จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ผจญ จันทร์สิงห์” โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอบริเวณหน้าโรงพักวิเศษชัยชาญ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ขณะที่รถตู้โดยสารสาธารณะซึ่งเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้วนั้นจู่ ๆ ไฟเลี้ยวด้านขวาที่พังเสียหายก็เกิดติดกะพริบขึ้นและมีเสียงดังที่บริเวณรถ นานกว่า 10 นาที ก่อนที่จะดับไป โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป จึงทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
วันที่ 1 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรวิเศษชัยชาญเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงพบ ดาบตำรวจ ผจญ จันทร์สิงห์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ก.ย.) ขณะเข้าเวรเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุศูนย์วิทยุ 191 อยู่ด้านบนอาคาร จู่ ๆ รถตู้โดยสารซึ่งเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และถูกลากมาไว้ที่ด้านหน้าสถานีตำรวจฯ ห่างจากห้องทำงานของตนประมาณ 100 เมตรก็มีเสียงดังและไฟเลี้ยวด้านขวาก็ติดกะพริบอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งตนเองรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากรถตู้คันดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรถแล้ว
ตนจึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปและโพสต์ลงในกลุ่มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็มีประชาชนแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนปฏิบัติหน้าที่ที่สถานีตำรวจแห่งนี้มาหลายปี ก็เคยเห็นเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาบ่อยครั้ง จึงไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบ รถตู้โดยสารคันดังกล่าว พบว่าได้รับความเสียหายจนยับเยิน สายไฟทั้งด้านหน้าและด้านในตัวรถขาดจากกันแทบทั้งหมด และไม่พบว่ามีแบตเตอรี่อยู่ในรถ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ได้สร้างความสงสัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นอย่างมาก รวมถึงได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจะเป็นวิญญาณของผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ทราบว่าตนเองตายมาที่รถก็เป็นได้ หรือเกิดจากไฟที่ยังค้างอยู่ในกล่องคอมพิวเตอร์ของรถ เมื่อถูกฝนตกอาจจะเกิดไฟลัดวงจรก็เป็นได้
และจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตในรถตู้คันดังกล่าว ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดเนื่องจากไม่มีหลักฐานติดตัวอยู่เลย มีเพียงใบเสร็จค่าโทรศัพท์ที่ซื้อจากห้างแห่งหนึ่งที่จังหวัดปทุมธานี ระบุว่าชื่อ หม่อง แต่เมื่อตรวจสอบไปยังร้านค้าดังกล่าวพบแต่เพียงภาพจากกล้องวงจรปิดของผู้เสียชีวิตที่ใช้ผ้าปิดหน้าเข้าไปซื้อโทรศัพท์ 2 เครื่องเท่านั้น แต่ไม่มีหลักฐานอย่างอื่น
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝากประชาสัมพันธ์กับผู้ที่รู้จักให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ สภ.วิเศษชัยชาญ ที่เบอร์ 03-563-1111 เพื่อที่จะได้ติดตามญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป