เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 22 ก.ค. 64 ตำรวจ สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้าววังหิน เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรมเหตุ ที่ไร่ข้าวโพด ในพื้นที่บ้านป่าหญ้าไทร ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางเดินข้างทุ่งนา พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนางนะ วงศ์กิตติ อายุ 51 ปี เจ้าของไร่ข้าวโพด นอนเสียชิวิตอยู่ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อแขนยาวสีม่วง กางเกงขายาวสีกรม ด้านหลังยังสะพายตระกร้าสำหรับเก็บเกี่ยวข้าวโพด มีบาดแผลถูกอาวุธมีดฟันที่บริเวณแก้มด้านซ้ายและท้ายทอย จนคอเกือบขาด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บศพของผู้เสียชีวิตลงมาให้แพทย์โรงพยาบาลพร้าวชันสูตร
ส่วนคนร้ายเป็นลูกจ้างของผู้ตายคือ นายทูน (ไม่มีนามสกุล) อายุ 32 ปี แรงงานชาวไทใหญ่ หลังจากก่อเหตุได้หนีไปนอนพักอยู่ที่กระท่อมปลายไร่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบมีดพร้าขนาดความยาวประมาณ 24.2 นิ้ว เปื้อนเลือดวางอยู่ พร้อมกับบัตร ATM และบัตรสวัสดิการประชารัฐ บัตรประชาชนของผู้ตาย จึงคุมตัวมาสอบสวน ผู้ต้องหาจึงรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าผู้ตายจริง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ทำสวนข้าวโพดอยู่กับผู้ตายซึ่งเป็นนายจ้าง และสามีของผู้ตาย จากนั้นผู้ตายได้ให้สามีกลับบ้านไปก่อน ระหว่างที่ผู้ตายกำลังทำสวนกับนายทูนนั้น ผู้ตายก็ได้ต่อว่าตำหนิที่นายทูนชอบอู้งาน ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน นายทูนจึงคว้ามีดฟันผู้ตาย 2 ครั้ง จนคอเกือบขาด ตายคาที่
หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนายทูน ผู้ต้องหารายนี้แล้ว เกิดมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ขณะนี้ได้ถูกส่งตัวมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้มีการส่งมาให้แพทย์ภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตมาประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของนายทูน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเสพยาเสพติดเมื่อปี 2563 และเพิ่งจะพ้นโทษได้มาประมาณ 3 เดือน ก็กลับมาก่อเหตุฆ่านายจ้างของตัวเอง
วันที่ 23 ก.ค. 64 จากการตรวจของแพทย์เบื้องต้น พบว่าร่างกายของผู้ต้องห มีการเสพสารเสพติดทั้งยาบ้า และมอร์ฟีน ส่วนอาการเจ็บท้องนั้นไม่แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุอะไร จึงสันนิษฐานว่าหลังจากเกิดเหตุ ผู้ต้องหาอาจจะไปกินยาฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่มีเจ้าหน้าที่มาพบก่อน จากนั้นทางแพทย์ได้ทำการล้างท้อง และส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ตำรวจ สภ.พร้าว เปิดเผยว่า นายทูน ผู้ต้องหา ได้เสียชีวิตลงเเล้ว ศพถูกเก็บไว้ที่งานรักษาศพโรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งหลังจากนี้จ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้าไปตรวจชันสูตรร่วมกับแพทย์แผนกนิติเวชโรงพยาบาลนครพิงค์ ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ทีมข่าวอมรินท ร์ทีวี ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณไร่ข้าวโพดและทุ่งนา ในพื้นที่บ้านป่าหญ้าไทร ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ระยะทางห่างจากบ้านของผู้ตาย 10 กิโลเมตร เส้นทางการเดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเป็นพื้นที่บนดอยสูง เป็นทางลูกรัง และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักด้วย
นางบัวนาค อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า คนที่พบศพคนเเรก คือนายวันชัย เป็นน้องชายของตนเอง เมื่อวาน ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. น้องชายทำไร่เสร็จ ไปงมหอยอยู่บนดอย หลังจากงมหอยเสร็จกำลังเดินจะกลับบ้าน บังเอิญเดินผ่านกระท่อมก็เห็นนายทูน ผู้ต้องหา นอนน้ำลายฟูมปากอยู่ในกระท่อม บอกว่าเพิ่งกินยาฆ่าหญ้า น้องชายจึงรีบวิ่งเพื่อจะไปบอกผู้ใหญ่บ้าน แต่ระหว่างทางที่วิ่ง ก็บังเอิญเห็นร่างผู้ตายนอนหงายอยู่ที่พื้น ห่างจากกระท่อมประมาณ 40 เมตร ตอนแรกคิดว่าเป็นลม จึงเข้าไปจับ ก็เห็นบาดเเผลฉกรรจ์ที่ลำคอ จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปบอกผู้ใหญ่บ้าน
หลังจากทราบเรื่องจากน้องชายตนก็รีบมายังจุดเกิดเหตุ เห็นสภาพบาดเเผลเเล้ว รู้สึกสะเทือนใจมาก เพราะส่วนตัวรู้จักกับผู้ตายมานาน เวลาทำไร่ทำนาก็จะทักทายกันเป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุก็เคยเห็นบ้าง แต่ไม่เคยพูดคุยกัน ไม่ทราบว่าเคยติดคุก และไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ได้
สำหรับไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุ เวลา 09.00 น. ผู้ตายเเละสามีขึ้นไปเก็บเกี่ยวข้าวโพดบนดอย ที่เกิดเหตุ เวลา 16.00 น. สามีกลับลงมาที่บ้านก่อน เวลา 18.00 น. มีชาวบ้านที่ทำงานอยู่บนดอยได้เดินผ่านจุดเกิดเหตุ บังเอิญพบศพผู้ตาย จึงรีบลงมาเเจ้งผู้ใหญ่บ้าน ด้วยอาการตกใจว่าพบศพอยู่บนดอย ทางผู้ใหญ่บ้านจึงเเจ้งตำรวจ ประสานกู้ภัย เวลา 22.00 น. ตำรวจเเละกู้ภัยเดินทางถึงที่เกิดเหตุ จนจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เวลาเที่ยงคืนกู้ภัยนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาล นำตัวผู้ต้องหาส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์
นางศรีเพ็ญ อุ่นเรือน อายุ 59 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเองกับผู้ตาย มีความสนิทสนมกันมาก เนื่องจากเป็น อสม.ด้วยกัน ผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลืองานสังคม ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชาวไทใหญ่ เป็นลูกจ้างชั่วคราวที่ผู้ตายจ้างมาเก็บเกี่ยวข้าวโพด ตนไม่เคยเห็นหน้า ไม่ทราบว่าเคยติดคุกมาก่อน พฤติกรรมโหดร้ายเกินไป เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญครั้งแรกของชุมชน
สำหรับพื้นฐานครอบครัว ผู้ตายมีลูก 2 คน เป็นลูกชาย 1 คน ลูกสาว 1 คน ซึ่งทั้งคู่ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ผู้ตายจึงอยู่ที่บ้านกับสามีเพียง 2 คน ที่ผ่านมาก็จะไปไร่ไปสวนด้วยกันทุกวัน ทำให้ตอนนี้สามีอยู่ในอาการเสียใจอย่างหนัก ที่ต้องเสียภรรยาคู่ชีวิตไปแบบกะทันหัน