จากกรณีเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 10 ส.ค. 64 ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน รับแจ้งเหตุคนงานชาวกัมพูชาใช้มีดสปาต้าฟันคอกันเสียชีวิต เหตุเกิดในบ้านพักคนงาน ไม่มีบ้านเลขที่ หมู่บ้านวังกระทิง ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ชัชวาล โตโสภณ ผกก.สภ.โป่งน้ำร้อน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักคนงาน อยู่ในสวนลำไย พบศพนายโสพร เชิง อายุ 47 ปี คนงานชาวกัมพูชา สภาพนอนเสียชีวิตจมกองเลือด ที่คอมีบาดแผลฉกรรจ์ ถูกฟันจนเกือบขาด ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายทิศ รอง หรือ เมียน อายุ 34 ปี เป็นคนงานชาวกัมพูชาเช่นกัน หลังก่อเหตุได้วิ่งเข้าป่าหลบหนีไปแล้วนั้น
หลังจากเกิดเหตุ เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 19.00 น. ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน, ฝ่ายปกครอง ชรบ.หมู่บ้าน ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 และ ตชด.115 ได้รับ 200 นาย ได้เดินปูพรมเป็นวงกลม ตามหาตัวผู้ก่อเหตุตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งกดดันให้ผู้ก่อเหตุเดินไปทางชายแดนประเทศกัมพูชา เพราะในแนวชายแดนนั้นมีทหาร และ ตชด. ตรึงกำลังในเขตแดนอยู่
กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 ส.ค. 64 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จับตัวทิศ รอง หรือเมียน หลังจากที่ผู้ก่อเหตุหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าตลอดทั้งคืน ผู้ก่อเหตุอยู่ในสภาพอิดโรย เดินออกจากป่ามาหาอาหารกินบนถนนและพบกับเจ้าหน้าที่ทำให้ถูกจับกุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการจับกุมเพียง 16 ชั่วโมง
เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ชัชวาล โตโสภณ ผกก.สภ.โป่งน้ำร้อน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากนั้น ผู้กำกับและตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน, ฝ่ายปกครอง ชรบ.หมู่บ้าน, ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 และ ตชด.115 ได้คุมตัวนายทิศ รอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายบ้านพักคนงานกลางสวนลำไย บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะจุดเกิดเหตุอยู่กลางสวนลำไย และไม่มีชาวบ้านมามุงดู
ซึ่งทันทีที่ไปถึง นายทิศ รอง ยอมเปิดเผยว่า สาเหตุที่ตัวเองต้องฟันนายโสพร เพราะนายโสพรวิ่งเข้ามาหาเหมือนจะทำร้าย ในตอนนั้นตนที่ถือมีดอยู่ จึงได้ฟันคอนายโสพรไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ทิ้งมีดไว้หลังบ้าน ก่อนจะวิ่งหนีเข้าป่าไป
หลังจากนั้นตำรวจก็ได้พาตัวนายทิศ รอง ไปชี้จุดแรกเป็นห้องของนายทิศ รอง ซึ่งเป็นเพิงพักสังกะสี นายทิศได้เข้าไปชี้จุดหยิบมีดที่หัวเตียง หลังจากหยิบมีดแล้ว ก็ไปชี้จุดที่ลงมือฟันคอนายโสพร ซึ่งอยู่ถนนหน้าห้องพัก หลังจากนั้นก็ชี้ทิศทางที่วิ่งหนีและชี้จุดทิ้งมีดซึ่งอยู่หลังห้องพัก จากนั้น ตำรวจคุมตัวนายทิศไปยังจุดจับกุม เป็นหน้าร้านค้าริมถนน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1.7 กิโลเมตร
นายทิศ รอง ผู้ต้องหา เปิดเผยผ่านล่ามแปลว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 18.30 น. ตนและนายโสพร และเพื่อน ๆ ในแคมป์คนงาน รวมประมาณ 5 คน ได้นั่งดื่มเหล้ากัน เมื่อเริ่มเมานายโสพรได้พูดเหยียดหยามตนโดยการด่าพ่อด่าแม่ ตนกับนายโสพรจึงมีปากเสียงกัน ตนที่ทนไม่ไหว เดินไปบอกภรรยาว่า "วันนี้ไม่ตนก็นายโสพรต้องตายกันไปข้างหนึ่ง"
หลังจากนั้น ตนได้เดินไปหยิบมีดดาบที่เก็บเอาไว้ที่หัวเตียง และตั้งใจจะเดินไปฟันนายโสพร ขณะเดียวกันนายโสพรได้เดินตามมาพอดี ตนจึงใช้มีดฟันคอนายโสพร 1 ครั้ง ต่อหน้าภรรยาของตน หลังจากนั้ นตนก็หลบหนีเข้าป่าไป
นายทิศ ยอมรับว่ามีความแค้นกับนายโสพรมานาน เพราะเขาชอบพูดเหยียดหยาม และด่าพ่อด่าแม่ตนมาตลอด ตนได้เตรียมมีดมาไว้กับตัวตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา จนครั้งนี้ทนไม่ไหว และได้ลงมือฟันคอนายโสพร ตนยืนยันว่าการทำร้ายในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว แต่เป็นความแค้นส่วนตัวกับผู้เสียชีวิตที่มีสะสมมา อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้หลบหนีอยู่ในป่าตลอดทั้งคืน อาศัยกินน้ำจากบ่อและแหล่งน้ำธรรมชาติ และปิดเครื่องโทรศัพท์ ทำให้ไม่เห็นข้อความที่ภรรยาส่งมาขอให้มอบตัว จนกระทั่งตอนเช้าทนความหิวไม่ไหว จึงได้เดินออกจากป่า และพบกับเจ้าหน้าที่ จึงถูกจับกุมตัว
นายบรรจง ทองคำ อายุ 69 ปี เจ้าของร้านชำใกล้กับจุดจับกุม เป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 11.00 น. นายทิศ รอง ไม่ทันได้เดินมาซื้อของร้านตน ก็ถูกตำรวจจับกุมตัวเสียก่อน หลังจากตำรวจจับเขา ก็พาตัวมาที่ร้านของตนและซื้อขนมให้กิน
ทั้งนี้ ตนรู้จักกับนายโสพรเป็นการส่วนตัว เพราะนายโสพรทำงานเป็นคนงานเก็บลำไยมาหลายปี นายโสพรเป็นคนร่าเริง นิสัยสนุกสนาน ชอบพูดหยอกล้อกับเพื่อน ๆ ซึ่งตนไม่เชื่อคำกล่างอ้างของนายทิศ รอง ที่อ้างว่านายโสพรด่าพ่อด่าแม่เขามานาน เนื่องจากนายโสพรไม่มีนิสัยแบบนั้น และไม่เคยแสดงพฤติกรรมเรื่องชู้สาวกับภรรยาผู้อื่นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้จักนิสัยใจคอของนายทิศ รอง เพราะเขาเพิ่งจะเข้ามาอยู่ ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่นายโสพรถูกฆ่าตาย เพราะเขาเป็นคนดี
พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ บำรุงราษฎร์ สารวัตรสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน เปิดเผยว่า ในช่วงสายของวันนี้ ตนได้เข้าไปสอบปากคำภรรยาผู้ต้องหาในแคมป์คนงาน แต่ระหว่างเดินทางกลับ สังเกตเห็นนายทิศ รอง กำลังเดินอยู่ริมทางบริเวณหน้าร้านค้า ซึ่งเมื่อเขาเห็นรถตำรวจ ก็ดูท่าทางปกติ ไม่ได้ตกใจ ตนจึงจอดรถถาม ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าฆ่าคนมา ออกจากป่าเพราะหิว และยอมให้จับกุม ตนจึงซื้อขนมและน้ำให้กิน และคุมตัวกลับ สภ.โป่งน้ำร้อน