#IRoamAlone โดนจวกทั่วทุกสารทิศ คอนเทนท์ไปเที่ยวอัฟกานิสถานเป็นเหตุ!

1 ส.ค. 64

ส่องดราม่า #IRoamAlone ไปเที่ยวอัฟกานิสถานคนเดียว ด้วยเหตุผลอยากไปเห็นว่าประเทศที่ไม่มีความสุขที่สุดเป็นอย่างไร จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ข้ามวันข้ามคืน

ระอุตีคู่มากับไฟสงครามเลยทีเดียว กรณีอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวชื่อดัง มิ้นท์ มณฑล กสานติกล เจ้าของเพจ I Roam Alone ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 5.1 ล้านคน หลังเจ้าตัวเดินทางไปทำคอนเทนต์ที่อัฟกานิสถาน ท่ามกล่างสถานการณ์ไฟสงครามร้อนระอุ ก่อนจะกลายเป็นดราม่าที่หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก 

โดยทางด้านเฟซบุ๊ก ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก ได้มีการสรุปดราม่าดังกล่าวอย่างละเอียด ว่า "นั่งอ่านดราม่าของคุณมิ้น เจ้าของเพจดัง I Roam Alone ที่ล่าสุดเธอได้เดินทางเดี่ยวๆไปเที่ยวอัฟกานิสถาน ในขณะที่ตอนนี้สถานการณ์ในประเทศไม่สงบสุขแต่อย่างใด

อ้างอิงจากข่าว BBC คือตอนนี้หลังจากอยู่ๆทหารอเมริกันถอนกำลังออกเงียบๆ ตาลีบันก็เริ่มกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง เริ่มยึดพื้นที่จากที่แต่ก่อนรัฐบาล (และทหารอเมริกัน) คุมได้ไว้เยอะมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นดินแดนแห่งการปกครองของตาลีบันกินดินแดนมาเยอะมากค่ะ ขนาดฝรั่งเมกันเม้นกันแบบ เออ แล้วที่เราเสียทรัพยากรมนุษย์/เงิน/ยุทโธปกรณ์ไปเยอะมาก คือเท่ากับเสียเปล่าเลยสินะ
คุณมิ้นได้เดินทางไปและบอกว่าก่อนที่สถานการณ์จะแย่ไปกว่านี้ค่ะ อยากไปเห็นว่าประเทศที่ไม่มีความสุขที่สุดเป็นยังไง ดูว่าเค้าจะถูกคนที่นั่นทรีตอย่างไรในฐานะที่เป็นผู้หญิง พอไปได้ซักพักเธอโพสเฟสบุ๊คอัพเดตสถานการณ์ที่ตื่นเต้น คือมีระเบิดลง สนามบินปิด ไกด์ของเธอกล่าวว่าจะฆ่าตัวตายหากโดนจับ และอยากหนีออกจากที่นี่มาก อยากย้ายออกไป ผู้ติดตาม สื่อตกใจมาก แบบเฮ้ย คุณเค้าโอเครึเปล่า เริ่มมีประเด็นว่า มันไม่ควรไปตอนนี้เปล่าวะ มันเสี่ยงมากเลยนะ เข้าใจว่าอยากเห็น แต่ถ้า (อุ๊บอิ๊บ) เกิดอะไรขึ้นมา มันไม่ใช่แค่เค้า แต่ทางไทยต้องเข้าไปจัดการด้วย
ประเด็นเริ่มร้อนขึ้น เมื่อคุณมิ้นตอบกลับเฟสท่านหนึ่งชื่อ Jutha Saovabha ทราบภายหลังว่าเป็นเลขานุการเอกที่สถานทูตไทย ณ ไนโรบี, เคนย่า คุณจุฑาได้ถามว่าที่คุณมิ้นเขียนว่าได้ติดตามข่าวกับสถานทูตอัฟกานิสถานคืออะไร ไม่มีสถานทูตไทยที่อัฟกานิสถานนะ คือหมายถึงสถานทูตอะไร คุณมิ้นตอบคุณจุฑาว่า เธอหมายถึงสถานทูตอัฟกานิสถานในต่างประเทศที่สามารถเช็คข่าวได้
จะติดต่อสถานทูตไทยทำไมคะ ซึ่งคุณจุฑาก็มาอธิบายว่า ถ้าคุณ ในฐานะพลเมืองไทยมีปัญหา คุณควรจะขอความช่วยเหลือที่สถานทูตไทย เพราะเป็นที่ที่เค้าจะช่วยคุณได้ ซักพักพอเริ่มมีประเด็นขึ้นว่าทำไมถึงตอบแบบนี้ ทำไมถึงไป รวมถึงแนวคิดว่า ปัญหาความรุนแรง คอรัปชั่น สิทธิเสรีภาพ การเมืองที่เยินๆเนี่ยไม่ต้องไปนอกประเทศก็ได้ เมืองไทยก็มีเคมั้ย ซักพักทางคุณมิ้นอัพเดตว่า ตอนนี้เช็คข่าวแล้ว อยู่ในที่ปลอดภัย มีความช่วยเหลือแบคอัพอยู่แล้วในกรณีหากเกิดอะไรขึ้น แล้วที่สำคัญที่บ้านตัวเองไม่มีปัญหาอะไรกับการเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย เค้าโอเคและมีความสุขกับการตัดสินใจของตัวเองมาก รวมทั้งชี้แจ้งเรื่องวัคซีนว่าครอบครัวไกด์และตัวไกด์เองฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันหมดแล้ว การเดินทางของคุณมิ้นแต่ละครั้งเค้าศึกษา ทำการบ้านมาแล้วอย่างดี
อีกมุมมองก็บอกว่า ก็เงินเค้า เค้าไปเที่ยวมาตั้งหลายที่แล้ว เค้ารู้อยู่แล้ว มีแบคอัพพร้อม อย่ายุ่ง
มุมถัดมาก็บอกว่า ผิดตั้งแต่ตอบคุณจุฑาที่แสดงความห่วงใยเรื่องติดต่อสถานทูตแล้ว 1 ส่วนเรื่องเดินทางเที่ยว นอกจากโควิดแล้ว สถานการณ์ในประเทศที่แย่ก็ไม่ควรเสี่ยงเพราะอะไร เพราะถ้ามีอะไรขึ้นมา นั่นหมายถึงสถานทูตต้องเข้ามามีส่วนร่วมแล้ว มันไม่ใช่แค่คุณมิ้นคนเดียวแล้วไง จะเอาตัวเองไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรเดินทางไปทำไม
อ่านแล้วเก็ท ขอเสริมและเน้นย้ำในเรื่องสถานทูตค่ะ ในฐานะที่คุณเป็นพลเมืองไทย พลเมืองใดๆก็ตาม คุณจะไปประเทศไหน โลกไหน มีปัญหาอะไร หรืออยากเช็คข่าวเหนือจรดใต้ สถานทูตไทย/สถานกงสุลไทยคือเป็นแหล่งอัพเดตข่าว และให้ความช่วยเหลือได้ดีที่สุด
จากคนที่เป็นพลเมืองในหลายประเทศ หลังไมค์ไปถาม ขอความช่วยเหลือ ขอความรู้ สถานทูตไทยเป็นสถานทูตที่สามียังชมว่าตอบหลังไมค์เฟสโคตรไว ช่วยแบบเอ็กซ์ตร้าสุด เทียบกับสถานทูตบริทิชคือแค่โทรติดเจอคนรับ เท่ากับบุญแล้ว คำถามคืออย่าหวังหลังไมค์ ไม่เปิดให้ถาม ไม่มีถามฟรี มีอะไรถามสถานทูตไทยได้หมดเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เกือบทุกประเทศตอบไว ตอบเร็ว (ขอบคุณพิเศษสำหรับสถานทูตไทยในลอนดอน, สถานทูตไทยในกาตาร์, สถานกลสุลไทยในริยาดห์ และสถานทูตไทยที่เจดดาห์ด้วยค่ะ คืออุ่นถามทุกสิ่ง ก็ช่วยทุกอย่างจริงๆ)
อีกเรื่องที่อยากบอกคือ เราดูการทรีตของผู้ชายที่นั่นกับผู้หญิงอย่างเราซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหรือเป็นคนนอกไม่ได้ค่ะ ดิชั้นไปเมืองแขก ทั้งไปอยู่/ไปเที่ยว ก็เจอชายทุกคนทรีตผู้หญิงดีทั้งนั้น แต่ในฐานะผู้หญิง ในฐานะภรรยา ในฐานะลูกสาว เราจะไม่มีทางได้เจอ/ได้เห็น/ได้ประสบแบบที่เค้าประสบจริงๆ มันเหมือนผู้หญิงซาอุฯที่คุยกับอุ่น บอกว่าเราต้องสู้ต่อไปเพื่อที่จะได้อินดิเพ็นเดนท์เต็มตัว ในขณะที่อุ่นในฐานะนักท่องเที่ยว ฐานะคนต่างชาติ ไม่ได้ประสบอะไรแบบเค้า เรามาเที่ยวแล้วก็กลับ ไม่ได้เผชิญแบบที่เค้าเผชิญตลอด 24/7 ค่ะ ดังนั้นเราดูไม่ได้หรอก เหมือนเพื่อนญี่ปุ่นอุ่นเคยบอกว่า การใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น มันไม่เหมือนเวลายูมาเที่ยวมากินแล้วกลับนะ มันคนละเรื่องเลย สิ่งที่คนญี่ปุ่นอย่างเพื่อนต้องเผชิญมันอีกเลเวลนึงเลยค่ะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ