จากกรณี เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 3 ส.ค.64 ตำรวจ สภ.พนัสนิคม รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรมภายในหมู่บ้าน ตำบลไร่หลักทอง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต นางจันทณี สันติธรรมากร อายุ 61 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนบุญญวิทยาคาร เขตเทศบาลพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี มีบาดแผลถูกของมีคมที่ลำคอแขนซ้าย และหน้าท้องที่เสียชีวิตในห้องน้ำ บาดแผลกว่า 10 รอย ศพอยู่ที่หน้าบ้าน
นอกจากนี้ ได้รับรายงานว่ามีบ้านอีก 1 หลังในหมู่บ้านเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตจากการลื่นล้มเสียชีวิตชื่อ นายชูศักดิ์ สันติธรรมากร อายุ 70 ปี เป็นพี่ชายของนายชูชาติ สามีผู้ตาย เบื้องต้น ตำรวจสันนิฐานว่าอาจเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์ แต่ไม่มีทรัพย์หายไป คาดว่าคนร้ายอาจจะรีบหนีไปก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขปริศนาไอ้โม่งปาดคอรองผอ. เจอพิรุธบ้านล็อกจากด้านใน ผัวเครียดชิ่งคุยสื่อ
- เปิดภาพลับ รองผอ.ถูกปาดคอเจอรถผัวแวะบ้าน ญาติช็อกเช้าพี่ตาย - เย็นมีอีกศพ
วันที่ 6 ส.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ ช่วงเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พนัสนิคม ลงพื้นที่มาพร้อมกับนายชุชาติ หรือ เฮียไฝ สามีผู้ตาย และนางวันเพ็ญ วิธีธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญญวิทยาคาร น้องสาวของนางจันทณี ผู้ตาย เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้ขอให้เฮียไฝทำการเปิดประตูบ้าน เพื่อนำแม่กุญแจของประตูเหล็กดัดนำไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง เพราะบ้านหลังดังกล่าวมีคนอาศัยอยู่ 2 คน
ดังนั้นจึงขอมีการเก็บแม่กุญแจไปทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่คาดว่าเป็นของคนร้าย การเก็บพยานหลักฐานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ใช้ถุงพลาสติกรองรับแม่กุญแจ ตำรวจไม่ได้มีการสัมผัสโดยตรง นางวันเพ็ญยืนเป็นพยานในการเก็บหลักฐาน
การเก็บแม่กุญแจไปตรวจสอบ เพราะว่าบ้านหลังดังกล่าวมีคนหยิบจับสิ่งของไม่กี่คน หากนำไปตรวจสอบแล้วพบลายนิ้วมือแฝง จึงจะเชื่อมโยงถึงบุคคลภายนอก หรือผู้ต้องสงสัยรายอื่นได้ แต่ถ้าหากมีเพียงแค่รอยนิ้วมือคนในบ้าน อาจหมายความว่าเกี่ยวข้องกับคนภายในหรือไม่ หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ชุดสืบสวนเก็บหลักฐานเสร็จสิ้น เดินทางกลับออกจากบ้านที่เกิดเหตุ
ระหว่างนั้นมีการยืนพูดคุยกับเฮียไฝ สามีของคนตาย เกี่ยวกับลักษณะของโรงจอดรถ สอบถามว่าเหตุใดต้องมีกาวดักหนูจำนวนมาก เจ้าตัวตอบว่าบางครั้งมีหนูวิ่งเข้ามาในบ้านเยอะ จึงต้องทิ้งกาวดักหนูเอาไว้ในโรงจอด ใช้ได้ผลพอสมควร ช่วงที่มีการเปิดประตูรั้วสเตนเลสบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตว่าเฮียไฝได้ใช้มือผลักเปิดโดยไม่จำเป็นต้องกดรีโมตไฟฟ้า ตามที่ถูกตั้งข้อสังเกตเอาไว้ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสอบถามเกี่ยวกับระบบการทำงานของประตู เฮียไฝบอกว่าตอนนี้รีโมตไฟฟ้าไม่ได้ใช้งาน ยกเลิกไปนานแล้ว เพราะประตูเสียประมาณ 4 ปี ใช้ระบบเปิดด้วยมือ แต่มีการล็อกด้วยแม่กุญแจ
ระหว่างนั้น นางวันเพ็ญ น้องสาวของคนตาย เดินออกมาพร้อมกับเฮียไฝ ปฏิเสธที่จะตอบทุกคำถาม บอกเพียงสั้น ๆ ว่า "ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และรอฟังความชัดเจนจากตำรวจ"
เมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เป็นชุดและคณะทำงานของกองปราบปราม โดยมีการลงพื้นที่ไปที่บ้านที่เกิดเหตุ เดินสำรวจและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากชาวบ้านในละแวกพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะข้างบ้านและบ้านที่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ ชุดกองปราบที่ลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นชุดการทำงานชุดที่ 4 ก่อนหน้านี้ มีชุดตำรวจจาก สภ.พนัสนิคม ตำรวจชุดสืบสวนจากจังหวัดชลบุรี และชุดสืบสวนภาค
ประกอบกับชุดสืบสวน สภ.พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ยังคงมีการลงพื้นที่สอบถามข้อมูลและเรียกสอบพยานเพิ่มเติมในละแวกบ้านจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือและขอข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งของบ้านที่เกิดเหตุกับละแวกเพื่อนบ้าน ภายในหมู่บ้าน กับทาง นายธนบดี สกุลแสง ผู้ใหญ่บ้านด้วย
นายธนบดี สกุลแสง หรือ ป๋อ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งของกลุ่มเพื่อนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะบ้านที่เกิดเหตุกับบ้านหลังอื่น ยืนยันว่าไม่มีใครทะเลาะกับใคร บ้านที่เกิดเหตุในระยะหลังก็มีลักษณะต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน แต่เคยมีประวัติขัดแย้งในอดีตเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน แต่ตนเองในฐานะคนกลาง ก็ได้เข้ามาเจรจาทุกอย่างจนเข้าใจกันดีแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีปมความขัดแย้งเกิดขึ้น ในละแวกใกล้เคียงก็ยืนยันว่าไม่มีใครที่เป็นคู่ขัดแย้งกับบ้านที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากมีสื่อใหญ่บางสำนักนำเสนอเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด เกิดเป็นชนวนเหตุสร้างความขัดแย้งขึ้นอีก ตนจึงขออธิบายผ่านอมรินทร์ทีวีว่า "ในหมู่บ้านไม่เคยมีประเด็นความขัดแย้งกัน ทุกอย่างจบไปแล้วในอดีต"
ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหลายชุดลงพื้นที่มายังบ้านจุดเกิดเหตุ และได้มีการสอบปากคำรวมถึงขอข้อมูลจากพยานแวดล้อมละแวกใกล้เคียง ตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ขอตอบแทนกลุ่มชาวบ้านว่าเป็นการให้ข้อมูลในฐานะพยานที่รู้เห็น และยืนยันเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของบ้านที่เกิดเหตุ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าไม่รู้และไม่เห็นเหตุการณ์การฆาตกรรม
เท่าที่ตนเองได้ติดตามจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน โดยเฉพาะทางเข้า เริ่มตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่เช้าจนถึง ก็ยังไม่พบความผิดปกติเกิดขึ้น ส่วนกลุ่มคนแปลกหน้า เบื้องต้นก็ยังไม่พบผู้ต้องสงสัย มีเพียงคนส่งอาหาร และรถส่งของ ดังนั้นก็เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดได้เพิ่มเติม
ส่วนตัวในฐานะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด ยืนยันว่าหลังจากที่มีชาวบ้านพยายามติดต่อให้เฮียไฝ สามีของคนตาย เข้ามาในหมู่บ้านเพื่อดูศพของพี่ชาย แต่เจ้าตัวไม่ได้แวะที่บ้านพี่ชาย เนื่องจากเข้าบ้านและพบว่าเมียถูกแทง ขอไม่ตั้งข้อสังเกต เพราะทุกอย่างก็คงมีเหตุผลส่วนตัว ส่วนกรณีการตาย 2 ศพพร้อมกันคือความบังเอิญ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ต่อเนื่อง
ทีมข่าวยังได้เดินทางกลับไปที่บ้านหลังหนึ่งภายในซอยที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของรถมอเตอร์ไซค์ปริศนาที่มีสื่อบางแห่งมีการนำเสนอพาดพิงเกี่ยวกับรถต้องสงสัย ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ช่วงเวลาที่รถของสามีคนตายขับเข้ามาในหมู่บ้านเวลา 16.34 น. เลี้ยวขวาเข้าไปในซอยเดียวกันกับที่บ้านเกิดเหตุ
นางสาวหญิง (นามสมมติ) หลานสาวของชายในกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกตกใจและแปลกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าลุงมีการขับรถผ่านเข้าออกเป็นประจำทุกวัน จะเป็นช่วงเวลาที่เดินทางกลับบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เป็นเพราะเหตุบังเอิญที่ขับตามหลังรถของสามีคนตาย เวลา 16.34 น. ทำให้มีสื่อบางสำนักไปโยงว่าเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้ต้องสงสัย ตนเองต้องการที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าเป็นการขับรถผ่านและเข้าออกตามปกติ ชาวบ้านในละแวกนี้ก็จะทราบกันดีว่าเป็นช่วงเวลาที่ลุงเลิกงานกลับมาบ้าน อีกทั้งลุงก็จะขับรถไปทำงานในช่วงเช้ากลับเข้าบ้านช่วงเวลาตามที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะนำไปตีเป็นประเด็นและเชื่อมโยงกับเหตุการณ์นี้ จึงอยากจะชี้แจงกับสังคม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ตนเองในฐานะเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ในวันเกิดเหตุตนเองก็อาศัยอยู่ที่บ้านเลี้ยงลูก ส่วนลุงก็ออกไปทำงาน ดังนั้นช่วงเวลาเกิดเหตุตั้งแต่เช้าถึงเย็น ก็อยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ยืนยันว่าไม่เห็นสิ่งผิดปกติ และซอยของตนเองเป็นทางตัน เข้าแล้วออกทางเดิม ไม่มีคนแปลกหน้าเข้ามา ยกเว้นในวันดังกล่าวจะมีเพียงแค่รถส่งไปรษณีย์และส่งอาหาร ตนเองเป็นคนที่เลี้ยงลูกอยู่ติดกับบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ก็มักจะใช้บริการบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่พบเห็นคนแปลกหน้าเดินผ่านหน้าบ้าน เข้าไปที่บ้านที่เกิดเหตุ