วันที่ 27 ก.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้ควบคุมตัวนายวารุต วัฒนะสัจจะกิจ หรือ หนัด พี่ชายนางหน็อต, นายเปลี้ย คำใส และนายกิตติพงษ์ คำหวัน ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม นางหน็อต สุดแดน น้องสาวนายวารุต และนายอลัน ฮ็อก สามีชาวอังกฤษของนางหน็อต ก่อนจะอำพรางศพฝังดินในพื้นที่บริเวณบ้านผู้เสียชีวิต ไปชี้จุดเพิ่มเติม และนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดแพร่นั้น
วันที่ 27 ก.ย. 61
นายถนอม สุดแดน น้องชายนางนางหน็อตและนายวารุต เปิดเผยกรณีศพของผู้ตายทั้ง 2 คน ไม่สวมเสื้อหลังค้นพบนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบข้อมูล เนื่องจากไม่ได้เดินทางไปดูศพ แต่โดยปกติแล้วหากนายอลันอยู่บ้าน ก็จะไม่สวมเสื้ออยู่แล้ว เพราะอากาศค่อนข้างร้อน จึงมั่นใจว่าขณะเกิดเหตุนายอลัน ไม่ได้สวมเสื้อ
ส่วนนางหน็อต หากไม่ได้ออกจากบ้านก็มักสวมเสื้อสายเดี่ยว ตนคิดว่าศพไม่ได้สวมเสื้ออาจเป็นเพราะขณะเกิดเหตุมีการต่อสู้ ขัดขืน ซึ่งอาจเป็นเหตุทำให้เสื้อผ้าขาดได้ ซึ่งครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจในประเด็นดังกล่าว ตนไปเยี่ยมนายวารุตก็ไม่ได้มีการพูดถึงแต่อย่างใด
ทั้งนี้
นายถนอม กล่าวว่า หากดวงวิญญาณมีจริง ตนก็อยากให้น้องสาวมาหาบ้าง เพราะนอนรอมาหลายคืนแล้ว หากมาหาจริงก็คงได้พูดคุยอะไรกันบ้าง โดยขณะนางหน็อตยังมีชีวิต หากมาเยี่ยมตน เจ้าตัวก็จะมานั่งบริเวณที่นั่งอยู่
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นางหน็อตจะเสียชีวิตนั้น นายหนัดได้นำประแจมาทุบหัวน้องสาว โดย
นายล้วน (สงวนนามสกุล) คนงานที่ทำงานในบ้านผู้เสียชีวิตมานานกว่า 10 ปี เปิดเผยลักษณะการเก็บอุปกรณ์ช่างของบ้านหลังเกิดเหตุว่า ปกติแล้วนายอลันจะเก็บอุปกรณ์ช่างทุกอย่าง โดยการแขวนไว้ที่ฝาผนังโรงรถ เมื่อเข้าไปโรงรถอุปกรณ์จะถูกแขวนเอาไว้ที่ผนังทางด้านขวามือ โดยอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ก็จะตอกตะปูแขวนเอาไว้ แต่หากเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก เช่น ไขควง หรือ ประแจ จะมีซองใส่และแขวนไว้ที่ผนังเช่นกัน โดยทุกช่องเก็บอุปกรณ์จะวาดรูปอุปกรณ์ดังกล่าวเอาไว้ เพื่อความเป็นระเบียบในการจัดเก็บ
นายล้วน เปิดเผยว่า อุปกรณ์ช่างจะถูกเก็บเอาไว้ที่นี่ทั้งหมด ไม่มีจุดอื่นในบ้าน ส่วนตัววันที่เข้าไปทำงานในวันที่ 19 ก.ย. 61 ตนไม่ได้เข้าไปในโรงรถเลย จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีอุปกรณ์หายไป ทั้งนี้หากอุปกรณ์สักชิ้นหายไป ก็จะสังเกตไม่ยาก แต่วันที่ 18-19 ก.ย. ช่วงที่ตนเข้าไปทำงานในบ้านเกิดเหตุก็ไม่พบนายวารุตเลย ซึ่งตนก็ไม่ได้ผิดสังเกตว่านายวารุตไม่อยู่ เนื่องจากปกติหากนางหน็อตอยู่บ้าน นายวารุตก็จะไม่มีหน้าที่ในการสั่งงาน จึงไม่เจอกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นนางหน็อตทะเลาะกับนายวารุต ส่วนหนึ่งเพราะตัวเองอยู่แต่ในสวน
ทั้งนี้ ตนทราบข่าวการจับคนร้ายแล้ว ยอมรับว่าสบายใจขึ้น แต่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนตั้งใจจะเดินทางไปเผาศพเจ้านายทั้ง 2 คนในวันอาทิตย์นี้ แต่คงไม่ได้ไปร่วมงานสวด เพราะวัดค่อนข้างไกล หลังจากนี้หากลูกสาวของนายฝรั่งยังจ้างงานตนต่อ ตนก็ยังคงจะทำงานที่บ้านนี้ ยืนยันว่าไม่กลัว แต่หากเลิกจ้างตนก็ไม่คิดมากอะไร แล้วแต่ครอบครัวผู้เสียชีวิต