จากกรณีเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 2 ส.ค. 64 ร.ต.อ.สมหมาย รักษ์ชูชื่น ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดี พบศพห่อด้วยผ้าปูที่นอนถูก มัดด้วยเชือก ทิ้งริมคลองบ้านสะพานหยี ท้องที่ ม.6 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง
ในที่เกิดเหตุริมคลองสะพานหยี เจ้าหน้าที่พบศพถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนมัดหัวมัดท้ายด้วยเชือกไนล่อน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดออกดูด้านในห่อซ้ำด้วยเสื้อกันฝน พบศพ น.ส.จิราพร เพ็ชรรัตน์ หรือ ก้อย อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง สภาพศพ สวมกางเกงยืดขาสั้นสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เข้าบริเวณชายโครงซ้ายและแขนซ้าย หลายนัด จากการตรวจสอบคาดว่า น.ส.จิราพร เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
ตรวจสอบว่าชั้นนอกศพถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอน ลายดอกไม้สีฟ้า ชั้นที่ 2 ห่อด้วยเปลสนามสีดำ ชั้นที่ 3 ห่อติดกับศพด้วยเสื้อกันฝนสีส้ม และในห่อศพมีเสื้อยืดแขนยาวสีส้มติดมากับศพ 1 ตัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทวงหนี้โหด! สาวโดนยิง 5 นัดสุดอำมหิตห่อศพทิ้งป่า พยานชี้เป้ากระบะอุ้มตัว แม่เผยโทรขอ 6 หมื่น
ล่าสุด วันที่ 4 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านสามีของ น.ส.จิราพร เพ็ชรรัตน์ หรือ ก้อย ผู้ตาย ที่ ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง บ้านปิดเงียบ ไม่มีใครอยู่ ต่อมาช่วงเวลา 10.20 น. นายเจมส์ (นามสมมติ) น้องชายของสามีของก้อย ได้เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ครอบครัวก็อยู่กันอย่างหวาดระแวงมาก ไม่รู้ว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาที่บ้านอีกหรือไม่ ที่พี่ชายไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะหลบอยู่ที่บ้านญาติ กลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมา
ที่ผ่านมาส่วนตัวไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าก้อยไปติดเงินใคร รู้แต่ว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ตนขับรถมาที่บ้าน แล้วก็เห็นเพื่อนก้อย ที่ชื่อหมวย มาหาก้อยที่บ้าน 2 ครั้ง ไม่เห็นว่ามากับใคร แต่เห็นว่ามารถกระบะ 4 ประตูคันสีขาว ลักษณะใกล้เคียงกับกล้องวงจรปิด ที่ขับผ่านหน้ากล้องในวันที่ก้อยหายตัวไป ตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้คุยกับพี่ชายว่าสรุปแล้วเรื่องเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าพี่ชายไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องของก้อย เพราะว่าพี่ชายเป็นคนมีนิสัยไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น
ภาพจากกล้องวงจรปิด มีรถต้องสงสัยที่สอดคล้องกับผู้เห็นเหตุการณ์ ขับรถมาปาดหน้าผู้ตาย ก่อนจะมีผู้ชายลักษณะตัดผมเกรียน ลงมาจากรถแล้วยืนเจรจากับผู้ตาย จะนำตัวผู้ตายขึ้นรถหายไปในเวลาประมาณ 16.40 น. ของวันที่ 31 ก.ค. 64 ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นรถกระบะอีซูซุ 4 ประตูสีขาว ขับผ่านกล้องวงจรปิดไปในเวลา 16.45 น.
เมื่อช่วงบ่าย พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้การสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 และ พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ จุดที่ผู้ตายถูกอุ้ม และย้อนกลับเข้าไปดูจุดที่เจอศพ ที่ป่าข้างคลองชลประทาน
ซึ่งทีมข่าวได้หลักฐานสำคัญทางคดี เป็นร่องรอยในบ้านหลังที่สัญญาณโทรศัพท์ของผู้ตายหายไป ก่อนพบเป็นศพ ภาพที่ 1 เป็นเชือกที่ทางตำรวจคาดว่าเป็นเชือกที่ใช้ผูกกับเปลสนามสีดำ ที่นำมาคลุมร่างของผู้ตาย เป็นเชือกเส้นเดียวกันกับเชือกที่ถูกตัดออกมาจากที่เสาใต้ถุนบ้าน แล้วคนร้ายนำไปมัดที่ศพ
ภาพที่ 2 เบาะรองนั่งสีเขียวลายการ์ตูน ที่มีรอยเลือดและร่องรอยกระสุนปืน 4 รู ที่บริเวณเบาะดังกล่าว ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ ตำรวจต้องนำไปตรวจสอบก่อนว่าจะเป็นรอยกระสุนใหม่หรือรอยเก่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ภาพที่ 3 คือท่อนไม้ที่เป็นด้ามจอบ ที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายจะใช้ไม้ท่อนนี้ทำร้ายร่างกายผู้ตาย ก่อนจะยิงทิ้งแล้วอำพรางศพ
ภาพที่ 4, 5 รองเท้าแตะสีขำหูสีเขียว และถ้วยโยเกิร์ตที่กินแล้วตกอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่ง 2 ชิ้นนี้ตำรวจจะเก็บกลับไปเพื่อตรวจดีเอ็นเอ
และล่าสุดวันนี้ตำรวจได้มีการประชุมกันเรื่องคดีนี้แล้ว การประชุมมี พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธานในการประชุม หาแนวทางร่วมกับตำรวจทุกฝ่ายที่ลงพื้นที่แกะรอยหาตัวคนร้าย
นางเพ็ญ อายุ 62 ปี แม่สามีของก้อย บอกว่า ตอนนี้เครียดมาก บ้านช่องก็ไม่กล้าอยู่ เมื่อวานก็ต้องหลบไปอยู่ที่บ้านญาติ ทั้งตำรวจทั้งนักข่าว ไม่รู้ใครเป็นใครมาที่บ้าน และกลัวคนร้ายจะมาที่บ้าน โดยวันที่ก้อยถูกอุ้มไป ตัวเองไปซื้อของอยู่ที่ตัวเมืองพัทลุง ช่วงประมาณบ่าย 2 กว่า ก่อนที่ก้อยจะกลับมาจากบ้านแม่ของเขา ก้อยโทรมาหาตน บอกว่าก้อยจะกลับบ้านที่เขาชัยสน มีใครอยู่ที่บ้านหรือเปล่า ตนก็บอกว่าถ้ากลับมาที่บ้านก็รอก่อน เพราะกุญแจบ้านอยู่ที่ตน
จากนั้นก้อยก็ถามหาน้องหนูดี ลูกสาวของเขา ว่าหนูดีไปกับตนด้วยหรือไม่ ตนก็บอกว่าน้องหนูดีมาด้วย ก็ยังส่งโทรศัพท์ให้ก้อยคุยกับน้องหนูดี พอวางสายไป เกือบ 4 โมงเย็นก้อยก็โทรกลับมาอีกบอกว่า "แม่ ก้อยมาถึงบ้านแล้ว แต่เข้าบ้านไม่ได้" ตนก็เลยบอกว่า งั้นก้อยก็ไปเอากุญแจกับพี่ซูม สามีของก้อยก่อนแล้วกัน เพราะว่าแม่ยังไม่ได้กลับ
หลังจากนั้น ตนกลับมาที่บ้าน คนข้างบ้านก็เดินมาบอกว่ามีคนเห็นว่าก้อยถูกผู้ชาย 2 คนขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตูสีขาว อุ้มขึ้นรถไป ต่อมาประมาณ 1 ทุ่ม ตนก็โทรไปหาแม่ของก้อย บอกว่าก้อยถูกอุ้มไป ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับว่า เคยมีคนมาหาก้อยที่บ้าน คนที่มาก็คือเพื่อนของก้อย แต่เขาจะมาคุยกันเรื่องหนี้สินหรือไม่ตนไม่รับรู้ เพราะว่าไม่เคยไปยุ่งเรื่องของเขา รู้แต่ว่าก้อยเคยบอกว่าก้อยมีแชร์อยู่ 2 มือ เล่นกับเพื่อน เปียร์ไปแล้ว 1 มือ อีกมือยังไม่ได้เปียร์ เพราะว่าดอกเบี้ยแพง ส่วนตัวบอกตรง ๆ เลยว่า ตัวลูกชายเองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องหนี้สินของก้อย เพราะว่าตนสอนลูกมาตลอดว่าอย่าสร้างหนี้สินเข้ามาในบ้าน เพราะที่บ้านไม่เคยมีหนี้สินใคร
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เสียใจ พูดอะไรไม่ออก หลังจากนี้ก็จะต้องดูแล น้องหนูดีวัย 3 ขวบลูกสาวของก้อยต่อไป
ด้านนายนัท (นามสมมติ) รุ่นพี่ผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ก้อยจะถูกอุ้มไปฆ่า ได้มาปรึกษากับตนเรื่องหนี้สินที่ค้างไว้กับหมวย เพราะว่าก้อยกับหมวยได้พากันไปกู้เงินกับคนที่ชื่อ "มาดาม" โดยการกู้เงิน ก้อยกับหมวยจะผลัดกันค้ำประกัน เงินที่รู้ว่าก้อยเป็นหนี้ ก็คือประมาณ 6-7 หมื่นบาท ยอดเงินนี้เป็นยอดเงินดอกลอย คือกู้มาต้องจ่ายดอกรายวัน หมื่นละ 100 บาทต่อวัน
ที่ก้อยมาเล่าให้ฟัง คือก้อยต้องส่งดอกรายวัน วันละ 600-700 บาทต่อวัน แต่เงินต้นก็ยังคงอยู่ยอดเดิม ซึ่งยอดเงินนี้ ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมก้อยได้มาปรึกษากับตนว่าตอนนี้ตันแล้วหมุนเงินไม่ออก แล้วหมวยก็มาทวงเงินยอดนี้ที่บ้าน ทั้งมาทวงทั้งโพสต์เฟซบุ๊กประจาน จนทำให้ตัวก้อยเองต้องมีปัญหากับทางบ้านแม่สามี โดยตนเองได้แคปข้อความไว้ทั้งหมด หลังที่ก้อยส่งข้อความมา
แชตข้อความช่วงหนึ่งของวันที่ 2 ก.ค. 64 ก้อยบอกว่า "คือก้อยนั้นติดเงินอิหมวย ที่ติดคือค่าแชร์ แต่คือมันบีบก้อยจัง จนครอบครัวก้อยพังหมดแล้ว บอกว่าจะให้ผัวมาตามเก็บ, พี่นัท ก้อยรับจ่ายอยู่นิ ผ่อนให้เขาอยู่ ก้อยปิดให้มันแล้ว"
ส่วนแชตวันที่ 6 ก.ค. 64 จะเป็นที่ก้อยพยายามดึง ตัวนัทเข้าไปให้ไปเจรจาไกล่เกลี่ย กับหมวยและก็คนที่ชื่อมาดาม "พี่นัท ต้องช่วยก้อยนะ จัดการให้ที ก้อยไม่ยอมมัน อิหมวย" และ "ก้อยไม่อยากจะจ่ายให้มันแล้ว บอกตรงๆ เกียด, แค้นนิ ก้อยทนให้มันมาตลอด โดนตัวเองต้องมาเป็นหนี้รุงรัง ก้อยเหนื่อยแล้ว จนครอบครัว แตกแยก เพราะมันมาทวงเงินถึงบ้าน"
ซึ่งทั้งหมดนี้ ตนก็พยายามช่วยก้อยเคลียร์แล้วกับเจ้าของเงินที่ชื่อมาดาม โดยมาดามเองก็ตกลงว่าจะให้ก้อยทยอยผ่อนคืน แต่หมวยยืนยันว่าจะไม่ยอม เหตุการณ์ทั้งหมดหมวยยังเคยมาขู่ฆ่าก้อยที่บ้าน จนทำให้ก้อยต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้ว่าถ้าหากถูกฆ่าก็คือหมวยมีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีแชตการสนทนาของทั้ง 3 คนที่มีการตกลงเรื่องเงินกันนั้น
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยที่อยู่ใกล้จากจุดพบศพนั้น ก็ได้หลักฐานพอสมควร แต่หลักฐานนั้นจะเชื่อมโยงหรือไม่ก็อยู่ที่ผลการตรวจการสอบสวน เบื้องต้นมุ่งประเด็นการทวงหนี้ ส่วนการพัวพันยาเสพติดนั้นทางผู้ตายไม่เกี่ยวข้อง แต่ในตัวสามีมีประวัติการเสพ ก่อนหน้านี้มีการเข้าแจ้งความของผู้ตายจากการทวงหนี้กับเพื่อนผู้หญิง และมีการขู่ฆ่ากัน หลักฐานชิ้นสำคัญที่ตกอยู่ในบ้านที่มีนายปอ เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดก่อนว่าตรงกับหลักฐานที่พบในจุดพบศพหรือไม่ เช่น ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนที่ห่อศพ เชือกที่ใช้มัดศพ หรือหลักฐานอื่น ๆ เชื่อมโยงกัน จึงจะสามารถออกหมายจับได้
ทั้งนี้ ต้องรอผลตรวจทางวิทยาศาสน์ให้แน่ชัดก่อน ล่าสุดผู้ร่วมขบวนการคาดว่ามีมากกว่า 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน ที่เคยวนเวียนมาทวงหนี้ก่อนหน้าน้องก้อยจะถูกอุ้มฆ่า ตำรวจยืนยันจะจับตัวคนร้ายทุกคนมาดำเนินคดีให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนมีอิทธิพลหรือเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ศาลไหน ก็จะจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้ในที่สุด