เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 64 กรณีนายแสน ปทุมสูตร อายุ 65 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางอารี ปทุมสูตร ภรรยา และนายโชติยัฒน์ ปทุมสูตร ลูกชาย คนละ 1 นัด ขณะนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในบ้าน จากนั้นเดินถือปืนออกมาที่ตึกแถวหน้าบ้านที่เป็นร้านขายหมู เข้าไปยิงนายอุ้ย ศรีเหรา พ่อตา และนางวิชุดา เย็นใจดี น้องเมีย ขณะนอนดูโทรทัศน์อยู่จนล้มลงทั้งคู่ ก่อนจะหลบหนีไปแล้วยอมเข้ามอบตัวช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เขยคลั่งบ่มแค้น 10 ปียิงยกครัวเมีย 3 ศพ ขู่แม่ยายฆ่าล้างโคตร ไม่รู้ตัวปลิดชีพลูก
- เขยโหดคลั่ง! ลากปืนยิงยกครัวสังเวย 3 ศพ เมียสาหัส ขับกระบะหนีก่อนมอบตัว
ล่าสุด วันที่ 14 ส.ค. 64 นายทองเปลว ศรีเหรา อายุ 80 ปี เพื่อนบ้าน ระบุว่า คืนเกิดเหตุลูกสาวออกไปซื้อข้าวให้ตนที่ร้านติดกัน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืน 2 นัด ซึ่งน่าจะเป็นช่วงท้าย เพราะไม่ได้ยินเสียงช่วงแรก ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงเดินออกไปดู พบว่าผู้ก่อเหตุขับรถหนีไปแล้ว ส่วนลูกสาวก็เข้าไปหลบอยู่ในร้านค้า
ซึ่งช่วงเกิดเหตุในช่วงแรก น.ส.กุ้ง (นามสมมติ) ลูกสาว ก้มลงไปหมอบกับพื้นด้วยความตกใจ เนื่องจากลูกสาวป่วยเป็นไมเกรน หากมีเสียงดังหรือมีกระทบกระเทือนจิตใจก็จะตกใจและช็อก หลังเกิดเหตุลูกสาวของตนอาการกำเริบต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะตกใจเสียงปืน และหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผู้เสียชีวิตก็เป็นญาติกัน ตอนนี้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทราบว่านายแสนเป็นผู้ก่อเหตุ ก็น่าจะเกิดจากปัญหาที่ทะเลาะกับภรรยามานาน โดยตนก็เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะรู้จักกับนายแสนมานาน ส่วนผู้ตายก็เป็นญาติกัน
เวลา 16.00 น. ที่วัดโพธาราม ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพนายอุ้ย ศรีเหรา ซึ่งเป็นพ่อตา และนางวิชุดา เย็นใจดี น้องเมียของผู้ก่อเหตุ มาถึงศาลาบำเพ็ญกุศลศพ ส่วนศพของนายโชติวัฒน์ ปทุมสูตร ลูกชายผู้ก่อเหตุ ยังไม่ได้รับศพออกมา เนื่องจากรอพี่สาวที่กำลังเดินทางมาจากประเทศอังกฤษ
หลังเจ้าหน้าที่เคลื่อนศพมาถึง ญาติบางส่วนทำพิธีขออโหสิกรรม ด้วยการจุดธูป 1 ดอกเพื่อไหว้ศพ แล้วจึงยกทั้ง 2 ศพไปวางกลางศาลา จากนั้นญาติทั้งหมดที่อยู่กลางศาลา จุดธูป 1 ดอก ร่วมกันกล่าวอโหสิกรรม โดยนางม่วย ศรีเหรา ภรรยาและแม่ของผู้ตายนั่งตรงกลางระหว่าง 2 ศพ ระหว่างทำพิธีญาติต่างร้องไห้ โดยเฉพาะนางม่วย ซึ่งหลาน ๆ ต้องเข้ามาประคอง
หลังจากนั้น มีพิธีรดน้ำศพ ซึ่งก็มีทั้งญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมรดน้ำ แสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต เวลา 17.00 น. ญาติร่วมกันนำศพใส่โลงเย็นวางคู่กันด้านในศาลา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ด้านนางวรรณา อาจคงหาญ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบข่าวว่านายแสนกับภรรยามีปากเสียงทะเลาะกันตามประสาผัวเมีย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขั้นต้องเข้าไประงับเหตุ และสักพักทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.15 น. ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าญาตินำ นางอารี ปทุมสูตร ซึ่งเป็นภรรยา นายอุ้ย ศรีเหรา ซึ่งเป็นพ่อตา และนางวิชุดา เย็นใจดี น้องเมียไปส่งโรงพยาบาล เหลือนายโชติวัฒน์ ปทุมสูตร ซึ่งเป็นลูกชาย ที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านช่วยกันปั๊มหัวใจและยกขึ้นรถไปโรงพยาบาลทันที
ส่วนแม่ยายผู้ก่อเหตุช็อกเป็นลม ตนจึงต้องช่วยพยุงขึ้นท้ายรถกระบะ เพื่อนำไปโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน ส่วนนายแสน ผู้ก่อเหตุขับรถหนีไปแล้ว โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ทราบปมเหตุ เพราะที่ผ่านมานายแสนเป็นคนนิสัยดี ทำงานช่วยเหลือครอบครัว ภรรยาก็เป็นคนเก่ง ขยันทำงานเช้าเย็น พ่อตาแม่ยายก็รักลูกเขย จึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว
