เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 64 ร.ต.อ.สุวัฒน์ เชื่อเมือง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านในควน ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะตกสระน้ำ มีผู้สูญหายภายในสระน้ำสวนสาธารณะหนองไทร หมู่ 9 บ้านหนองขอน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพสมาคมร่วมใจย่านตาขาว และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง
ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ บนผิวน้ำพบถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า งและสิ่งของต่าง ๆ ลอยเกลื่อนกระจาย พบร่างของ น.ส.ชาลิสา ขวัญพงษ์ดี หรือ เจ๊นก อายุ 50 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนส์ขาสามส่วน ลอยอยู่บนผิวน้ำในสภาพแน่นิ่ง เจ้าหน้าที่กู้ชีพพร้อมด้วยชาวบ้านได้เร่งกันช่วยกู้ร่างขึ้นมา ก่อนทำการชีพีอาร์ช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน แต่เสียชีวิตก่อนหน้าแล้ว ก่อนจะนำร่างไปส่งชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ รพ.ย่านตาขาว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจ๊โรงไม้รถพุ่งตกสระดับ ญาติชี้พิรุธขับรถไม่เป็น เชื่อถูกฆ่าจัดฉาก
ล่าสุด วันที่ 30 ก.ค. 64 ญาติของ น.ส.ชาลิสา เดินทางมาที่บ้านของ นายหนูด นิรันรัตน์ สามีผู้ตาย ลูกของ น.ส.ชาลิสา และญาติได้มีการนั่งพูดคุยกับทาง นายหนูด อยู่ประมาณ 2 ชม. ก่อนจะเดินทางมาให้ตำรวจสอบปากคำที่ สภ.บ้านในควน ส่วนนายหนูด ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง
น.ส.มณสินี เจริญขำ อายุ 23 ปี ลูกสาวของ น.ส.ชาลิสา บอกว่า สำหรับการเดินทางมาที่ จ.ตรัง ก็จะมาดูที่เกิดเหตุว่าแม่ตายด้วยสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะว่าทางครอบครัวไม่รู้อะไรเลย ซึ่งวันนี้จากที่ไปดูพื้นที่เกิดเหตุ ติดใจอยู่หลายเรื่อง เรื่องที่ 1 ก็คือที่ตำรวจบอกว่าคาดว่าแม่จะกลับรถ ตรงที่เกิดเหตุแล้วรถก็ตกลงไปในน้ำ ซึ่งความเป็นจริงแล้วตรงที่เกิดเหตุไม่มีทางจะกลับรถได้แน่นอน
เรื่องที่ 2 คือเรื่องที่นายเดช ลูกน้องของนายหนูด ที่ไปเจอศพเป็นคนแรก ข้องใจว่าทำไมวันเกิดเหตุนายเดชถึงไม่รอให้ปากคำกับทางตำรวจก่อน ซึ่งเมื่อวานตนก็ได้ดูคำให้ขอมูลของนายเดชผ่านทางอมรินทร์ทีวี คำพูดของเขาไม่ตรงกับคำบอกเล่าที่ทางนายหนูด เล่าให้ฟัง
ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องคำให้การของนายหนูดที่ให้การกับตำรวจไว้ว่าตอนเกิดเหตุไปตามหาควาย แต่ที่นายหนูดโทรมาบอกกับตน คือเขาบอกว่าเขาไปบ้านเพื่อน แล้วก็ไม่ได้บอกว่าไปตามหาควาย ส่วนเรื่องสำคัญก็คือ ที่นายเดชบอกกับอมรินทร์ทีวีว่า ฉายไฟฉายไปเจอศพแม่ แล้วก็เห็นศพแม่ลอยอยู่เลยลากศพแม่ขึ้นมาปั๊มหัวใจ ซึ่งตอนที่นายหนูดโทรไปบอกก็คือบอกว่าเห็นของลอยอยู่ในน้ำ นายหนูดก็เลยให้นายเดชลงไปเอาร่างแม่ออกจากรถ โดยตอนนี้ข้อมูลทั้งนายหนูดและนายเดชที่ให้ปากคำกับตำรวจและให้ข้อมูลกับทางอมรินทร์ไม่ตรงกันเลย ถึงช่วงเวลาและบุคคลในที่เกิดเหตุ
สำหรับวันนี้ที่มีการไปพูดคุยกับนายหนูดที่บ้านเขาพูดจาปกติมาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางญาติก็พยามถามหานายเดช แต่ทางนายหนูดก็ไม่ยอมให้เจอตัวนายเดช พอถามก็เปลี่ยนเรื่องคุย แล้วก็บอกว่าหาตัวนายเดชไม่เจอ ตนอยากจะถามกับปากนายเดชว่าสรุปแล้วใครเป็นคนเจอศพแม่กันแน่ เจออย่างไร ใครเป็นคนลงไปเอาศพแม่ขึ้นมา ส่วนตัวยอมรับว่า ทางครอบครัวไม่เชื่อว่าแม่จะตายเพราะเกิดจากอุบัติเหตุ ขับรถตกลงไปในน้ำ
ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยบอกว่าแม่มีปัญหาอะไรกับทางนายหนูด แต่แม่เคยโทรมาบอกว่าแม่อยากจะกลับบ้าน อยากจะกลับบ้านไปอยู่กับลูก ๆ ส่วนปัญหาที่ตนรู้มาจากเพื่อนสนิทของแม่ก็คือแม่จะมีปัญหากับนายหนูด เรื่องที่ความคิดไม่ค่อยจะตรงกัน แต่ไม่ได้มีการลงไม้ลงมือกัน สำหรับวันนี้ก็จะนอนค้างอยู่ที่นี่และจะเชิญวิญญาณแม่ในที่เกิดเหตุ และจะเอาร่างแม่กลับบ้านเกิดที่ จ.นครสวรรค์ ในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้หลักฐานสำคัญก็คือรูปถ่ายในที่เกิดเหตุ ขณะที่เจอศพของ น.ส.ชาลิสา เป็นภาพที่ขณะที่รถกระบะคันที่อยู่ในน้ำ เปิดไฟหน้ารถอยู่ ซึ่งภาพขัดแย้งกับข้อมูลที่นายเดชให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเขาเข้าไปในที่เกิดเหตุ 2 รอบ แล้วบอกว่าไม่เจออะไร และต้องส่องไฟฉายดูในที่เกิดเหตุ เพราะว่ามืดมองอะไรไม่เห็น แต่ภาพนี้ถ้าในที่เกิดเหตุมีความมืด ใครเข้าไปก็จะเห็นแสงไฟหน้ารถที่เปิดอยู่อย่างแน่นอน คนที่ถ่ายภาพให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเขาเข้าไปในที่เกิดเหตุก็เห็นไฟหน้ารถกระบะคันดังกล่าวทันที
นายภาคิใน งามเลี่ยม อายุ 28 ปี นักประดาน้ำ ของกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะที่ตนได้เข้าไปถึงที่เกิดเหตุ ตรงบริเวณขอบสระน้ำ มีร่องรอยไถลลงไปของรถอยู่ตรงทางที่กู้ภัยนำรถขึ้นจากน้ำ ซึ่งจากการที่กู้ภัยลงไปในน้ำ น้ำในสระแห่งนี้มีความลึกกว่า 6 เมตร ส่วนตัวรถอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 25 เมตร ขณะที่ดำลงไปที่ตัวรถ รถคันดังกล่าวก็ยังเปิดไฟอยู่และหันหัวรถไปทางตลิ่งที่มุมของสระน้ำ ขณะที่รถอยู่ในน้ำกระจกฝั่งคนขับก็เปิดอยู่ทั้งบาน แต่ในขณะนั้นไม่ได้สังเกตตรงที่เบรกมือและตำแหน่งของเกียร์รถว่าอยู่ตำแหน่งไหน
ซึ่งทางกู้ภัยเองยืนยันว่าไม่ได้แตะต้องภายในตัวรถแต่อย่างใด นำรถขึ้นมาจากสระน้ำในสภาพแบบที่จอดไว้ที่ สภ.บ้านในควน โดยจากการตรวจสอบสภาพศพของผู้ตาย จากประสบการณ์ของตนที่เคยกู้รถและศพขึ้นมาจากน้ำ ถ้าหากศพติดอยู่ในตัวรถ ศพก็ไม่มีทางหลุดออกจากตัวรถหรือศพจะต้องลอยติดอยู่กับในภายในหลังคาห้องโดยสารของรถ แต่ถ้าศพหลุดออกจากตัวรถ ศพจะไม่มีทางลอยขึ้นมาเหนือน้ำได้ ทุกศพที่ตกอยู่ในน้ำจืด จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง ศพถึงจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำได้
นายนุวกูล เจริญขำ ลูกชายผู้ตาย บอกว่า วันนี้จากการลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าติดใจสาเหตุการตายของแม่ ไม่เชื่อว่าแม่จะขับรถตกน้ำตาย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ข้อมูลมามันไม่สอดคล้องกัน ที่ติดใจที่สุดก็คือ นายเดช ลูกน้องของนายหนูด อยากจะฟังจากปากนายเดชว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าหากบริสุทธิ์ใจก็ขอให้นายเด ออกมาพูด หรือมาเจอหน้ากัน หลังจากที่แม่จากไป ถึงตอนนี้ยังไม่เคยฝันถึงแม่ อยากจะให้แม่มาเข้าฝันแล้วก็มาบอกว่าใครเป็นคนทำแม่ หรือมาบอกว่าแม่ขับรถตกลงน้ำไปเอง ที่ผ่านมาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องรับแม่กลับบ้านเกิดในสภาพแบบนี้
ทีมข่าวให้ลูกสะใภ้ของผู้ตายที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับผู้ตาย เข้าไปอยู่ในรถ แล้วก็ปีนรถออกมาทางหน้าต่างฝั่งคนขับ เป็นการจำลองเหตุการณ์หากตกลงไปในน้ำจะใช้เวลาเท่าไรถึงจะปีนออกมาจากตัวรถได้ ลักษณะรูปร่างของลูกสะใภ้ที่มาจำนองเหตุการณ์มีความสูง 160 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม
โดยรอบแรกที่ปีนออกมาไม่ได้ใส่รองเท้า ใช้เวลาปีนออกมาจากตัวรถ เป็นเวลา 12.94 วินาที ส่วนรอบที่ 2 ใส่รองเท้าใช้เวลาปีนออกจากรถ 11.78 วินาที
นายสุรมิส เจริญงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีรถยนต์ ให้ข้อมูลว่า โอกาสที่ไฟหน้ารถยนต์ที่ตกน้ำนั้นจะค้างอยู่ก็เป็นไปได้ ด้วยระบบไฟฟ้าสามารถติดอยู่ได้นานมากที่สุดคือ 10 นาที หลังจากนั้นไฟรถน่าจะดับลง ส่วนถ้าหากไฟยังติดนานกว่านั้น อาจจะเป็นหลอดไฟแบบพิเศษ หรือระบบไฟฟ้าช็อตขัดข้อง ส่วนการที่ผู้ติดอยู่ในรถจะออกจากรถขณะตกน้ำได้หนือไม่นั้น ก็เกี่ยวกับสติของผู้ที่ติดอยู่ในรถด้วยว่าจะออกมาได้หรือไม่