กรณีเวลา 06.42 น. ของวันที่ 12 ส.ค. 64 ร.ต.อ.ทรงวุฒิ ทองสม รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัษฎา ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกยิงด้วยอาวุธปืน นอนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนลูกรังสายหลัง อบต.ควนเมา หมู่ 2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อาคม บัวทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง ชุดสืบสวน สภ.รัษฎา ตำรวจกองปราบปราม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง ฝ่ายปกครอง, หน่วยกู้ภัยสว่างภักดี, หน่วยกู้ชีพ ต.หนองบัว พบที่เกิดเหตุบนถนนลูกรัง เป็นทางเปลี่ยว ไม่มีบ้านเรือนประชาชน สวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพาราสลับกัน
พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียน กม 6507 นครศรีธรรมราช จอดติดเครื่องยนต์อยู่บนถนน ริมถนนพบร่างของ นายปารเมษฐ์ แซ่หลี หรือ เบส อายุ 25 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ สวมเสื้อยืดลายพรางทหารสีน้ำตาล นุ่งกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน คาดกระเป๋าคาดเอว 1 ใบ นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด ลักษณะตัวแข็ง ตาเปิด
เบื้องต้น ชันสูตรพลิกศพพบถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองไม่ทราบขนาด กระสุนลูกซองเจาะเข้าที่ใบหน้า และหน้าอก รวม 2 นัด เป็นแผลแผลเหวอะ ใกล้กันห่างจากร่างไปประมาณ 50 ซม. พบปลอกกระสุนลูกซอง 1 ปลอกตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในกระเป๋าคาดเอว พบเงินสดจำนวน 3,000 บาท และยาบ้าจำนวน 1 เม็ด
ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ตลอดเส้นทางพบพื้นที่เป็นป่ายางและสวนปาล์มตลอดสองข้างทาง เป็นทางลูกรัง เมื่อถึงในพื้นที่ยังพบร่องรอยเลือดที่ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ จากการสำรวจจุดเกิดเหตุเป็นเส้นทางตัดผ่านไปถนนชนบทได้ทั้งหน้าและหลัง และสามารถทะลุไปยังถนนทางหลวงหมายเลข 403 ได้เช่นกัน
นายโกมาส ทองอ่อน อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ควนเมา เปิดเผยว่า เมื่อคืน 20.00 น. เฝ้าเวรผู้ป่วยโควิดอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลควนเมาห่างที่เกิดเหตุ 500 เมตร ได้ยินเสียงปืน 2 นัดติดต่อกัน แต่ไม่เอะใจ เพราะปกติในพื้นที่ไม่มีอะไร ประกอบกับไม่มีชาวบ้านแจ้ง ไม่คิดว่ามีการยิงกันตาย เนื่องจากเส้นทางนี้ช่วงกลางคืนไม่มีคนสัญจรผ่าน เพราะเคยมีเหตุถูกลวงฆ่าเกิดขึ้น 1 ครั้ง เมื่อปี 2551
ต่อมาตอนเช้าเวลา 06.00 น. จึงได้รับแจ้งจากคนขายน้ำยาง จึงรีบเข้าพื้นที่ตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มไปหมด พร้อมมีการปิดกั้นพื้นที่ สวนรถที่จอดอยู่ก็ยังติดเครื่องยนต์อยู่ แค่ไฟหน้าดับสนิท แต่ปรากฏว่าชาวบ้านที่พบนั้นไม่มีใครรู้จักคนตาย จึงคาดว่าเป็นคนนอกพื้นที่
น.ส.มนฤดี แซ่หลี อายุ 39 ปี น้าสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวานก่อนเกิดเหตุ หลานชายเสร็จจากการส่งไม้ ปล่อยให้คนงานเอาไม้ลงตามปกติ และได้ยืมรถเพื่อน เพื่อไปรับแฟน โดยที่ยังไม่ได้ตกลงเรื่องซื้อขายไม้ที่เอามาส่ง และยังไม่ได้รับเงินค่าไม้ ตนก็ไม่คิดอะไรเพราะคิดว่ารีบไปรับแฟน ซึ่งวันนี้แฟนต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่เมื่อตนโทรไปถามแฟนหลาน ปรากฏว่าหลานยังไม่ได้ไปรับ ตนจึงพยายามขับรถออกไปตามหา และโทรหาตลอด คนที่บ้านต่างก็เป็นห่วง ระหว่างที่เดินทางมาที่เกิดเหตุตนได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เป็นหลานชาย แต่เมื่อเห็นก็ตกใจ ตนก็ไม่รู้ว่าหลานไปมีปัญหาอะไรกับใคร เพราะหลานไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟัง
แนวทางการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างตัดไม้ยางพารา และไม้อื่น ๆ ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของคืนที่ผ่านมา หลังจากเสร็จงานผู้ตายได้มายืมรถเก๋งคันดังกล่าวจากนายเค ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ตาย โดยที่รถคันดังกล่าวมี ว่าที่ ร.ต.วุฒิพงษ์ ทหารในพื้นที่ จ.ปัตตานี เป็นผู้ครอบครอง แต่ได้นำมาให้น้องชายคือนายเค เพื่อนผู้ตายมาใช้งาน บอกว่าจะนำมารับแฟนสาว ที่ทำงานอยู่โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง
หลังจากนั้น เวลาประมาณ 20.00 น. นายเคไม่สามารถติดต่อได้ และยังไม่ได้ไปรับแฟนสาว ทางบรรดาญาติและนายเคต่างออกกันตามหา แต่ไม่พบตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.42 น. ของเช้าวันนี้ ได้มีชาวบ้านที่กรีดยางพาราขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวได้พบศพ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อาคม บัวทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ในเส้นทางที่ผู้เสียชีวิตขับผ่านและจุดเกิดเหตุ และตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์มือถือว่ามีบุคคลใดอยู่ในพื้นที่ตรงกับช่วงเวลาที่ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนบ้าง ซึ่งตำรวจกำลังเร่งทำงาน พร้อมกับการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคนตายมาสอบปากคำ เพื่อคลี่คลายคดีนี้และจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว