เปิดเมรุพิสูจน์กะโหลกตอกบาร์โค้ด พระอึ้งไม่ใช่เศษปูนเผาผี "อ๊อด" ส่งแล็บคลายสะพรึง (คลิป)

จากกรณีนายสฐาพร พรแสน อายุ 26 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ชนรถเก๋ง แล้วถูกรถตู้ทับเสียชีวิต บริเวณถนนเลียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่ญาติจะเผาศพ และพบกับชิ้นส่วนประหลาด เป็นกระดูกมีรอยตอกตัวเลขโค้ด ญาติคาดว่าน่าจะเป็นกะโหลกของนายสฐาพร ผู้เสียชีวิต และแปลกใจว่าตัวเลขที่เห็นคือวันเกิดและวันตาย จึงอยากให้ช่วยไขปริศนานั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัปเหร่อช็อก เผาผีเจอบาร์โค้ดปั๊มกะโหลกตรงวันเกิด - ตาย พ่อเผย 3 เหตุโยงวันพระ

วันที่ 11 ส.ค. 64 ทีมข่าวได้นำชิ้นส่วนกระดูกมายังอาคารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กทม. เพื่อเข้ากระบวนการตรวจสอบว่ โดย รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด ดูลักษณะทางกายภาพ เบื้องต้นของชิ้นส่วนดังกล่าวแล้ว

รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม ม.เกษตรฯ เปิดเผยว่า จากการได้ชิ้นส่วนมา 2 ส่วน ทั้งชิ้นส่วนที่มีตัวเลข และชิ้นส่วนกระดูกส่วนอื่นที่ไม่มีตัวเลขจะเห็นว่าเป็นสีเดียวกัน ไม่มีความแตกต่าง แต่ลักษณะของชิ้นส่วนที่มีตัวเลขดังกล่าว ค่อนข้างมีความเนียนมาก ไม่มีรูพรุน ซึ่งตามลักษณะกระดูกจะต้องมีรูพรุน

เบื้องต้น การทดสอบตัวอย่างดังกล่าวจะนำชิ้นส่วนตัวอย่างกระดูกที่มีตัวเลขไปตรวจสอบ โดยใช้กล้องสแกนนิ่งอีเล็กตรอนไมโครสโคป หรือ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด และอุปกรณ์วิเคราะห์ธาตุ (Scanning electron microscope) แบบ XRD ซึ่งถ้าตรวจสอบแล้วไม่ใช่กระดูกก็จบ แต่ถ้าเป็นกระดูกก็ต้องดูต่อว่าตัวเลขมาปรากฏได้อย่างไร ต้องนำกระดูกทั้งแผ่นมาตรวจดูรอยที่มีตัวเลขว่าถูกปั๊มมานานมากน้อยเพียงใด หากทั้งสองชิ้นส่วนเป็นกระดูกจริง จะต้องมีเคมีที่ตรงกัน

ทั้งนี้ มองว่าอาจจะเป็นอิฐฉนวนกันความร้อนในเมรุเผาศพหรือไม่ หากเป็นอิฐจะเป็นธาตุชนิดหนึ่ง เช่น ไฟเบอร์กลาสที่อัดแน่น และหากเป็นชิ้นส่วนกระดูกก็จะพบธาตุอีกแบบหนึ่งที่พบในสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะพบแคลเซียมเป็นหลัก น่าจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ โดยจากการดูรูปภาพพบว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นฉนวนกันความร้อนที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีบาร์โค้ดการผลิตที่เป็นภาษาอังกฤษ ผีไทยไม่น่าจะรู้จักภาษาอังกฤษ และสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นฉนวนกันความร้อนที่หลุดออกมา และอายุของเมรุ ค่อนข้างนานแล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นฉนวนกันความร้อนหลุดออกจากมุมใดมุมหนึ่งทีละชั้น

จากการดูลักษณะตัวเลขดังกล่าวแล้ว เส้นค่อนข้างคมชัดและเนียนมาก เว้นแต่เป็นอุปกรณ์ที่ทนไฟสูง คือฉนวนกันความร้อนนั่นเอง ที่เมื่อโดนความร้อนก็จะอยู่ดังเดิม แต่หากกระดูกโดนความร้อนลักษณะก็จะเปลี่ยน ส่วนของการผ่าตัด ไม่เคยมีวงการแพทย์ที่จะทำตัวเลขแบบนี้เอาไว้บนกระดูกคนไข้ ตนเองยินดีที่จะตรวจ และฝากให้ฉุกคิดถึงหลักความเป็นจริง ส่วนความสัมพันธ์กับตัวเลขนั้น เลขมีเพียง 10 เลข ก็สามารถที่จะโยงไปได้ทั้งหมด แล้วแต่จะคิดพิจารณา

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้เสียชีวิต จ.ปทุมธานี นายสมใจ พรแสน อายุ 56 ปี และนางสาวทองดี อุ่นแก้ว อายุ 50 ปี พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ได้นำโกศทองเหลืองใส่กระดูกบางส่วนออกมาให้ทีมข่าวดู นำตั้งไว้ในบ้าน หน้ารูปของผู้เสียชีวิต มีชิ้นส่วนปริศนา มีรอยปั๊มตัวเลขอยู่ด้วย พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 ช่วงเวลา 08.00 น. ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ที่เคหะทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลา 10.00 น. โทรศัพท์สอบถามกับแฟนสาวของลูกชายก็บอกว่าลูกชายยังไม่ถึง จึงโทรศัพท์ไปอีกครั้งเวลาประมาณ 11.00 น. ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รับสาย บอกว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ โดยขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋ง และเสียหลักถูกรถตู้จนเสียชีวิต บริเวณถนนเลียบสนามบินสุวรรณภูมิ

โดยวันที่ 6 ส.ค. 64 มีการเดินทางไปเก็บอัฐิของผู้เสียชีวิต ที่วัดทุ่งสีกัน ก่อนที่ตนเองจะเดินทางไปถึงทางเจ้าหน้าที่ของวัดและพระได้ยืนมองดูอัฐิของลูกชายอยู่ จึงเรียกตนเองและครอบครัวไปดู ตนตกใจกันมาก ถามตนเองว่าลูกชายเคยเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดอะไรหรือไม่ ตนเองยืนยันว่าไม่เคย ตนเองและครอบครัวก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่าคือกระดูกของลูกชายร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ได้แต่คิดว่ามันเป็นไปได้อย่างไรที่มีตัวเลขแบบนี้ อยากจะพิสูจน์ความจริงเช่นกันว่าเหตุใดจึงมีตัวเลขแบบนี้เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้อุตริใด ๆ ไม่ได้ปรุงแต่งแน่นอน ชิ้นส่วนดังกล่าว ถ้าไปพิสูจน์แล้ว ถึงจะใช่หรือไม่ใช่กระดูกของลูกชาย ก็จะเก็บไว้ดังเดิม นำไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศล เพราะชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นสิ่งที่มากับลูกชาย จะนำไปไว้ข้างโกศของปู่กับย่าที่ จ.บุรีรัมย์

โดยยืนยันว่า ก่อนนำลูกชายใส่โลงศพลูกชายสวมใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ไม่มีสร้อยพระ มีเพียงนาฬิกาชิ้นเดียวเท่านั้น และพระได้นำออกไปตั้งแต่ก่อนเผาศพแล้ว ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าลูกชายคนนี้จะเรียนช่าง แต่ไม่เคยมีเรื่องให้พ่อกับแม่ลำบากใจ และเป็นลูกชายที่ดีมาโดยตลอด คิดว่าลูกชายคงจะเหนื่อยมามากแล้ว เพราะทำงานและเรียนไปด้วย มาตั้งแต่เด็ก

ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดทุ่งสีกัน (พุทธสยาม) ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ฌาปนกิจศพ พระองอาจ อติธัมโม พระที่ดูแลเตาเผา พาทีมข่าวไปดูบริเวณเตาเผาศพของวัด

ล่าสุดมีพิธีฌาปนกิจศพไปเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา และจะมีการเผาอีก 1 ศพช่วงเย็น ลักษณะเตาเผาด้านในเป็นอิฐเรียงกัน ไม่พบรอยฉลุเลขแบบชิ้นส่วนที่พบ มีช่องระบายความร้อน ด้านบนมีปล่องควัน รวมถึงมีช่องด้านหน้าสำหรับกวาดกระดูกลงไปยังถาดเพื่อคัดแยกต่อไป

พระองอาจ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงที่ศพนายสฐาพรเข้ามาที่วัด ก็มีการนำบรรจุใส่โลงเย็น ตั้งโลงไม้หลอกไว้ด้านหน้า จนกระทั่งวันเผา 5 ส.ค. 64 จึงได้มีการนำศพบรรจุในโลงไม้ และเวียนศพรอบเมรุ ก่อนนำขึ้นไปทำพิธีบนเชิงตะกอน ชักผ้าบังสุกุล นำหีบวางหน้าเตา เปิดฝาโลงรอสัปเหร่อ ล้างหน้าศพ และให้ญาติวางดอกไม้จันทน์ไว้ในหีบ ไม่นานจึงได้นำเข้าเตาปกติ เวลา 17.00 น. และล็อกประตูเตา ไม่มีใครมายุ่งเกี่ยว

จนกระทั่งวันที่ 6 ส.ค. 64 มาเขี่ยกระดูกที่เผาแล้วเวลาประมาณ 06.00 น. ใส่กล่องโลหะด้านล่าง นำกล่องออกมาเขย่าเพื่อคัดแยกกระดูกกับขี้เถ้าให้ออกจากกัน จากนั้นก็จะแปรธาตุเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ กระดูกของร่างกาย

โดยชิ้นส่วนที่พบนั้นอาตมามองว่า 50 เปอร์เซ็นต์อาจจะเป็นกระดูกเพราะโดยโครงสร้างและขนาดและสี เหมือนกับกระดูกที่เผาแล้ว ตั้งแต่ดูแลเตาเผาศพมาไม่เคยเจอชิ้นส่วนแบบนี้มาก่อน โดยชิ้นส่วนดังกล่าวไม่ใช่โลหะ เพราะจะมีการใช้แม่เหล็กคัดแยกตะปูโลงศพ และลวดจากดอกไม้จันทน์ โดยชิ้นส่วนนี้ไม่ได้ติดไปด้วย

ส่วนที่อาจารย์อ๊อดมองว่าอาจจะเป็นฉนวนกันความร้อนนั้น ก็อาจเป็นไปได้ เพราะเตาดังกล่าวเป็นเตารุ่นใหม่ ใช้น้ำมันและไฟฟ้าเป็นตัวจุดไฟ โดยอิฐด้านในเตาเผา มีการเปลี่ยนล่าสุด เมื่อเดือน มี.ค. 64 ที่ผ่านมา ส่วนโครงเตาด้านนอกอายุประมาณ 20 ปี และโครงสร้างเมรุ อายุประมาณ 40 ปี จากการดูด้วยสายตาเปล่าไม่มีรอยฉลุ ลักษณะนี้ในอิฐด้านในเตาโดยเตานี้ยังไม่เคยมีปัญหามาก่อน ใช้ได้ปกติ ส่วนเรื่องเลขที่สอดคล้องกับวันเกิดนั้น อาตมามองว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เป็นไปได้ทั้งอาจมีสิ่งของตกหล่นช่วงวางดอกไม้จันทน์ และอาจมีอะไรหล่นลงไปช่วงเผาได้เช่นกัน

นายรัญ อายุ 42 ปี ช่างเทคนิคซ่อมบำรุงเตาเผา เปิดเผยว่า ตัวเลขที่ปรากฏบนกระโหลกดังกล่าวไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติแล้วตัวอิฐ หรือฉนวนกันความร้อนของเตาจะไม่มีตัวเลขลักษณะนี้ติดอยู่ ทั้งนี้ ถ้าตัวอิฐสกรีนจะเป็นแบบพ่นสี ไม่มีการพิมพ์นูนหรือพิมพ์ต่ำ อีกทั้งผนังเตาทุกด้านจะเป็นผนังเรียบทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่จะมีตัวเลข ส่วนฉนวนความร้อนเป็นวัสดุใยแก้วจะอยู่ขั้นระหว่างอิฐทนไฟ กับตัวผนังเตาจะไม่สัมผัสกับตัวกระดูก จึงไม่น่าจะหลุดลงมาปนกับกระดูกได้

ทั้งนี้ หากเป็นวัสดุอื่น เช่น อิฐที่เสื่อมชำรุดสามารถหลุดลงมาได้ แต่ถ้าหลุดลงมาน่าจะกระแทกกระโหลกแตก ไม่น่าจะพิมพ์ออกมาเป็นตัวเลขได้ชัดเจนแบบนั้น ยิ่งเป็นกระโหลกด้านในไ ม่มีอะไรไปพิมพ์ได้อยู่แล้ว จากภาพที่เห็นถ้ามองด้วยสายตาเหมือนกระโหลกจริง กรณีเรื่องลี้ลับ ถ้าเป็นกระโหลกไม่เผาไหม้หรือมีหนังติด ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่พิมพ์ชัดเจนแบบนี้ตนไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

ปกติการเปลี่ยนอิฐของเตาจะอยู่ได้นานหลายปี แต่การซ่อมบำรุงรักษาจะต้องดูแลประมาณ 6 เดือนต่อ 1 ครั้ง ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ตนเพิ่งจะไปบูรณะเตาเผาดังกล่าว และไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีอะไรหลุดออกมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวมองว่า ไม่น่าจะเป็นกระโหลกอาจจะเป็นวัสดุอื่นที่อยู่ในโลงศพ แต่พอนำมาเผาไหม้แล้วเผาไม่หมด จึงปรากฏเป็นเลขดังกล่าวขึ้นมา