สำนักข่าวรอยเตอร์ยืนยันรายงานโดยเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอังกฤษโจมตีในดินแดนของรัสเซียแล้ว หลังก่อนหน้านี้ ได้รับไฟเขียวจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯโจมตีรัสเซีย อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนปฏิเสธที่จะยืนยันหรือปฏิเสธการใช้ขีปนาวุธดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) แต่เขาตอบคำถามเพียงว่าว่า ยูเครนจะใช้ทุกวิธีเพื่อปกป้องประเทศ
ขณะที่บล็อกเกอร์สายทหารคนหนึ่งของรัสเซีย โพสต์ภาพลงบนเทเลแกรม เป็นภาพของเศษชิ้นส่วนขีปนาวุธ Storm Shadow ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลของอังกฤษ โดยอ้างว่า มีขีปนาวุธมากถึง 12 ลูกถูกยิงไปยังภูมิภาคเคิร์สค์ ของรัสเซีย
ขณะที่เทรเวอร์ บอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ อดีตช่างเทคนิคของกองทัพสหรัฐฯ ยืนยันภาพดังกล่าวว่าเป็นชิ้นส่วนของขีปนาวุธ Storm Shadow จริง แต่ทาง CNN ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า รูปถ่ายดังกล่าวถ่ายเมื่อวันพุธที่ผ่านมาจริงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงเทเลแกรม เผยให้เห็นเสียงระเบิดดังขึ้นที่หมู่บ้านมาริโน ในภูมิภาคเคิร์สค์ของรัสเซีย
ทั้งนี้ อังกฤษและฝรั่งเศสส่งมอบขีปนาวุธ Storm Shadow ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครนก่อนหน้านี้ เพื่อใช้ภายในดินแดนของตนเอง โดยขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยการยิงไกลถึงราว 250 กิโลเมตร สั้นกว่าขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ ที่มีพิสัยยิง 300 กิโลเมตรอยู่เล็กน้อย
รายงานระบุว่า ในระยะหลังมานี้ รัสเซียเดินหน้ายืดดินแดนของยูเครนได้อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสถาบันการศึกษาสงคราม หรือ ISW แสดงให้เห็นว่า รัสเซียยึดพื้นที่ของยูเครนในปีนี้ได้เกือบหกเท่า เมื่อเทียบกับปี 2023 และขณะนี้กำลังมุ่งหน้ารุกคืบเข้าไปยังศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาคดอนบัสอย่างต่อเนื่อง
สหรัฐฯจึงพยายามชะลอการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย ที่ในเวลานี้เข้ายึดพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เห็นชอบให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลนอกดินแดนของยูเครนเอง และล่าสุดก็ไฟเขียวให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยคาดว่า ระเบิดเหล่านั้นจะได้รับการส่งมอบให้ยูเครนเร็วๆนี้ และทางการสหรัฐฯคาดว่า มันจะถูกใช้ในดินแดนยูเครนเท่านั้น และทางรัฐบาลก็ยูเครนก็ให้คำมั่นแล้วว่า จะไม่ใช้ในพื้นที่ที่มีประชากรพลุกพล่าน