ำ ตนจึงตนเดินมาดู และพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ เมื่อวันก่อนมีฝนตก จึงมีการปล่อยน้ำในเขื่อนออกมา ทำให้น้ำค่อนข้างเชี่ยว และระดับน้ำข้างใต้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว เนื่องจากมีการขุดดินไปใช้ ซึ่งพื้นดินข้างใต้มีความลึกเท่าแขนของแบ็กโฮประมาณ 6 เมตรได้
ส่วนสุนัขของผู้ตายว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว และเล่นน้ำทุกวัน ผู้ตายเคยเห็นสุนัขว่ายน้ำประจำแต่เมื่อวานนี้ ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงลงไปช่วย แต่เข้าใจว่าคงจะเกิดจากความคิดของคนเกรงว่าสุนัขจะจมน้ำ และด้วยความที่รักสัตว์มาก เลยลงไปช่วย ทั้งนี้ผู้ตายมีนิสัยร่าเริง ขยันทำงาน อนเกิดเรื่องไม่ได้มีลางบอกเหตุ พอมาเกิดเหตุทุกคนก็ยังตกใจ และได้แต่หดหู่ใจว่าทำไมตายง่ายแท้ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่รัศมีที่ทำเขื่อน ไม่เคยมีคนจมน้ำตาย หลังเกิดเรื่องคนก็รู้สึกกลัวเป็นปกติ
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายอภิสิทธิ์ ช่วยลือไทย หรือ มาร์ค ครอบครัวกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับจัดทำพิธีศพของผู้ตายตามศาสนาคริสต์ โดยจะเคลื่อนศพไปฝังที่ป่าช้าในหมู่บ้านช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค. 64
นางอรวรรณ ช่วยลือไทย แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ถูกให้อยู่ในบ้านหลังตรงข้าม ไม่ให้ออกมาปะปนกับคนในพื้นที่ เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจาก จ.กาญจนบุรี ตามมาตรการคุมโควิด-19 เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองอยู่ในแคมป์คนงาน ปกติก็ทำงานอยู่กับตน ช่วงที่น้องจมน้ำเป็นช่วงที่น้องทำงานนอกเวลา น้องอยู่ประจำรถดูดน้ำ บริเวณริมแม่น้ำ ช่วงนั้นมีเพื่อนร่วมงานอยู่ 6-7 คน ซึ่งบอกว่า ลูกชายลงไปช่วงหมาชื่อ นมสด สีขาวด่าง ซึ่งลงไปเล่นน้ำ และช่วงนั้นเกิดนำวน เนื่องจากมีการปล่อยน้ำ ลูกชายตนจึงลงไปช่วย
โดยมีเพื่อนร่วมงานพยายามโยนสายยางให้ลูกชายตนจับ แต่ลูกตนจับไม่ทัน ร่างจมลงไปก่อน เหตุผลที่น้องลงไปช่วงหมา เพราะรักหมามาก เป็นหมาที่ลูกตนเก็บเอามาเลี้ยงไว้ น้องรักหมาถึงขนาดเอาหมามานอนด้วย เลี้ยงไว้ 2 ตัว คือ เจ้านมสด กับเจ้าเฉาก๊วย
ส่วนตัวพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะเกิดเหตุ ช่วง 17.00 น. ตอนนั้นตนเองทำกับข้าว ลูกชายตนเดินมาหา และเล่าว่าก่อนหน้าที่จะมาหาตน หมาชื่อเฉาก๊วยมันจะตายแล้วนะ เพราะมันลงไปเล่นน้ำ พูดไม่ฟัง ซึ่งตนพยายามบอกว่า หมามันว่ายน้ำได้ แต่ลูกตนไม่ฟัง จนกระทั่งเจ้านมสดลงน้ำไป คิดว่าลูกชายตนเห็นจึงลงไปช่วยหมารอดชีวิต แต่ลูกตนจมน้ำ
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ตรงกับวันเกิดลูกตนครบ 19 ปี ลูกตนพูดว่าเขาไม่เคยเป่าเค้กตั้งแต่เกิดมา ตนก็ไปซื้อมาให้ เป็นเค้กก้อนแรก และก้อนสุดท้าย "ตนเองรักลูก ตนให้ลูกได้แม้แต่ชีวิต หากเลือกได้ตนเองอยากตายแทนลูก ลูกชายเป็นคนนิสัยดี ทำงานมีความสุข ขยันทำงาน" ส่วนการร่วมงานศพ ตนเองไม่สามารถเข้าไปในงานได้ ก็จะต้องกักตัวอยู่บ้านตรงข้าม แต่ตนไปตรวจโควิดมาแล้ว ตอนนี้รอผล ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่สามารถร่วมพิธีฝังได้