กรณี พ.อ.กฤษภาณุ จํานงค์วงศ์ รองผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวที่ติดเชื้อโควิด-19 ถูกสามีทำร้ายร่างกายและไล่ออกจากบ้าน จนต้องหอบเสื้อผ้าออกมานั่งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ใกล้ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าแยกการไฟฟ้า ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เวลา 22.30 น. ของวันที่ 26 ก.ค.64
ทั้งนี้หลังรับแจ้งจึงรุดไปพร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจต่อต้านโควิด เทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปีเศษ ๆ นั่งอยู่บนฟุตพาท โดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ข้างตัว ทราบชื่อภายในหลัง น.ส.ลูน่า (นามสมมติ) อายุ 24 ปี นั่งร้องไห้อยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบประวัติการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในระบบของ จ.สมุทรปราการ พบว่าหญิงสาวคนดังกล่าว ได้เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.64 ที่ผ่านมา และผลตรวจยืนยันออกมาวันที่ 9 ก.ค.64 ว่าติดเชื้อโควิด-19
ล่าสุดวันที่ 27 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ย่านศรีนครินทร์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปรากร ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.ลูน่า นั่งอยู่เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าวยังพบยากันยุงแบบขดทิ้งอยู่ที่พื้น
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของ น.ส.ลูน่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน พบกับนางดาว (นามสมมติ) อายุ 50 ปี แม่ของ น.ส.ลูน่า เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวคนโตติดเชื้อโควิด-19 ทำให้คนในบ้านไปตรวจทั้งหมด 7 คนและทราบผลในวันที่ 7 ก.ค. 64 ว่าคนในบ้านติดโควิด-19 จำนวน 5 คน แต่ช่วงแรก น.ส.ลูน่า ยังไม่ติดเชื้อ จึงไปอยู่ที่บ้านแฟนของเขา แต่ก็ไปตรวจซ้ำในวันที่ 9 ก.ค.64 และทราบว่าติดโควิด-19 จึงได้กักตัวอยู่ในห้องที่บ้านแฟนหนุ่มพร้อมกัน
ในช่วงที่ลูกสาวกักตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา น.ส.ลูน่า โทรศัพท์มาบอกว่าแน่นหน้าอก ตนจึงรีบประสานให้แพทย์รีบเข้าไปดูอาการที่ห้องพักแฟนของลูกสาว ภายในซอยวัดในสองวิหาร อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่เมื่อไปถึง แพทย์กลับถูกยายของแฟนหนุ่มไล่กลับ อ้างว่าไม่มีคนป่วยโควิด-19 ทั้ง ๆ ที่ลูกสาวตนอยู่ในห้องพัก
กระทั่งวันที่ 26 ก.ค.64 ยายของแฟนหนุ่มพยายามขับไล่ให้ลูกสาวตนกลับบ้าน ทั้ง ๆ ที่ติดโควิด-19 และมีการโยนเสื้อผ้าลูกสาวตนออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ในบ้าน จนลูกสาวตนต้องยอมออกมานั่งข้างทาง ใกล้หน้าบ้านของตน เพราะลูกสาวไม่กล้ากลับเขาบ้าน เนื่องจากกลัวญาติจะติดเชื้อโควิด-19 ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าลูกสาวมักจะถูกแฟนและยายของเขาทุบตีจนหน้าตาเขียวช้ำ ก่อนหน้านี้ น.ส.ลูน่า โทรศัพท์มาบอกว่าถูกแฟนกระทืบ ซึ่งลูกสาวก็อดทนมาตลอด เพราะไม่กล้าบอกตน
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านของแฟนหนุ่มของ น.ส.ลูน่า ในพื้นที่ซอยวัดในสองวิหาร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทราบว่านายอรรถ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส.ลูน่า ยังคงกักตัวอยู่ในห้องคนเดียว ขณะเดียวกัน ทีมข่าวสังเกตว่าบริเวณปากทางเข้าบ้าน ชาวบ้านได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ เนื่องจากครอบครัวนี้มีความเสี่ยงติดเชื้อควิด-19 แต่ไม่ยอมกักตัว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางทอง (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ยายของนายอรรถ ซึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกับนายอรรถ แต่นางทอง ยังออกมาขายส้มตำตามปกติ โดยอ้างว่านายอรรถ กักตัวอยู่ในห้อง ส่วนเจ้าตัวอยู่ในบ้านอีกส่วนหนึ่ง ไม่ได้พบเจอหรือใกล้ชิดนายอรรถที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19
นางทอง กล่าวว่า สาเหตุที่ตนไล่ น.ส.ลูน่า กลับบ้าน เพราะการที่ปล่อยให้ผู้ป่วยติดโควิด-19 อยู่ในซอย เป็นที่กังวลของชาวบ้านและเพื่อนบ้าน ตนจึงอยากให้กลับไปอยู่กับครอบครัวก็เท่านั้น แต่แม่ของน.ส.ลูน่า กลับต่อว่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนยืนยันว่าไม่ได้ไล่แพทย์ที่มาตรวจ และยืนยันว่าหลายชายของตนไม่ได้ไล่แฟนสาว เพราะว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ไล่เพราะแม่ของเขามาด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แต่ไม่ได้ทำร้ายและตบตีกัน
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า น.ส.ลูน่า เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากบ้านเอง ตนและหลานชายไม่ได้ไล่ ซึ่งในวันที่เขาจะออกจากบ้าน ตนก็พยายามห้ามไม่ให้ไป เพราะเขากำลังป่วยอยู่ แต่ก็ไม่ฟัง และตนก็ไม่ขอรับหลานสะใภ้คนนี้มาอยู่ในบ้านแล้ว ตนยืนยันว่าหลานชายของตนยังไม่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะเขายังมีอาการปกติ และใช้ชีวิตตามปกติ
น.ส.กิตติภา มหาวัน อายุ 71 ปี เพื่อนบ้านที่เปิดร้านค้าอยู่ใกล้บ้านของนายอรรถ เปิดเผยว่า ตนไม่รู้เรื่องราวที่เขาขับไล่กันมาก่อน แต่ก็ทราบว่า น.ส.ลูน่า ติดเชื้อโควิด-19 และกักตัวอยู่ในบ้าน ยอมรับว่าเคยเห็นน.ส.ลูน่า ทะเลาะและมีปากเสียงกับนายอรรถอยู่บ้าง แต่ไม่ได้รุนแรงอะไร
ทั้งนี้ ชาวบ้านทุกคนรู้กันดีกว่าครอบครัวของ น.ส.ลูน่า ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งบ้าน และมีเจ้าหน้าที่มาอยู่เรื่อย ซึ่งมีบางคนในครอบครัวของ น.ส.ลูน่า ที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ และยังใช้ชีวิตปกติ ซึ่งตนก็กลัวและต้องอยู่ห่าง ๆ