วันที่ 28 ก.ย. 61 พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เกี่ยวกับการทำงานวันสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ว่า แม้จะเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน แต่ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น รู้สึกปกติดี เพียงแค่ยอมใจลูกน้องที่สู้ไม่ถอย อย่างเรื่องยาเสพติดล็อตใหญ่ที่นำมาแถลงวันนี้ ก็เพิ่งจะจับได้เมื่อวาน
ทั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้อยู่ทำงานต่อ เพราะไม่ได้ถูกย้ายแต่เป็นการเกษียณอายุ ซึ่งถือว่าเป็นการหมดภารกิจอย่างชัดเจน และที่ผ่านมานี้ก็ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำแล้ว ส่วนงานที่ยังทำไม่เสร็จ ก็เพราะบางคดีอาจใช้เวลาเป็นปีหรือ 2 ปี บางครั้งความต่อเนื่องของอายุราชการอาจไม่เสถียร
ส่วนเรื่องที่หลายคนชื่นชมว่ากล้าชนกับอิทธิพลนั้น พล.ต.ท.สมหมาย ยอมรับว่า เพราะองค์กรตำรวจถูกกำหนดให้ปราบปรามอาชญากรรมอยู่แล้ว หากจะมีใครคิดจะกดดันองค์กรตำรวจ ก็อยากจะเตือนไว้ว่า ท่านอาจจะเจอคนที่ไม่สู้ท่าน แต่คนที่พร้อมจะสู้กับท่านมีอีกเป็นร้อยเป็นพันคน นักมวยทุกคนไม่ได้เก่งทุกคน แต่คนเก่งก็มีเยอะ
ส่วนการที่ตนเองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจที่ทำผิดนั้น ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร ที่ออกมาพูดเพราะเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นข่าวอยู่แล้ว เราเพียงแต่บอกว่าสิ่งที่เขาทำ ว่าทำให้ตำรวจส่วนใหญ่เสียใจ ไม่ได้โกรธเพียงแต่รู้สึกเสียใจที่ทำไมเขาไม่มององค์กรใหญ่เป็นหลัก
ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังบอกทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวคงไม่ได้ฝากอะไรถึงผู้บัญชาการคนใหม่ เพราะการรับราชการไม่มีการฝาก การรับราชการเป็นนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งรับนโยบายจากรัฐบาลมาปฏิบัติต่อ เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งแล้ว ก็ต้องคิดแผนงานโครงการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติได้
ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก "สุรเชษฐ์ หักพาล" ได้ทำโพลสำรวจในหัวข้อ ผู้บัญชาการในดวงใจ "ทำงานโดนใจ ใช่เลย" ปรากฏว่า 800 เสียงโหวตให้ "สมหมาย กองวิสัยสุข" ชนะขาดลอยเป็นอันดับ 1 ด้วยเหตุผลที่ระบุไว้ว่า ทำงานจริงจัง ใจถึงพึ่งได้ ขับเคลื่อนองค์กรมีประสิทธิภาพ ถึงแม้วันนี้ยาเสพติดจะยังล้นประเทศทุกมุมเมือง ประชาชนยังส่งแรงเชียร์ อยากให้ "ท่านสมหมาย" ต่ออายุราชการ นั่งเก้าอี้ดูแลงานด้านยาเสพติดต่อไป